บันเทิง

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คุยกับ"ชินอิจิโร่ อุชิจิมะ" และ "เคย์อิจิ มิตะ" สองหัวเรือใหญ่ผู้ปลุกปั้น "I want to eat your pancreas เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน" เวอร์ชั่นอนิเมะ

         บันเทิง คมชัดลึก - จากนิยายสุดซึ้งสู่ภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดง ล่าสุด “I Want to Eat Your Pancreas ” ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบแอนิเมชั่นและกำลังจ่อคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้พร้อมกับชื่อไทยว่า  “เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน” เรื่องราวความรักสุดโรแมนติกเรียกน้ำตาว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายหนอนหนังสือคนหนึ่ง (มาฮิโระ ทากาสุงิ) ที่ค้นพบไดอารี่เล่มหนึ่งของ ซากุระ ยามาอุจิ (ลินน์) เด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นของเขาและรู้ว่าเธอกำลังจะตายด้วยโรคเกี่ยวกับตับอ่อน 

 

 
'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

         และก่อนที่แฟนๆจะได้พิสูจน์ความซาบซึ้งกับการกลับมาอีกครั้งในรูปแบบอนิเมชั่นของเรื่องราวความรักสุดแสนโรแมนติกในโรงภาพยนตร์  บุคคลสำคัญทั้งสามจากโปรเจ็กต์”ตับอ่อน” เวอร์ชั่นอนิเมะ อย่าง ผู้กำกับ 'ชินอิจิโร่ อุชิจิมะ' (One Punch Man, My Love Story!!) ผู้อำนวยการสร้างโดย เคย์อิจิ มิตะ (Ushio & Tora) และนักพากษ์หนุ่ม 'มาฮิโระทากาสุงิ' (The World of Kanako) ก็ได้ออกมาพูดถึงความน่าสนใจของโปรเจกต์นี้ไว้อย่างน่าติดตาม

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย



@ ทำไมพวกคุณถึงเลือกคุณ มาฮิโระ ทากาสุงิ ให้มาพากย์เสียง “ตัวผม”

         เคย์อิจิ (ผู้อำนวยการสร้าง): หลังจากที่ผมได้ฟังการอ่านบทของ ทากาสุงิ แล้ว ผมก็รู้สึกประทับใจกับน้ำเสียงของเขาครับ “ตัวผม” จากในเรื่องนั้นจำเป็นต้องใช้คนที่สามารถพูดเสียงตายหรือเสียงที่ไม่สื่อถึงอารมณ์ใดๆ ออกมาได้ ซึ่งทากาสุงิก็เป็นคนที่สามารถใช้น้ำเสียงแบบนั้น

         ชินอิจิโร่ (ผู้กำกับ) : “ตัวผม” เป็นตัวละครที่มีนิสัยเงียบขรึม ตรงกันข้ามกับ ซากุระ ซึ่งเป็นตัวละครที่สดใสร่าเริง ในเรื่องของน้ำเสียงผมมีความเห็นว่า เราควรใช้นักพากย์ที่มีน้ำเสียงตรงกันข้ามกัน เราต้องการนักพากย์ในบทของ “ตัวผม” ที่มีโทนเสียงต่ำ และเมื่อผมได้ฟังเสียงของทากาสุงิ ผมก็รู้สึกว่าเสียงของเขาคงสามารถเข้ากับตัวละครตัวนี้ได้ดีครับ

@ สำหรับประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้มาพากย์เสียงให้กับตัวละครอนิเม คุณมาฮิโระรู้สึกอย่างไรตอนที่คุณรู้ว่าตัวเองได้รับเลือกครับ

         มาฮิโระ (“ตัวผม”): ผมเป็นคนที่ชอบอนิเมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ตอนผมยังอยู่กับครอบครัวที่ฟุกุโอกะ ผมได้ดูอนิเมอยู่เรื่อยๆ ผ่านทางเคเบิลทีวี แต่พอผมย้ายมาโตเกียว ที่นี่กลับไม่มีเคเบิ้ลทีวีให้ผมดู ผมก็เลยหาทางอื่นเพื่อให้ได้ดูอนิเม จนกระทั่งผมได้พบกับช่องอนิเมที่ฉายในช่วงกลางคืน ประสบการณ์เหล่านั้นทำให้ผมเป็นคนชอบอนืเม และการพากย์เสียงก็เป็นงานอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะทำ ผมจึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ ครับเมื่อผมได้

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

@ ดูเหมือนความฝันของคุณได้เป็นจริงแล้วใช่ไหม คุณรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดไหนครั

         มาฮิโระ: อันที่จริง เป็นเพราะผมไม่ได้คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าจะได้รับบทพากย์นี้ ในตอนนั้นผมจึงรู้สึกประหม่ามากๆ ครับ (หัวเราะ) มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนครั้งแรกที่ผมต้องแสดง ผมต้องหาทางเชื่อมต่อระหว่างคำพูดและตัวละคร ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ยากมากสำหรับผม เหมือนกับการหาทางเชื่อมต่อระหว่างความจริงและความฝันเลยครับ คำถามได้เกิดขึ้นกับผมมากมาย อย่างเช่น ถ้าผมอยากจะฝึกฝนอยู่ที่บ้าน ผมจะต้องทำอย่างไรบ้าง ทั้งการแสดงและการพากย์เสียงล้วนแต่มีจุดเชื่อมโยงอย่างเดียวกัน ซึ่งก็คือตัวละคร แต่ในความคิดของผมนั้น การพากย์นั้นจำเป็นต้องใช้ความสามารถพิเศษของตัวนักพากย์เพื่อบรรยายความรู้สึกของตัวละคร ส่วนในวันแรกที่ผมต้องไปพากย์น่ะเหรอ ผมตัวสั่นทั้งเพราะความดีใจและความเหวอเลยครับ (หัวเราะ)

         ชินอิจิโร่: ในตอนนั้นคุณพูดรัวมากเลยนะ ผมยังจำได้เลยว่าให้คุณใจเย็นแล้วค่อยๆ พูด (หัวเราะ) “ตัวผม” เป็นตัวละครที่พากย์ค่อนข้างยาก เพราะเขาเป็นตัวละครหน้าตาย ถึงแม้ว่าเราจะต้องแนะนำเขาบ้าง มาฮิโระก็สามารถปรับตัวให้เข้าตัวละครตัวนี้ได้อย่างรวดเร็วครับ ทุกครั้งที่เราขอให้เขาพากย์อีกรอบ การพัฒนาของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฉากที่ “ตัวผม” ต้องร้องไห้ ผมนี่ถึงกับน้ำตาซึมตรงนั้นเลยครับเมื่อผมได้ฟังน้ำเสียงของเขา

         เคย์อิจิ: ผมเองก็รู้สึกตกใจมากเช่นกันครับ คุณอาจจะเป็นคนชอบอมิเมมาก่อน คุณอาจจะมีความรู้ด้านอื่นๆ มาก่อน แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องอัดเสียงพากย์จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้นะครับ

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

@ คุณเอาชนะความประหม่าของคุณได้ด้วยวิธีไหนครับ ?

         มาฮิโระ: มันยากมากครับที่จะเอาชนะความประหม่านั้นได้ เพราะผมรู้สึกมันอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความพยายามของทีมงานทุกคน มันทำให้บรรยากาศในที่ทำงานเป็นสถานที่ที่น่าอยู่มากครับ ซึ่งมันเป็นผลดีกับผมมากๆ เพราะตัวละครของผมเป็นตัวละครที่ไม่ควรให้อารมณ์ภายนอกเข้ามาทำให้ว้าวุ่น

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

@ อะไรคือเสน่ห์ของภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ครับ

         เคย์อิจิ: เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่การที่ผู้รับชมสามารถติดตามการเติบโตทางด้านจิตใจของตัวละคร “ตัวผม” หลังจากที่เขาได้รู้จักกับ ซากุระ ครับ และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งก็คือ“เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน” คือเรื่องราวที่สะท้อนเรื่องราวการใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่น การสร้างในรูปแบบของภาพยนตร์แอนิเมชั่นทำให้เราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวของซากุระครับ

         ชินอิจิโร่: ถึงแม้ว่าผมจะได้อ่านนิยายต้นฉบับมาแล้วหลายรอบก่อนที่เราจะเริ่มดำเนินการสร้าง ผมก็รู้สึกได้เหมือนกับผู้ที่เคยอ่านหนังสือหลายๆ คนว่า มันยังมีเรื่องราวบางอย่างที่ผู้เขียนไม่ได้บอกเราตรงๆ และเรื่องราวเหล่านั้นเองที่ผมและทีมงานได้หยิบขึ้นมาใช้เป็นเสน่ห์ของ “เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน” ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกที่ผมได้รับหลังการอ่านหนังสือให้กับทุกๆ คนที่ได้รับชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้

         มาฮิโระ: ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยได้ดูภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดงนะครับ ผมอยากท้าทายในสิ่งที่ผมไม่เคยได้ฟังหรือเห็นมาก่อน และอีกอย่าง ผมก็รู้สึกกลัวว่าสไตล์การพากย์เสียงของผมจะคล้อยตามไปกับคาแรคเตอร์ตัวเอกของภาพยนตร์ด้วย ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกที่ผมมีหลังจากที่ผมได้อ่านนิยายเสร็จแล้วมากกว่า ซึ่งผู้กำกับก็เห็นด้วยกับความคิดของผม ผมเชื่อมั่นว่าเสน่ห์ของผลงานชิ้นนี้ก็คือความสามารถในการทำให้อารมณ์ของผู้รับชมคล้อยตามไปกับตัวละครเอกสองตัวนี้ล่ะครับ

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

@ คุณอยากจะรับงานพากย์ต่ออีกหรือเปล่าครับ

         มาฮิโระ: ถ้าผมมีโอกาสผมก็จะรับงานแบบนี้อีกแน่นอนครับ สำหรับงานครั้งนี้ผมรู้สึกว่าทุกๆ วันก็คือการฝึกฝนและทดลองสิ่งใหม่ๆ ทำให้ผมรู้สึกสนุกไปกับมันอยู่ตลอดเวลา การพากย์เสียงเปรียบเสมือนโลกใบใหม่ที่มีสิ่งต่างๆ ให้ผมได้เข้าไปเรียนรู้ และผมคงดีใจมากถ้าผมได้รับโอกาสแบบนี้อีกครั้ง

          เคย์อิจิ: มาฮิโระเป็นคนที่มีการพัฒนาครับ การพากย์ของเขามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเราเห็นว่าเขามีการพัฒนาเช่นนี้ เราจึงให้เขากลับไปพากย์ฉากแรกๆ ใหม่อีกครั้งด้วย นี่ถ้าเรื่องนี้เป็นทีวีซีรีย์ พวกคุณคงจะได้เห็นความสามารถในการพัฒนาทักษะด้านการพากย์ของ มาฮิโระ ได้ชัดเจนกว่านี้อีกครับ

            ถ้าจะมีอะไรขอเธอมากกว่า “หัวใจ” ก็คงจะเป็น “ตับอ่อน” นั่นแหละ “I WANT TO EAT YOUR PANCREAS” เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน กำหนดเข้าฉาย 20 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

'I Want to Eat Your Pancreas' ภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ