หมอสั่ง 'เป๊ก' ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ไปทำภารกิจกับ "ยูนิเซฟ" ที่ประเทศเคนย่ากลับมา ก็มีข่าวด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงของตัว "เป๊ก" ผลิตโชค ทำให้มีการแอดมินเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง งานนี้หลายๆ คนก็เป็นห่วง จนล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอหนุ่มเป๊กจึงถามถึงเรื่องนี้ 
 

    ไปประเทศเคนย่ามาเป็นยังไงบ้าง
    "จริงๆเตรียมใจไปประมาณหนึ่ง ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แห้งแล้ง คนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แต่พอไปเจอมันหนักกว่าที่คิดอีก เพราะจริงๆแล้วในการพัฒนาเรื่องของการสาธารณสุข ของเขายังด้อยมาก ถ้าเทียบกับบ้านเราที่พัฒนาไปในเรื่องอื่นๆแล้วแต่ประเทศของเขาเพิ่งจะพัฒนาในสิ่งที่เป็นพื้นฐานเบื้องต้นเองในการฉีดวัคซีนต่างๆพวกเขาไม่มีการฉีดเลย ทำให้มีผลตามมาคือเด็กๆน้องๆเป็นโรคไม่สบาย หลายโรคมาก อย่างเช่นโรคที่ฮิตที่สุดเลยคือโรคขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นอันดับ 1 เลย เพราะว่าเขาไม่มีอาหารทาน เขากินวันละมื้อ ถ้าเกิดหาได้ 2 มื้อก็ทาน 2 มื้อ แต่ส่วนใหญ่ก็จะทานมื้อเดียวทำให้เขาเป็นโรคขาดสารอาหาร ซึ่งโรค ขาดสารอาหารมันน่ากลัวกว่าที่คิด ซึ่งมีเด็กๆเป็นกว่า 1 ล้านคน และผมก็ได้ไปที่สลัม ผมขออนุญาตใช้คำว่าสลัม ซึ่งเป็นสลัมที่ใหญ่ที่สุดในเคนยาเลย ชื่อคริสเบลล่า ซึ่งความเป็นอยู่ของเขาแล้งแค้นมาก คุณภาพชีวิตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สกปรกมีกลิ่นเหม็น ขยะเยอะเต็มไปหมดเลย ผมได้ นำภาพเหล่านั้นมาแสดงโชว์ให้คนไทย และทั่วโลกได้เห็น ชีวิตประจำวันของเขาว่าเขา ต้องอยู่ยังไง"
    กลับมาร่างกายเราเป็นยังไงบ้าง
    "ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน เพราะเราเพิ่งทัวร์จากอเมริกาเสร็จมา มาถึงไทยยังไม่ได้เปลี่ยนไทม์โซน เลย ก็ยังงงอยู่และอีก 1 สัปดาห์ก็บิน ไปที่เคนย่ามันยิ่งทำให้เรายิ่งงง ถ้าเห็นจากในคลิปก็จะเห็นว่าผมหน้าตาโทรมแล้วก็เหนื่อย นอนก็ไม่ได้นอนและตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจตอนเช้าด้วย แต่ก็รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจ รู้สึกแฮปปี้ แล้วก็ภูมิใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง ของยูนิเซฟ คือตอนทำงานก็ค่อนข้างลำบากเหมือนกัน การเดินทางไปไหนก็ลำบากไม่ค่อยสะดวก แต่ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟค อยากให้รอดูจากหนังภาพยนตร์ที่ผมไปถ่าย"

    เห็นว่าแฟนคลับของเราก็ร่วมกันช่วยบริจาคในครั้งนี้ด้วย
    "ใช่ครับ ในวันที่เดินทางไป แฟนแฟนมารอให้การต้อนรับและให้กำลังใจ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจ โดยผมกับแฟนแฟนของผมได้นำเงินมาบริจาค จากยอดที่ขาย Photobook ได้ มาบริจาคให้กับยูนิเซฟ เป็นเงิน 500,000 บาท เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือและสนับสนุนในโครงการของยูนิเซฟ และในช่วงที่ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็มีแฟนแฟนช่วยกันระดมทุน ด้วยการส่งข้อความ ไปบริจาคเงินให้กับทางยูนิเซฟ เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ก็เป็นการแบ่งปันความสุข ให้กับน้องๆทั่วโลก"
 

    ถามถึงอาการป่วยของเรา เพราะเห็นว่าหลังจากกลับจากเคนย่าก็มีอาการป่วย 
    "มีไม่สบายนิดนึง ซึ่งก็เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะว่าทำงานหนักมาก และด้วยความที่เราไปในสถานที่ที่ค่อนข้างลำบาก และไม่ได้ทานอาหารที่โดยปกติเราทานกัน เพราะอาหารที่นั่นค่อนข้างหายาก หายากมาก เราเลยต้องทานอาหารที่ค่อนข้างเซฟ และหาทานง่ายๆคือเราต้องทานแซนวิชทุกวัน มีแต่ผัก อาหารที่ดีๆอร่อยๆ ก็ไม่มี และอีกอย่างหนึ่งคือเราต้องรีบทาน เพราะเราอยากใช้เวลาทุกนาทีให้มันคุ้มค่า เพราะเราบินไปเพื่อช่วยน้องๆไม่ได้ไปเพื่อจะทานอะไรดีๆ ก็ทานแต่กับแซนวิช และด้วยอากาศร้อน บวกกับฝุ่นเยอะแล้วก็มีละอองฝนแล้วก็มีเชื้อโรคมากอยู่ กลับมาก็เลยไม่สบายป่วย แอดมิดซึ่งก่อนเดินทางไป ผมก็ได้ให้วัคซีน 3 เข็มแล้ว กลับมาเลยสบายใจได้ว่าไม่ได้ติดโรคอะไรมา หรือเราจะพาเขาไปติดโรค (หัวเราะ) เรามีการป้องกันแล้วและก็ไม่มีโรคอะไรกลับมา กลับมาก็มีแค่อาการอ่อนเพลียนิดหน่อย ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว "
    ไปเป็นคนที่เข้าออกโรงพยาบาลบ่อย
    "เข้าออกจนเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว (หัวเราะ) พี่ๆที่โรงพยาบาลก็คุ้นเคยกับพวกเรา โรงพยาบาลก็เหมือนบ้านหลังที่สองของผม อย่างพี่แม่บ้านก็ทักทายเจอกัน เพราะเหมือนมันมีห้องที่เป็นเหมือนห้องประจำของผม ทุกคนก็จะดูแลเราอย่างดีเหมือนครอบครัว ก็ขอขอบคุณพี่ๆพยาบาลด้วยเพราะก็จะรู้ใจตลอด"
    ความถี่ในการเข้าออกโรงพยาบาลของเรา บ่อยขนาดไหน
    "บางทีก็เดือนละ 2 ครั้ง ก็เข้าไปในเรื่องของโลกที่เราไม่สบาย แล้วก็เข้าไปเช็คอัพรับวิตามินรับยา"

    อยากที่จะดูแลตัวเองให้เต็มที่ให้หายดีแข็งแรงไหม
    "อยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกันคุณหมอบอกว่าให้ออกกำลังกายได้แล้วก็กำลังจะเริ่มแล้ว คือจริงๆเราทำงานหนักมากเวลาจะไปวิ่ง ก็หาข้ออ้างให้กับตัวเอง ว่าไม่มีเวลาไปวิ่งไปออกกำลังกายไปเข้าฟิตเนสแต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเริ่มที่จะอ้วนแล้วคุณหมอก็บอกว่าให้ระวังว่าจะเป็นโรคคนอ้วน เพราะคอเลสเตอรอลเยอะและน้ำตาลขึ้น เพราะเราทานเก่งคุณหมอก็บอกว่าให้รีบออกกำลังกายตั้งแต่ตอนนี้เพราะเดี๋ยวอ้วนแล้วนะถามว่าเมื่อไหร่จะออกกำลังกายเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพยายามไปวิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ที่เรา ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกา ผมก็ตื่นมาวิ่งตอนเช้าทุกวัน จริงๆก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าตื่นหรือว่ายังไม่ได้นอน ก็จะมีรุ่นพี่คนนึงที่ชวนออกไปวิ่งด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมให้เราได้ไปปฏิบัติหน้าที่กับทางยูนิเซฟ ที่ประเทศเคนยา ซึ่งพอวิ่งแล้วเราก็รู้สึกโอเคนะ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ถ้าช่วงนั้นเราไม่ได้ออกกำลังกาย ตอนไปทำงานที่เคนย่าคงไม่ไหวแน่นอน เพราะการทำงานที่นั่น เสร็จงานดึกและต้องตื่น 6 โมงเช้าทุกวันจริงๆก่อนที่จะไปเราก็ช้อปปิ่ง เราซื้อเสื้อผ้าแบบว่าเราจินตนาการ ว่าแอฟริกาจะต้อง เป็นชุดแบบชุดส่องสัตว์ เป็นอินเดียน่าโจนส์ ซื้อแบบจัดเต็ม แต่พอไปจริงๆเสื้อผ้าหน้าผมไม่ได้ใช้ เพราะใส่เสื้อยืดตัวเดียวเสื้อยืดของยูนิเซฟหน้าไม่ได้แต่งผมไม่ได้ทำ ก็อยากให้คนรอดูจากในคลิปที่ผมไปถ่ายมา ซึ่งผมรู้สึกขอบคุณมากๆที่ทางยูนิเซฟให้ผมได้ไปทำงานนี้"