"นิว" ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล ผู้กำกับ "บังเอิญรัก" ลั่นไม่ขอทำซีซั่น 2 เพราะไม่อยากเจอปัญหาเดิมๆ จนทำให้เสียความรู้สึกอีก เผยมีโปรเจ็คต์ซีรี่ส์วายให้ติดตามแน่นอน
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ซีรี่ส์ บังเอิญรัก เดินทางมาถึงตอนจบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และ “นิว” ศิวัจน์ ก็ได้สานฝันให้แฟนๆ ได้ฟินกันสนั่นโรงภาพยนตร์ภาวลัย สยามพารากอน กับการดู “บังเอิญรัก” แบบไดเร็คเตอร์คัท ส่วนประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ว่าจะซีซั่น 2 ต่อหรือไม่ ซึ่งล่าสุดมีโอกาสเจอตัว “นิว” ผู้กำกับ เลยต้องถามถึงประเด็นดังกล่าว
ถามถึงงานวันนี้ที่จัดขึ้นมาเป็น Director Cut
"อยากส่งท้ายมากกว่าเหมือนเราเคยทำ Love sick มาเราอยากเห็นภาพนั้นอีกครั้งหนึ่งในโรงภาพยนตร์เราก็เลยตัดสินใจว่าโอเคเรามาฉายในโรงกันดีกว่าเพื่อให้แฟนคลับได้มาเจอน้องๆ เชื่อว่าแฟนคลับก็อยากเจอน้องๆ ด้วยงานสุดท้ายของเรา"
ก่อนหน้านี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดีบ้างไม่ดีบ้าง
"ถ้า EP จบยังไม่ได้ดูคอมเม้นท์เลย ปล่อยไปเลย เรามาปล่อยของจริงแต่ในโรงภาพยนตร์ดีกว่า"
กระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นยังไงบ้าง
"กระแสตอบรับเยอะมากจนล้นตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะต้องเปิด 2 รอบแม้แต่รอบเดียวก็ล้นเปิด 2 รอบก็ยังล้นอีกเราก็เลยยอมยัดให้หมดทีเดียวจะได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้คิดถึงขนาดนี้ครับความรู้สึกครั้งนี้มันใกล้ตอนทำเลิฟซิกเลยมันดูใหญ่กว่าก็ประหลาดใจก็ว้าวแหละ"
มีใครเรียกร้องอยากให้ทำอะไรเพิ่มเติมหลังจากนี้ไหม
"มีหลายคนขอ Season 2 มากกว่าทุกคนก็เหมือนรู้ว่านิยายมันยังไม่จบเราก็อยากทำให้มันจบ"
โอกาสที่จะทำมีไหม
"คือ ณ ตอนนี้ก็คงไม่ทำดีกว่าเพราะว่าหลายอย่างเนาะก็เป็นปัญหาที่ผ่านมาปัญหาภายในหรือปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานเรารู้สึกว่าการไม่มีให้มันจบซีซั่น 1 แบบนี้ให้มันสวยงามของมันเป็นที่จดจำดีๆดีกว่าถ้าทำแล้วต้องมีปัญหากันอีกความรู้สึกของทีมงานที่ทุ่มเททำทุ่มเทเหนื่อยกับมันนักแสดงที่เหนื่อยแฟนคลับที่ตามเชียร์กันจะเฟลกันหมดมากกว่า สู้เป็นความทรงจำดีๆแบบนี้ร่วมกันดีกว่า"
ที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยหรือเปล่า
"เป็นส่วนหนึ่งดีกว่า"
กลัวฟีดแบคไหม
"กลัวฟีดแบคเหมือนกันครับมีหลายคนบอกว่าถ้าจะพูดให้ปิดทวิตให้ปิดไอจีไปเลยนะเราว่าเราตัดสินใจดีแล้วแหละไม่ใช่ว่าเราไม่รักซีรีส์เรื่องนี้นะเรารักมันมากเราเริ่มจากศูนย์กับมันปั้นมาทุกอย่างแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันทำให้เราเสียความรู้สึกหลายๆ อย่างในการทำงานขอหยุดแค่ตรงนี้ดีกว่าลิขสิทธิ์อยู่ที่เราแต่ว่าถ้ามีใครที่แบบสนใจหรือเหมาะสมก็มาคุยกันถามนักเขียนว่าปล่อยให้เขาทำไหม"
ก็คือเปิดโอกาสให้คนอื่นสานต่อกับหน้าที่ที่เราเคยทำ
"ก็ไม่ได้ปิดขนาดนั้นทีเดียวก็ต้องขอดูว่าเขาจะทำได้ไม่ทำให้แย่กว่าเดิมพอ"
หลายคนก็อยากรู้เหตุผลของเรา
"คือเหตุผลมันค่อนข้างเซ้นซิทีฟ หลายๆปัญหามันรู้สึกว่าอย่างที่บอกคือการไม่ทำให้มันจบแบบนี้มันน่าจะสวยงามดีกว่าทำแล้วมีปัญหากันเข้าไปอีกก็พอเถอะ"
กลัวไหมว่าคนจะโยงไปซีรี่ส์ที่ดังๆก่อนหน้านี้พีคสุดแล้วกลายเป็นว่า Season 2 ไม่มี
"จริงๆ มันมีช่วงปัญหาดราม่ากันตั้งแต่แรกๆแล้วอันนั้นเขาก็เริ่มโยงเริ่มโยงเราก็ได้แต่อ่านทำอะไรไม่ได้มันอยู่จุดที่พูดไม่ได้ทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่อ่านแล้วก็ปล่อยไป"
มีโอกาสที่จะร่วมงานกับน้องๆทีมงานของน้องได้ในอนาคตอีกหรือไม่
"สำหรับนิวเอาตอนนี้ก่อนเรารู้สึกว่ายากประมาณหนึ่งเพราะอย่างที่บอกเราขอทำงานในจุดที่สบายใจดีกว่า"
ตอนที่เขาตีกันหนักๆเราเป็นคนกลางรู้สึกลำบากใจไหม
"ลำบากใจมากๆอย่างที่บอกว่าก่อนหน้านี้เราเจอเด็กทั้งหมด 5 คนด้วยเปิดในนามบริษัทด้วยกันมามีการเปลี่ยนแปลงมีการย้ายโดยที่ไม่มีการคุยล่วงหน้าด้วยซ้ำเราก็พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดจนก็พยายามมาเรื่อยๆ จนประกาศไปว่าเราไม่มีความเกี่ยวข้องกับตรงนี้อีกก็คือเลือกเฟดออกมาดีกว่า อย่างที่บอกคือเราทำงานในส่วนกำกับต้องทำนู่นนี่นั่นมันก็หนักอยู่แล้วก็กลายเป็นว่าจะต้องมาเป็นผลพวงที่เขากระทบกันไปกันมาโดยที่เราเองอยู่เป็นกลางก็อึดอัดประมาณหนึ่งแล้วเราก็เลยเลือกที่จะถอยออกมาน่าจะง่ายกว่า"
เสียความรู้สึก
“เสียความรู้สึกมากเรารู้สึกว่า 1 ปีที่เราทุ่มลงไปสุดท้ายมันคืออะไร"
ก่อนหน้านี้เด็กไม่ได้มีสัญญากับทางเราเหรอ
"เรื่องสัญญานี้ว่ามันเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียวสุดท้ายมันอยู่ที่ว่าถ้าเห็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันสำคัญกว่า"
กับน้องได้มีการพูดคุยกันไหม
"ยังไม่มีครับถามว่ารอไหมคือตัวเราก็รอนะจะมีน้องมาพูดคุยกับเราไหมแต่ก็ยังไม่มีการพูดคุย"
ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปไหม
"เปลี่ยนไหมเหรอ คือมีช่วงหนึ่งความผูกพันมันค่อยๆเริ่มจากศูนย์อยู่แล้วพอมาในระดับหนึ่งเรารู้สึกแฮปปี้เราเอ็นจอย เราใช้ชีวิตกับพวกเขาอย่างสนุกจนพอมีเรื่องขึ้นมาถามว่าเขาเสียไหม ก็ต้องบอกว่าเสียเลยจริงๆ"
เราเข็ดไหมที่เคยปั้นน้องๆดังจากซีรีย์วายแล้วก็ไปอยู่ในวงการตอนนี้หลายคน
"โมเม้นท์มันต่างกันคือถามว่านะตรงนั้นมันอยู่ในจุดที่โอเคเราไม่ได้สร้างเด็กในนามของเรา การที่ปล่อยเขาไปคือเป็นเรื่องน่ายินดีหรือสมมติจริงๆเราสร้างเด็กกลุ่มหนึ่งแล้วมีการต่อยอดอย่างเช่นบริษัทใหญ่ๆหรือที่ที่ไปมันแบบ support น้องเราได้เรายินดีที่จะปล่อย เราไม่เคยกักเก็บดีใจด้วยซ้ำที่เด็กที่เราสร้างมาสามารถไปได้ไกล"
จริงๆ เรากลัวอนาคตน้องๆ จะไม่ได้ไปถึงเป้าหมายที่เคยคิดไว้หรือเปล่า
"ก็ส่วนหนึ่งนะครับเพราะเราก็มีแผนอะไรต่อยอดไปเยอะเหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไรเราก็สร้างของเราไป"
หลังจากนี้จะเบรคงานกำกับไปเลยไหม
"ไม่ครับมีแพลนไว้แล้วเหมือนกันกำลังร่างโปรเจคใหม่อยู่ ตอนแรกก็รู้สึกดีใจว่าเรื่องนี้ไม่มีดราม่าเลยดราม่าแรกคือเปลี่ยนช่องเราก็ผ่านมันมาได้จนพอมาเรื่องนี้กลายเป็นว่าดราม่าที่ใหญ่โตที่สุดสำหรับการทำซีรี่ส์ เลยด้วยซ้ำมองย้อนเหมือนกันว่าเราพลาดจุดไหนไปหรือเปล่าเราเกิดอะไรขึ้นถึงได้เป็นแบบนี้อนาคตก็คงใช้คำว่าวางพานให้มันรัดกุมมากขึ้นมากกว่า"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง