"แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์" เผยตั้งใจโชว์กางเกงในระหว่างเล่นคอนเสิร์ต เพราะชื่นชมวง "พาราด็อกซ์" พร้อมบอกอย่าปิดกั้นการแสดงออกของศิลปิน อยากให้เปิดรับมากขึ้น
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - สร้างความฮือฮาเมื่อนักร้องหนุ่ม "แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์" หรือ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ โพสต์คลิปวีดีโอแสดงคอนเสิร์ตของตัวเองที่จังหวัดเลย ซึ่ในคลิปหนุ่มแอมมี่ได้มีการถอดเสื้อและถอดกางเกง โดยเหลือเพียงแค่กางเกงในสีขาวเท่านั้น ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พร้อมกับมีการแชร์อย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของความเหมาะสมอย่างหนัก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอหนุ่มแอมมี่ในงาน "RAP IS NOW AWARDS 2018 รางวัลที่สุดแห่งปีวงการเพลงฮิพฮอพ/แร็พ" จึงถามถึงเรื่องนี้
"คือจริงๆก็สนุกนะ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากมันเป็นความตั้งใจของผมที่ผมตั้งใจไว้นานแล้วและไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นร้อนแรงขนาดนี้คือผมซื้อกางเกงในของวงพาราด็อกซ์มา ซึ่งอย่างที่หลายๆคนเคยได้ดูโชว์ของวงพี่ๆเขาก็จะหวาดเสียวประมาณนี้แหละโดยเพลงที่ผมเล่นผมคัพเวอร์เพลงนักมายากลซึ่งผมเคยใช้เพลงนี้ประกวดตอนผมอยู่มอสามปีเวลาก็คือ 15 ปีที่แล้วแล้วผมกับเอาเพลงนี้มันเล่นตอนที่ผมทัวร์อีสานในครั้งนี้เลยมีความตั้งใจว่าฉันจะอวดกางเกงในที่เราไปซื้อมา มาของวงพาราด็อกซ์แต่ด้วยภาพพอเห็นว่าเป็นกางเกงในของวงดนตรีและบวกกับวัฒนธรรมของที่นี่ที่มีผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะมันก็เลยดู เซนซิทีพไปหน่อย"
ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่เราตั้งใจที่จะทำ
"โธ่!! ก็มันซื้อมาแล้ว (หัวเราะ) แล้วสำหรับผมเขาเป็นวงที่ให้แรงบันดาลใจดีๆกับเรา การที่เราเลือกเพลงของใครมาคัพเวอร์ นั่นแปลว่าเราภูมิใจในเขาแล้วมีเขาเป็นแรงบันดาลใจการใส่แล้วโชว์มันเป็นการแสดงความภูมิใจของผมและเป็นการให้เกียรติเขาซึ่งมันเป็นกางเกงในของวงเขาด้วยไม่ใช่วงผม"
แต่คนมองว่าในตอนนั้นเราอาจจะมีสติสัมปชัญญะไม่ครบ
"เป็นไปไม่ได้เอางี้แล้วกันถ้าลองมาดูโชว์ของผมกันก็จะรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นคิ้วอันที่ผมแกล้งล้มหรือผมแกล้งเซ ตามจังหวะเพลงมันทำไม่ได้หรอกครับถ้าเมาขนาดนั้นลองไปดูสักโชว์จะได้เข้าใจผมว่าการที่ผมเล่นกีตาร์ร้องเขย่าแทมมารีนผมต้องดูคิวไฟดูอะไรผมต้องมีสมาธิเพราะฉะนั้นการโชว์ของผมผมมีสติสัมปชัญญะครบแน่นอน"
แปลว่าทุกอย่างเป็นขั้นตอนที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรกก่อนขึ้นเวทีโชว์แล้ว
"ก็มีความคิดว่าถ้าไม่สนุกมากก็จะไม่ถอดจริงๆการทัวร์อีสานรอบนี้ตั้งใจที่จะถอดแต่ว่า 2 วันแรกไม่ได้ถอดเพราะว่าหาไม่เจอ (หัวเราะ) พอวันที่ 3 เจอซึ่งกางเกงในตัวนี้ผมต่อคิวซื้อเหมือนแฟนเพลงของพวกพี่วง Paradox และจริงๆแล้วมันเป็นวัฒนธรรมที่หลายๆคนทำมาก่อนผมสิผมไม่ใช่ Original ผมคิดว่ามันเป็นข่าวที่ให้รอยยิ้มกับคน"
กลัวไหมว่าคนจะมองว่าเราติสต์เกินไป
"ก็...ความความพอดีของทุกคนมันมีตรงกลางกันอยู่แล้วแต่ว่าณตอนนั้นถามว่าคนสนุกไหมคนก็สนุกผมคิดว่าในฐานะของฟร้อนแมน (นักร้องนำ) และเอนเตอร์เทนเนอร์ ผมเคยดูร็อบบี้ วิลเลี่ยม มันเรียกเสียงเฮได้แล้วมันก็สนุกครับ"
แต่ว่าคนดูในวันนั้นก็ไม่ได้มีฟีดแบ็กในทางที่ไม่ดีกับมาในตอนที่เราโชว์
"แน่นอน คนเขาเอ็นจอยอยู่แล้ว และก็ เรียกว่าทัวร์นั้น หลังจากที่มันเป็นประเด็นขึ้นมา โชว์ตอบมาและโชว์ถัดไปผมก็ไม่ได้โป๊ แต่กลับมีคนเข้ามาบอกว่าเขารออยู่ ผมเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ให้รอยยิ้มกันมากกว่าแฮปปี้กันทุกคนครับ"
ถือว่าเราประสบความสำเร็จในโชว์นั้น
"โชว์นันเป็นโชว์ที่สนุกมากอันนึง แต่เรื่องการถอดอาจจะต้องมีการคุยกันว่ามันสมควรไหม ผมว่ามันต้องดูจังหวะนะครับ"
จะมีการถอดอีกไหมในโชว์ครั้งต่อๆไป
"ต้องรอดูครับ (ยิ้ม)"
แต่พอมีการแชร์มีการเป็นข่าวออกไปแล้วหลายคนก็มองในเรื่องของความไม่เหมาะสม
"เขามีสิทธิ์จะพูด คนเรามีสิทธิ์ที่จะพูด กันทุกคนในโลก ผมอยากให้ดูที่ผลงานผมแล้วกัน อยากให้มาดูโชว์ผมแล้วเขาจะรักผม ลองมาคุยกันคนเรา ไม่เคยคุยกันต่อหน้าไม่เคยรู้จักกัน แล้วดูแค่จากข่าว ผมเองก็เคยนะ ที่ดูข่าวคนบางคนมาทั้งชีวิต แล้วทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบเขาพอวันนึงผมเป็นศิลปินมีโอกาสได้เจอเขาผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผมว่าอันนี้มันเป็นแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ที่คุณเห็นผมลองมาดูผมลองมาสัมผัสผม ลองมาค้นหาว่าเพลงของผมคืออะไรผมเป็นนักแต่งเพลงมีงานลองศึกษางานของผมแล้วคุณจะรักผม"
ในคอมเม้นท์มีการพูดถึงเรื่องเล็กใหญ่ นอยด์ไหม
"มันซ่อนรูปนะ (หัวเราะ) ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสที่คนเข้ามาแซวเรื่องนี้ เพราะยังไงเราแข็งแรง การที่เขาพูดถึงเราแปลว่าเขาคิดถึงเรา"
อยากขอโทษกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไหมสำหรับคนที่มองว่ามันไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
"ขอโทษเหรอ ก็ผมว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคของการเปิดรับแล้วนะ อินเตอร์เน็ตเข้ามาบนโลก ในวันที่เราดูอะไรก็ได้รอบโลก มันเป็นวันแห่งการเปิดรับ จริงๆแล้วมันอาจเป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กแต่มันใหญ่มากๆเลยนะ กับการที่ไม่เปิดรับของอะไรบางอย่าง ในเรื่องของอิสรภาพในการแสดงออก การแสดงดนตรีของผมคืออาร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์ ถ้าเกิดว่าผมไม่ได้รับอิสระ ในการแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ของผม มันเท่ากับว่า คุณปิดกั้น วงการศิลปะวงการดนตรี วงการทุกอย่างมันจะน่าเบื่อลง เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเป็นระบอบไหนอะไรยังไง ก็ต้องให้อิสระแก่ อาร์ตติสต์ หรือศิลปิน ในการสร้างสรรค์งาน เราอยากให้เปิดใจ สุดท้ายอยากให้ไปฟังเพลงสมดังใจกันนะครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง