"อาม ชุติมา" ทำตามข้อตกลงในบันทึกประจำเดินทางไปไกล่เกลี่ยที่ค่าย "ไหทองคำ" ก็ไม่เจอใคร เนื่องจาก "นายประจักษ์ชัย" ผู้บริหารค่าย "ไหทองคำ" ติดภารกิจอยู่ที่ ปอท.
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ยังเป็นอะไรที่ยืดเยื้ออยู่ สำหรับกรณีของ อาม ชุติมา นักร้องลูกทุ่งสาวกับค่าย "ไหทองคำ" ต้นสังกัด ที่ล่าสุดสาวอามก็ถูกจับไม่เว้นแต่ละวันที่ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ในข้อหาผิดข้อตกลงกับทางค่าย
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. อาม ชุติมา พร้อมด้วย นายมานิตย์ อังกินันทน์ คนกลางที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยได้เดินทางไปที่ค่ายไหทองคำ ซอยเพิ่มสิน เขตสายไหม เพื่อเข้ามาไกล่เกลี่ยพร้อมขอขมา นายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ นายห้างค่ายไหทองคำฯ แต่ก่อนที่จะมาถึงทางค่ายไหทองคำได้แจ้งกับทางนักข่าวว่านายประจักษ์ชัยไม่อยู่ และไม่ได้มีการแจ้งใดๆ ว่าอาม ชุติมา จะเข้ามา แต่ในบริเวณใกล้ๆ ค่ายไหทองคำ มีแฟนคลับมารอให้กำลังใจ อาม ชุติมา กันจำหนวน 17 คน
ผู้สื่อข่าวได้ไต่ถามกับทางแฟนคลับว่าใครนัดหมายให้มา ทางแฟนคลับเผยว่าได้เป็นเพื่อนกับ อาม ชุติมา ในเฟซบุ๊ค และได้ทราบว่าจะมาที่นี่ในวันนี้ (22 ต.ค.) จึงเดินทางจากต่างจังหวัด ทั้งจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, อุดรธานี เพื่อมาให้กำลังใจ
หลังจากนั้นไม่นาน อาม ชุติมา ก็เดินทางมาถึง พร้อมในมือถือพวงมาลัยและธูปเทียนมา เพื่อตั้งใจมาขอขมา แต่ทันทีที่มาถึงก็ได้รับทราบว่านายประจักษ์ชัยไม่อยู่ ซึ่งอามและนายมานิตย์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวบริเวณหน้าค่ายไหทองคำ ดังนี้
นายมานิตย์ : นายห้าง (ประจักษ์ชัย) เขาบอกว่าเขาไปปอท. ไปแจ้งความเกี่ยวแฟนคลับที่มาด่าเขา ผมก็บอกว่าเดี๋ยวอามจะมา เขาก็บอกว่าเขายังไม่สะดวก ผมก็บอกว่าให้อามเขาไปตามกฎหมายก่อน เพราะในบันทึกเขาลงไว้ว่าวันที่ 22 นี้ ให้มา ในบันทึกที่โรงพัก ที่นี้อามเขาเลยถือโอกาสมาขอขมาด้วยเลย บรรยากาศมันจะได้ดีขึ้น ผมก็แค่เป็นคนกลาง ผมก็อยากให้ทั้งสองกลับมารักกัน ร่วมงานกันเหมือนเดิม ในฐานะคนกลางเนอะ แต่ว่าต้องอยู่ในข้อตกลงกัน ระหว่าง ประจักษ์ชัยกับอาม ต้องคุยกัน 2 คน ว่าจะเอาอย่างไรต่อ วันนี้มาตามกฏหมายตามที่ลงบันทึกไป
อาม : มาตามที่เขานัด มาตามที่ลงไว้
ได้คุยกับประจักษ์ชัย
นายมานิตย์ : ได้คุยครับ แกอยู่ ปอท. อยู่ แต่ว่าอามต้องมาตามกฎหมาย อย่างไรก็ต้องมา จะเจอหรือไม่เจอ เราก็ต้องทำตามกฎหมายก่อน
ได้ประสานงานกับทางทนายความไหทองคำไหม
นายมานิตย์ : ไม่มีใครติดต่อมานะ อันนี้ยังไม่มีใครติดต่อ ทนายยังไม่ติดต่อ แต่ว่า ช่วงนี้รู้สึกว่าจะจับกันทุกวัน ก็คงจะต้องประกันกันทุกวัน ถ้าอามมีเงินประกันนะ ต้องประกันทุกวัน
อามเป็นอย่างไรบ้าง เราต้องโดนดำเนินคดี ในวันที่เราโชว์ตัว
อาม : ยังไม่ดำเนิน
นายมานิตย์ : ตอนนี้อยู่ที่รอเดี๋ยวเจอประจักษ์ชัยอีกทีดีกว่า จะได้คุยกัน เป็นกลางว่าจะลงเอยอย่างไร จะทำหน้าที่ให้เต็มที่
ถ้ายังไม่เจอกันเคลียร์กันแบบนี้ อามจะขึ้นแสดงได้ไหม
นายมานิตย์ : อยู่ที่ความเมตตาดีกว่า ว่าช่วงนี้ ถ้าปล่อยให้น้องทำมาหากินก่อนได้ไหม เพราะว่าเขาก็มีภาระนะ แต่ผมคิดว่าประจักษ์ชัยคงไม่ใจดำหรอก
แต่เหมือนวันนี้มาไม่ได้บอกกับทางคุณประจักษ์ชัย
นายมานิตย์ : ครับ วันนี้มาตามที่ลงบันทึกประจำวัน
อาม : ทนายเขาเป็นฝ่ายลงบันทึกประจำวัน
ตอนที่เรามา เราได้แจ้งเขาไหม ทั้งทนายและประจักษ์ชัย
นายมานิตย์ : แจ้งกับประจักษ์ชัย แต่เขาตอบกลับมาว่าวันนี้ยังไม่สะดวก แจ้งตอนบ่ายโมง ยังไงอามก็ต้องมา
ล่าสุดประจักษ์ชัยบอกว่าถ้าอามขึ้นแสดงอีกจะจับอีก
นายมานิตย์ : ยังครับ แกไม่พูดว่าจะจับแน่นอน แต่ว่าหมายถึงทีมที่จับไม่เกี่ยวกับอาจารย์ เขาก็บอกว่าต้องจับทุกวัน
ถ้าใครจ้างงานอามช่วงนี้ เขาจะฟ้อง
นายมานิตย์ : ใช่ครับ ก็ได้ข่าวมาแบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าเรามาเจรจากันดีกว่า คนไทยด้วยกันคงไม่ใจดำ ส่วนคิวโชว์ตัวอาม เดือนนี้ยังเยอะอยู่
ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้ จะขึ้นโชว์ไม่ได้หรือเปล่า
นายมานิตย์ : น้องเขารับงานไว้แล้วเขาก็ต้องไป ถึงจะจับก็ต้องยอม เพราะมันเป็นการนัดหมายขึ้นป้าย โฆษณาแล้ว น้องเขากลัวเสียชื่อเหมือนกัน
อามเป็นอย่างไรบ้าง การทำงานในช่วงนี้
อาม : ก็เหนื่อยนะคะ แต่ว่าก็ต้องทำตามหน้าที่
ตอนอยู่บนเวทีรู้สึกอย่างไรบ้างที่รู้ตลอดว่า ถ้าลงจากเวทีมาแล้วเจอตำรวจจับตลอด
อาม : ก็ร้องเพลงแบบระแวง
ประจักษ์ชัยเคยบอกว่าถ้าอยากเป็นอิสระให้จ่ายค่ามา 2 ล้าน
นายมานิตย์ : ถ้ารู้จักนิสัยอาจารย์ประจักษ์ดีก็คือแกไม่สนเรื่องเงินทองตรงนั้น คือลูกศิษย์ก็เหมือนพ่อกับลูก ผมว่าเรื่องเงิน 2 ล้าน เขาคงไม่ซีเรียส แต่ว่าแกคงอยากให้อามเข้ามาคุย มาขอโทษกัน ที่แล้วมาต่างคนต่างแรง มันก็ต้อง ทำอย่างไรให้อยู่กึ่งกลางได้
ยอมรับใช่ไหมว่ามันยืดเยื้อมานาน เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
นายมานิตย์ : ครับ ก็ต้องยอมรับตรงนี้ว่า อามก็ คือเราพูดกันตรงๆ ต่างคนต่างมีทิฐิ แต่ว่าตอนนี้มันต้องหันหน้าแล้วมาคุยกัน ว่าต่อจากนี้ไป จะขอความเมตตานายห้างอย่างไร คิดว่า เรื่องเงิน 2 ล้าน นายห้างไม่ซีเรียสหรอก
จะมีการนัดหมายกันอีกครั้งเมื่อไร
นายมานิตย์ : เดี๋ยวผมจะประสานกับนายห้างอีกครั้งว่า จะสะดวกวันไหน แล้วดูคิวอาม แล้วจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง วันนี้ผมมาเป็นคนกลาง มาช่วย
อามดูเครียด
อาม : ก็ไม่เคย เจอแบบนี้ค่ะ
สภาพจิตใจ โอเคไหม เรายังต้องทำงานและเจอเรื่องนี้อยู่
อาม : ถามว่าโอเคไหม ก็โอเคในระดับหนึ่งนะคะ อย่างตอนทำงานเราก็เจอแฟนคลับ ก็ค่อนข้างโอเค ถ้าอยู่คนเดียวก็เครียด อย่างวันนี้ก็ตั้งใจ จะมาขอขมาเพราะว่าก็ตั้งใจไม่รับงานเลยวันนี้
ตั้งใจอยากจะเคลียร์อย่างไร
อาม : ตามที่ในข่าว อาจารย์บอกว่าอย่างไรก็ให้มาขอโทษ มาคุยกัน เพราะว่าอย่างที่อาจารย์บอกในข่าวว่าอาจารย์ง่ายๆ อย่างไรก็มาคุยกันก่อน หนูก็ตั้งใจมา
นายมานิตย์ : อย่างไรลูกศิษย์กับอาจารย์มันตัดกันไม่ลง
อามมีตั้งเงื่อนไขไว้ไหม ถ้าได้คุยกับประจักษ์ชัย
อาม : เรื่องรับงาน มันก็มีคิวที่มันมีอยู่แล้ว อันนี้ต้องทำก่อน เรื่องรับงานไว้ ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่จะมาเชิญตัวตอนโชว์ตัว ก็ต้องขอความเมตตา
นายมานิตย์ : ตอนนี้อามไม่ได้รับงานใหม่ บอกไว้ว่าไม่ให้รับ ขอคุยกัน แต่งานเก่าที่รับไว้ก็ต้องดำเนินการต่อไป ถึงจะมีปัญหาต้องไป ก็มีอยู่หลายงาน จนถึงเดือน ธันวาคม แต่หลังจากนี้ไม่ได้รับงานไว้
ถามถึงเรื่องสัญญาที่หลายคนมองว่าเป็นสัญญาไม่เป็นธรรม เราไม่พอใจตรงไหน เรื่องอะไร
อาม : ก็ที่หนูเคยให้ข่าวไป ก่อนหน้านั้นก็คือตามนั้นเลย หนูก็ไม่รู้จะยังไง หนูอยากให้จบ ไม่อยากรื้อฟื้น
เรื่องลิขสิทธิ์เพลงจะทำอย่างไรต่อ
อาม : ตอนนี้หนูอยากได้อิสระมากกว่าเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ก็คงไม่เป็นไรค่ะ
นายมานิตย์ : ยกให้ทางไหเขาไปนะครับ เพราะเขาเป็นคนสร้าง
อยากเป็นอิสระมากกว่า
อาม : ใช่ค่ะ
เรียกร้องอย่างเดียวเลยไหม
อาม : ใช่ค่ะ เพราะว่าหนูเป็นลูกคนเดียวนะคะ
ถามถึงเรื่องที่ไปเซ็นสัญญาซ้อนกับค่ายห้างนายพล
อาม: เมื่อเช้าก็ไปคุยกับห้างนายพลค่ะ นายห้างบอกว่าทางนี้ โอนสิทธิ์ไป แต่ว่าหนูก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน ตามในข่าวที่หนูเห็นคือ ติดสัญญาอยู่ 2 ปี 7 เดือน หลังจากนี้ก็คือติดกับนายพลไปตลอดชีพ อันนี้หนูก็งงเหมือนกันเพราะว่า ตอนนั้นที่เซ็นสัญญา นายห้างบอกว้าเซ็นให้มันออกจากโรงพักคือตอนนั้นนะคะ ที่ตำรวจเชิญไป ที่เซ็นคือเขาบอกว่าให้เซ็นออกจากตรงนั้น แล้วทีนี้มีอะไรมาคุยกันเพราะว่า โอนสิทธิ์จากไหทองคำไปอยู่นายพล
ส่วนตัวอามเข้าใจว่าโอนแล้วใช่ไหม
นายมานิตย์ : ทางนู้นเขาบอกว่าโอนแล้ว อามเขาก็อยากจะดูสัญญาอันนั้น เพราะเขายังไม่เห็นสัญญาโอนสิทธิ์กัน
อาม : ตอนที่คุยกัน เขาก็ไม่ได้บอกว่าเป็นตลอดชีพและจะได้ไปเป็นนักร้อง ของเขา คือเขาบอกว่า เซ็นเพื่อเคลียร์ออกจากโรงพักนะคะ เป็นการประกันตัว
ตอนนี้เลยเหมือนมีสองค่ายดูแล
อาม : ซ้อนได้หรือคะ หนูก็งง เพราะว่าตอนที่อยู่โรงพักคือตอนที่เซ็นนายห้างบอกว่าให้เซ็นเพื่อออกจากโรงพัก ประกันตัว
เหมือนให้ทางนายพลไปดำเนินการไปช่วยเรา
นายมานิตย์ : เหมือนเข้าไปช่วย แล้วพออ่านบันทึกแล้วกลายเป็นคนที่มีสิทธิ์คือห้างนายพล อามเราก็ตกใจว่าอยู่ไห้แล้วทำไมย้ายไปนายพล เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขายังไม่เห็นสัญญา เขาอยากดูสัญญา
ตอนนี้มีความซับซ้อนกัน 2 อย่าง
อาม : ตัวหนูเองก็งงนะคะ มันคือตัวเราคืออยากจะหลุดออกจากสัญญา 2 ปี 7 เดือน แล้วมาวันนี้ในข่าวคือ หลุดจากไหแล้วไปติดของนายพลตลอด
นายมานิตย์ : ไม่รู้ว่าจะมีการเข้าใจผิดกันหรือเปล่า ต้องรอถามอาจารย์ประจักษ์ชัย
รู้จักทางห้างนายพลไหม
อาม : ตอนนั้นทนายแนะนำค่ะ ทนายที่ไปจับ แนะนำว่านายห้างนายพล กับนายห้างประจักษ์รู้จักกัน มีคดีอะไรต่อกัน ถ้าหนูจะออกจากโรงพักก็คือ ต้องนายห้างนายพล อันนี้ทนายแนะนำ แล้วเขาก็เอาเบอร์ให้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง