บันเทิง

กลัวละครไม่ปัง! 'ฟิล์ม' วิ่งโร่เข้าหาผู้ใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ฟิล์ม" ธนภัทร กาวิละ ยอมรับเข้าหาผู้ใหญ่ เพราะกลัวละคร หน้ากากแก้ว ไม่ดีเท่า เมีย 2018 รู้สึกกดดันแต่ก็ทำการบ้านอย่างเต็มที่แล้ว


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก  - แจ้งเกิดจาก “เมีย 2018” จนมีชื่อเสียง แต่พอมาถึงตรงนี้ “ฟิล์ม” ธนภัทร ถูกวางตัวให้ล่นละครอย่างต่อเนื่อง และที่จะออนแอร์เร็วๆ นี้กับเรื่อง หน้ากากแก้ว ทำให้เจ้าตัวกดดันไม่น้อย เพราะกลัวไม่ปังเท่าเรื่องแรก จนต้องเข้าไปหา “บอย” ถกลเกียรติ มีโอกาสเจอฟิล์มในงาน "ONe สนั่นจอ" จึงถามถึงเรื่องนี้
 

    “ผมคิดว่าด้วยความที่เมีย 2018 หรือทุกๆ อย่างมันได้ และมันถูกจังหวะเวลาทุกอย่างมันดีไปหมด ก็แค่กลัวว่าคนดูจะติดภาพตัววศินมา ก็เลยรู้สึกว่าทำการบ้านอย่างหนักมากกว่า เราก็เลยคุยเรื่องการแสดงว่าเราจะทำยังไงให้เราเล่นแล้วคนชอบ แล้วลืมภาพตัววศินไปให้ได้”
    เรานอยด์ไปแล้วใช่ไหม
    “ไม่ได้นอยด์หรอกครับ มันเป็นความท้าทายด้วยแหละ เป็นอะไรที่รู้สึกว่ามันควรค่ากับการที่จะเอาชนะ มันเป็นการท้าทายและพัฒนาตัวเองไปมากกว่า ถ้ามันไม่ปังเท่า แต่เราเล่นได้ดีขึ้น ผมจะไม่รู้สึกเสียใจเลย มันแค่อาจจะไม่ถูกจังหวะกับคนดูมากกว่า แต่ถ้าเราเล่นได้แย่กว่าเรื่องที่แล้ว อันนั้นคือสิ่งที่เราจะเสียใจกับตัวเองมากกว่า”
    กดดันไหม
    “ถ้ากดดันเรื่องการแสดงก็มีบ้างนิดหน่อย แต่เราก็พยายามทำการบ้าน พยายามเวิร์คช็อพ หาอะไรให้ตัวเรามีความแปลกใหม่และพัฒนาตัวเราเองไปเรื่อยๆ”

 

กลัวละครไม่ปัง! 'ฟิล์ม' วิ่งโร่เข้าหาผู้ใหญ่

 


    แต่ยังมีความกังวลกับกระแสอยู่บ้างมั้ยถึงขั้นเข้าไปคุยกับคุณบอย
    “ไม่หรอกครับ ไม่ถึงกับขนาดนั้น แค่เข้าไปคุยๆ เรื่องปกติมากกว่า ไม่ได้ซีเรียส”
    เห็นว่าคุณบอยก็สอนเรื่องการใช้ชีวิตในวงการด้วย
    “ใช่ครับ ไม่ใช่แค่เรื่องการแสดงอย่างเดียว แต่มันสามารถเอาไปใช้ได้กับทุกๆ เรื่อง”
    ช่วงนี้งานยังเยอะเหมือนเดิมไหม
    “ 7 วันครับ แต่เป็นถ่ายละคร 7 วัน แต่อีเว้นท์ก็ยังมีบ้าง ก็อย่างที่เคยพูดไปว่าเรากลับมาที่จุดเริ่มต้นคือ เราเป็นนักแสดงเพื่อมาแสดงละคร ส่วนอย่างอื่นมันเป็นโบนัสของเรามากกว่า ถ้าวันนี้มีละครเราก็อยากพัฒนาตัวเองให้ทุกคนยอมรับ”
 

 

กลัวละครไม่ปัง! 'ฟิล์ม' วิ่งโร่เข้าหาผู้ใหญ่

    ได้ข่าวว่าค่าตัวอีเว้นท์ก็ไปหลักแสนแล้ว
    “ต้องถามผู้จัดการครับ เพราะเราทำก็ทำอย่างเดียว (ยิ้ม)”
    เป็นไปตามสเต็ปใช่ไหมที่ว่าพอดังแล้วต้องมีการขึ้นค่าตัว
    “ผมว่ามันหลายๆ อย่าง แต่มันอยู่ที่นักแสดงคนนั้นพัฒนาฝีมือตัวเองเหมาะแก่การที่จะได้ค่าจ้างราคานี้หรือเปล่า ถ้าเราเล่นได้ฝีมือเท่าเดิม แต่เขาต้องมาจ่ายแพงขึ้น ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับคนที่ต้องมาจ่ายเงินครับ”
    ตอนนี้พรีเซ็นเตอร์กี่ตัวแล้ว
    “ประมาณ 7 ตัวครับ (ยิ้ม) ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เยอะ และได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยครับ (หัวเราะ) ก็ต้องขอบคุณทางลูกค้าทุกคนที่ชื่นชอบผลงานและตัวตนของเรา และให้โอกาสให้ผมได้เข้าไปร่วมงานกับเขา”
    เราประคับประคองตัวเองยังไงที่วันหนึ่งมีขึ้นก็ต้องมีลง
    “ผมว่ามันเป็นสัจจธรรมของโลกทุกๆ โลก ทุกสายอาชีพมากกว่าว่าทุกคนมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ เราเห็นมาเยอะแล้ว เราวางแผนชีวิตตัวเองดีกว่าที่จะทำยังไงให้เราอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง และผมว่าวันนึงถ้าเรามีฝีมือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อไหร่เขาก็จะยังจ้างงานเรา เพราะเรามีฝีมือ เราก็เห็นนักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนที่ยังทำงานตั้งแต่วัยเด็กจนตอนนี้เขาแก่แล้วเขาก็ยังเป็นนักแสดงได้อยู่ ซึ่งอยู่ได้เพราะฝีมือจริงๆ”

 

กลัวละครไม่ปัง! 'ฟิล์ม' วิ่งโร่เข้าหาผู้ใหญ่

 


    ได้ข่าวว่าพรีเซ็นเตอร์ตัวนึงก็ไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน
    “โอ๊ย ไม่ถึงหรอก ไม่แพงขนาดนั้น (ยิ้ม)”
    คิดว่าเราก้าวกระโดดเร็วไปไหม
    “ถ้าเรื่องการเป็นที่รู้จักก็อาจจะใช่ครับ แต่ในส่วนของเรื่องฝีมือและประสบการณ์หลายๆ อย่างเรายังต้องพัฒนาอีกเยอะ ก็ยังเทียบเขาไม่ได้หรอก”
    จะหลงระเริงกับอะไรที่ขึ้นเร็วไปไหม
    “สำหรับตัวเองก็อาจจะมีบ้าง กลัวว่าตัวเองจะมีคิดหลงไปบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ยังเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าจริงๆ แล้วเราเริ่มจากอะไรบ้าง”
    ตอนนี้ยังใช้ชีวิตปกติ เดินห้างได้ไหม
    “ยังใช้ชีวิตปกติทุกอย่างครับ เดินห้างทุกอย่าง (ยิ้ม)”
    ต้องพรางตัวด้วยเปล่า
    “ไม่เลยครับ เจอแฟนคลับก็เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ส่วนมากไปไหนก็ไปกับผู้จัดการ เพราะส่วนมากอยู่กองถ่ายก็ไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว”

 

กลัวละครไม่ปัง! 'ฟิล์ม' วิ่งโร่เข้าหาผู้ใหญ่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ