บันเทิง

'บูม' น้ำตาคลอ!! ถูกสังคมตัดสินว่า 'ผิด' 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บูม" จิรัสพิสิษฐ์ จารวิจิต ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังถูกโยงกรณีที่พี่ชายโดนข้อหาฉ้อโกงธุรกิจเงินบิตคอยน์กว่า 800 ล้านบาท


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อดาราหนุ่มวัยรุ่น "บูม" จิรัสพิสิษฐ์ ถูกตำรวจกองปราบเรียกตัวมาสอบสวนในกรณีที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่ชายในข้อหาฉ้อโกงเงินชาวฟินแลนด์ให้ร่วมลงทุนธุรกิจเงินบิตคอยน์ ที่มีมูลค่าว่า  800 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาดาราหนุ่มไม่เคยออกมาโต้แย้งหรือพูดถึงเรื่องดังกล่าว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินเรื่องราวต่างๆ ไปแล้ว จนล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหนุ่มบูมในงาน "เปิดตัว My Dream The Series นายในฝัน" ณ คอร์ด 6 ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เจ้าตัวจึงยอมเปิดใจถึงความรู้สึกในเรื่องนี้
 

    สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
 
   "ดีขึ้นแล้วครับ จากที่ตอนแรกก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ผมโชคดีด้วยแหละครับที่ตอนที่ผมโดนเรื่องนี้มีคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ และเป็นกำลังใจให้ผม คือเราไม่ได้อยู่คนเดียวเลยครับ ก็มีพี่ที่ทำงาน มีพี่ๆ ในกองช่วยที่คอยเป็นกำลังใจและอยู่กับผมตลอดเวลา แต่ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกมากเลยครับ ผมไม่คาดคิดเลย เพราะผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ตอนโดนก็ยังถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา พยายามติดต่อคนในบ้าน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็มีพี่ทีมงานเข้ามาปลอบ"
    ความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น
 
   "มันไม่มีใครที่เขาอยากมีคดีหรอกครับ  ซึ่งตัวผมเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน แต่มันเป็นประสบการณ์มากกว่า ผมรู้สึกว่าผมมองในแง่ดีว่าอย่างน้อยๆ เราก็รู้ว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง แล้วตอนที่เราไม่ดีใครคอยช่วยเรา ให้กำลังใจเรา คือผมโดนกระแสหนักมาก ซึ่งตัวผมก็ค่อนข้างเสียใจ เราไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเราก็ไม่รู้เรื่อง แล้วเราก็ไม่อยากที่จะโดนสายตา... (โดนสายตายังไงเหรอ) ช่วงที่ผ่านมาผมก็ยังใช้ชีวิตปกติ ไปกินข้าวปกติ แล้วก็มีคนที่เขาพอจะจำเราได้ แล้วก็พูดขึ้นมาว่าไปขอถ่ายรูปเขาสิ แล้วก็พูดจาไม่ค่อยดี เราก็ไม่คาดคิด ก็ว่าทำไม แต่ก็ช่างมัน เพราะเรารู้ตัวอยู่ว่าเราทำอะไร เราเป็นคนแบบไหน เราห้ามเขาไม่ได้ แต่เราห้ามตัวเองได้"

 

'บูม' น้ำตาคลอ!! ถูกสังคมตัดสินว่า 'ผิด' 

 

 


    เคยร้องไห้กับเรื่องนี้มั้ย 
 
   "เคยครับ มันเครียดครับ และมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราน่ะครับ และไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราเลยในชีวิตนี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่ร้องแล้วครับ แต่ผมก็ยังรู้สึกดีที่ตอนผมแย่ๆ มีคนอยู่ข้างๆ ผม คอยให้กำลังใจ ทุกคนคอยผลักดันเราขึ้นมาให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนะ"
    เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตายไหม
    "ไม่เคยถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายนะครับ ต่อให้แย่แค่ไหนผมยังคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่ตลอดเวลา ส่วนคุณพ่อคุณแม่ท่านก็ช็อกนะครับ เพราะตัวท่านเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เหมือนผมเลย ซึ่งท่านก็ไม่คาดคิดและท่านก็พยายามบอกว่าเราสู้ไปด้วยกันนะ เหมือนเป็นกำลังใจให้กันน่ะครับ แล้วผมก็บอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราก็พยายามทำของเราเต็มที่ในส่วนที่เราสามารถทำได้ครับ ที่บ้านก็จะมีการให้กำลังใจกันตลอด"
 

'บูม' น้ำตาคลอ!! ถูกสังคมตัดสินว่า 'ผิด' 

 

    ช่วงที่ปัญหาก็ยังต้องทำงานอยู่ด้วย ตอนนั้นแบ่งความรู้สึกยังไง
    "เหมือนกับว่าอันนี้มันก็คืองาน เราก็ต้องรับผิดชอบในงาน ผมรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำ คือเราก็เป็นห่วงพี่ๆ ที่ออฟฟิศ พี่ๆ เขาก็เป็นห่วงเรา เราก็พยายามทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดในทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะทางบ้าน ทางสังคม ทางครอบครัว เราพยายามทำให้ทุกอย่างดีที่สุด"
    เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกับงานมั้ย 
    "ตอนแรกๆ ผมก็เครียดเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่พอดีผมโชคดีที่ทางบริษัทหรือพี่ทุกๆ คนเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำอะไร เพราะว่าผมก็คุยกับเขาและทุกคนก็เข้าใจครับ"
    แฟนๆ ที่เคยสนับสนุน พอเราเจอเรื่องแบบนี้ เขายังสนับสนุนเราไหม
    "อันนี้ผมต้องขอบคุณทุกๆ คนเลย ที่มีทั้งดีและไม่ดี ผมขอบคุณทุกๆ คน เพราะว่าทุกๆ คนมีทั้งส่งกำลังใจมาให้ และมีทั้งไดเร็กไอจี ก็ขอบคุณมากสำหรับคนที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมาให้ผม ก็ขอบคุณจริงๆ ครับ"
    เวลาคนที่เข้ามาคอมเมนต์โดยที่เขายังไม่รู้ความจริงทั้งหมด พอได้เข้าไปอ่านแล้วรู้สึกยังไง 
    "ผมมองสองอย่าง คือเหรียญมีสองด้าน ผมมองว่าว่ามันก็ดี ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มันก็ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันตรงนี้มากขึ้น ผมเองก็ยอมรับว่าตัวผมเองใหม่ ก็ปรึกษาพี่ๆ เขาเยอะเหมือนกันว่าจะทำยังไงดี พี่เขาก็ให้คำปรึกษาว่าเราห้ามเขาไม่ได้ เราห้ามคนไม่ได้ เราห้ามได้แค่ตัวเราเอง"

 

'บูม' น้ำตาคลอ!! ถูกสังคมตัดสินว่า 'ผิด' 

 


    ฟังแล้วเหมือนบูมเสียใจที่คนตัดสินไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
    "ใช่ ตัวเราอยากให้มองว่าเหรียญมันมีสองด้าน คือเรื่องมันยังไม่ทันถึงไหนเลย เพราะยังไม่ได้ไปถึงขั้นไหนเลย แต่คนตัดสินไปแล้ว ซึ่งทางผมเองก็เป็นทางทนายจัดการ ตัวผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริงๆ ไม่ได้มาโกหกอะไร แต่ผมไม่รู้จริงๆ ตอนนี้เรื่องก็ให้ทางทนายติดตามอยู่ครับ ล่าสุดก็มีไปที่ศาล แต่เขาก็กำลังพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งเรื่องมันยังไม่ได้ประทับฟ้องเลย ยังไม่ได้มีการไต่สวนเลย ยังอยู่ในขั้นสืบสวนอยู่เลย คือตัวผมเองรู้สึกว่า ผมไม่ได้มีอะไรเลย"
    คิดว่าข่าวนี้จะทำให้มีผลต่ออนาคตในวงการของเรามั้ย 
    "ผมคิดว่าก็คงมีครับ เพราะตัวเราเองเราก็รู้สึก แต่ผมทำในส่วนที่ผมทำได้ ทำในสิ่งที่ผมรัก ก็ได้แค่บอกตัวเองว่าเราทำดีที่สุดนะ สุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไงเราตัดสินเองไม่ได้ครับ"
    อยากขอบคุณใครที่ทำให้เราผ่านเรื่องนี้มาได้
 
   "ผมก็อยากจะขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่น้องทุกๆ คนและคนที่อยู่รอบข้างผม คนที่คอยเป็นกำลังใจให้ผมทั้งที่ดีและไม่ดีนะ ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ผมโตขึ้น"
    และอยากบอกอะไรกับคนที่เขาตัดสินเราไปแล้ว    
 
   "ก็ขอร้องเลยนะครับ อยากจะขอร้องว่าอย่าเพิ่งตัดสินผม คือผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ผมขอร้อง เพราะเรื่องมันไม่มีอะไรจริงๆ ครับ"

 

'บูม' น้ำตาคลอ!! ถูกสังคมตัดสินว่า 'ผิด' 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ