บันเทิง

พระเอกตลอดกาลละครชีวิตไม่รู้จบ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ใครคนหนึ่งกล่าวไว้ "เพื่อน" คือ "วิญญาณดวงเดียวกัน ที่อยู่ในสองร่างกาย"

        

          สำหรับ “โอ วรุฒ วรธรรม” และ “นีโน่ เมทนี บุรณศิริ" เป็นยิ่งกว่านั้น เพราะคำพูดสุดท้ายที่ฝ่ายผู้จากไปกล่าวถึงอีกฝ่ายคือ “เขาคือพี่ชายแท้ๆ ของผม”

        ตอกย้ำว่า “สองสหายโอ-โน่” คือ “ของจริง” คือเพื่อนและพี่น้องที่พร้อมจะบุกฝ่าไปในทุกที่ !

          แนะถ้าจะตั้งเอาเรื่องราวชีวิตของ “โอ วรุฒ” เป็นหนังสักเรื่อง แน่นอนว่าในทุกฉากของช่วงชีวิต จะมี “นีโน่” เคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ข้างเขาเสมอ

+++

          กำเนิดดวงดาว
          ชีวิตที่สุดแสนจะสมบูรณ์ของ “โอ วรุฒ วรธรรม” เริ่มต้นลืมตาบนโลกนี้เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน 2512 บิดาคือนักแสดงอาวุโส แรม วรธรรม และยังเป็นหลานย่าของ ดอกเอื้อง (ดิบบ์) วรธรรม ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาวของ Mr. William Reginald Dibb นายห้างป่าไม้ชาวอังกฤษ

          ส่วนมารดาของเขา คือ อรพิน กุญชร ณ อยุธยา บุตรสาวของ ร้อยโทหม่อมหลวงพร้อม กุญชร (พี่ชายพลโทหม่อมหลวงขาบ กุญชร)

          สรุปว่า เพียงเท่านี้ “โอ” ก็กินขาดเป็นเด็กที่เกิดในครอบครัวดี และมีมากพอที่จะได้ร่ำเรียนในสถาบันชั้นนำของประเทศ อย่างโรงเรียนไฮโซ “กรุงเทพคริสเตียน” รุ่น 135

          จากนั้น โอยังมีโอกาสไปเรียนต่อด้านการบินที่อังกฤษ ถึงแม้จะหยุดเรียนกลางคัน แต่เมื่อกลับมาเมืองไทย โอก็ยังโชคดีได้เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการชักชวนของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย

          ชีวิตพลิกผันเมื่อ “รุจน์ รณภพ” เห็นแววให้รับบท “โกโบริ” ในภาพยนตร์ “คู่กรรม” (2531) ประกบ จินตหรา สุขพัฒน์ ปรากฏว่าจากเรื่องนี้ โอได้แจ้งเกิดเต็มตัว เป็นดาวดวงใหม่ระยิบระยับทั่ววงการบันเทิงไทย

          จากนั้น โอได้รับโอกาสมากมาย ทั้งภาพยนตร์ ละคร รายการต่างๆ ไหลเข้ามาหาไม่ขาดสาย กลายเป็นดาราชายที่สาวกรี๊ดสลบ เป็นพระเอกที่ทุกค่ายชิงตัว และเป็นเศรษฐีวัยหนุ่มที่มีทุกอย่าง ทั้งบ้าน รถ หรือแม้แต่เรือยอชท์ !!

          จนกระทั่งเราเริ่มได้ยินข่าวของ “เจ้าชายสายเสมอ” จากการติดเหล้า อันส่งผลให้กราฟชีวิตของเขาที่สูงสุด กลับดิ่งลงต่ำสุด

            ด้านชีวิตคู่ “โอ” เคยร่วมหอกับ “เจษฎาวัลย์ จันทร์แตง” หรือ “เก๋” ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลเวชธานี ซึ่งพบรักกันช่วงปี 2550 เมื่อครั้งที่ฝ่ายชายไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนป่วยอยู่

          ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนมีบุตรชายคือ “อาณาจักร วรธรรม” หรือน้องแอร์บัสที่คลอดเมื่อปี 2552 แต่ทุกอย่างก็จบลงในปีถัดมา

          จากนั้นก็หายไปพักใหญ่ แล้วฮึดสู้ขึ้นใหม่กลับเข้าสู่วงการ แต่พอมาถึงช่วงปี 2556 เขาจำต้องหันหลังให้ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ ที่สังกัดอยู่อีก เนื่องจากมีพฤติกรรมเมาเหล้าระหว่างทำงาน

          จนกระทั่งช่วงปี 2557 ชีวิตโอก็เข้าสู่มุมมืดอย่างเต็มตัว เพราะ “ใจดี” จนถูกเพื่อนโกงเงินไปหลายล้านบาท ต้องขายบ้าน เรือยอชท์ และสมบัติหลายอย่างพร้อมย้ายไปอยู่เชียงใหม่ อำลาวงการบันเทิงอย่างถาวร แถมยังต้องเข้ารับการบำบัดรักษาอาการติดสุราอย่างต่อเนื่อง

          ผ่านไปสองสามปี คนไทยดีใจเมื่อได้ยินข่าวว่าโอกลับมาตั้งหลักใหม่ ด้วยการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่ม ชื่อ “บ้านวรุฒ” ที่บ้านของเขาเองที่เชียงใหม่ แถมยังพบรักอีกครั้งกับพยาบาลสาวคนหนึ่ง
          
          ขณะที่ยังมีผู้ใหญ่ใจดีให้โอกาสกับงานพิธีกรรายการ “ชิมไปทั่วโลก” ซึ่งถ่ายทำจบไปแล้ว 3 เทป ถือเป็นงานสุดท้ายช่วงปีนี้ของเขาที่ทิ้งไว้ให้พวกเราได้เห็นลีลาการเป็นพิธีกรอันเก่งฉกาจ เช่นเดียวกับละครทีี่มีการติดต่อมา 2-3 เรื่อง นั่นแปลว่า ทุกคนล้วนเชื่อมั่นว่า โอ วรุฒ จะกลับมาได้
                    
          แต่แล้ว แม้เขาจะพยายามเลิกเหล้าอย่างเด็ดขาดเพียงใด แต่อาการอันเกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรังจากการติดเหล้านานกว่า 30 ปีไม่ได้ดีขึ้นเลย !

          จนกระทั่งวันที่ 9 กันยายน 2561 โอเกิดอาการวูบ เข้าสู่ภาวะวิกฤติ และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลนครพิงค์ ท่ามกลางความเป็นห่วงจากคนไทยทุกคน

          จนถึงวันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 เวลา 02.40 น. โอเกิดภาวะหัวใจวาย และติดเชื้อในกระแสเลือด พระเอกของเราเสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัยย่าง 49 ปี หรือก่อนวันเกิดของเขาเพียง 6 วันเท่านั้น !

+++ 

          นีโน่ “Stand By Me”
          ถึงนาทีนี้ เชื่อว่าคนไทยอีกหลายคน อาจรู้ตัวแล้วว่า ที่จริงพวกเรารัก “โอ วรุฒ” มากขนาดไหน !

          แต่คนที่รักเขากว่าใครๆ นอกจากพ่อแม่แล้ว ก็คงเป็น “นีโน่ เมทนี บุรณศิริ” พระเอกขวัญใจชาวไทย ผู้เป็นทั้งเพื่อน พี่ชาย ที่ไม่ว่าจะหันไปเมื่อไรก็เจอ...

          แรกเริ่มทั้งคู่สนิทกันเพราะคุณแม่เป็นเพื่อนรักกัน จากการเป็นแอร์โฮสเตสรุ่นแรกเช่นเดียวกัน หรือกับคุณพ่อของทั้งคู่ ก็รู้จักสนิทสนมกันดี

          แต่ภาพที่คนไทยเห็น คือ ความเป็นคู่หู โอ-โน่ ที่เราชื่นชมในความรักอย่างเหนียวแน่นยาวนาน เคยเป็นคู่หูคาสโนว่าที่แท็กทีม รับส่งกันอย่างเข้าขา !

          ในด้านการงาน ผลงานที่ทั้งคู่มีร่วมกัน ก็มีมากมาย ที่คนไทยติดตา เช่น รายการกินกับเกม ช่อง 5, โอโน่

          อย่างไรก็ดี ภายใต้ฉากหน้าที่สนุกสนาน อีกด้านหนึ่ง “นีโน่” ผู้ซึ่งแก่กว่าโอเพียงแค่ 3 ปี แต่เขาก็มีหน้าที่ยิ่งใหญ่ของพี่ชาย ที่จะคอยประคับประคองน้องยามล้มลง และไม่เคยปล่อยมือหนีไปไหน

          ยามที่โอล้มเรื่องการงาน นีโน่จะเพียรให้โอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการหางานมาป้อนให้ คอยการันตีกับค่ายบันเทิงต่างๆ ว่าน้องคนนี้ทำได้ พร้อมแล้ว !

          ยามที่โอล้มเรื่อง “ความรัก” นีโน่ก็จะให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ เคียงข้าง โอบกอด ปลอบโยน และส่งพลังให้ก้าวขึ้นมาใหม่

          ยามที่โอล้มเรื่อง “สุขภาพ” นีโน่จะดูแล ช่วยเหลือ จัดการทุกสิ่งทุกอย่าง หาทางรักษาจนโอฟื้นฟูกลับมาได้อีกครั้ง...และอีกครั้ง

          แม้แต่ยามที่โอล้มเรื่อง “ทัศนคติ” นีโน่ก็พร้อมที่จะดุด่า ตักเตือน เคยโกรธ แต่ไม่เคยเกลียด เพราะความผูกพันของทั้งคู่ มากเกินกว่าจะตัดสายใยไปได้ !

          ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สองพี่น้องให้สัมภาษณ์รายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ตอนหนึ่งพี่ชายกล่าวถึงน้องคนนี้ว่า

          “คือมันไม่ห่วงไม่ได้ เพราะเราอยู่ด้วย อันนี้ไม่เคยพูดในรายการไหนเลยนะ ตอนที่เราทำรายการด้วยกัน แล้วมันโดนปลด ผมก็ต้องตกงานไปพร้อมมันนะ เพราะมันขายคู่กันไง ไม่ใช่โอเดือดร้อนคนเดียวนะ พี่ก็เดือดร้อนไปด้วย แต่ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้ไง เพราะไม่อยากซ้ำเติม เรื่องหมางใจเราไม่เคยมีนะ แต่ที่หมางใจคือมันไม่หยุดกิน (เหล้า) แล้วพี่ก็ไม่พูดกับมัน 3-4 เดือนเลยนะ แต่สุดท้ายก็กลับไปหา ตอนนั้นคิดว่าถ้ามันกินต่อไปแบบนี้มันตายแน่ มันนั่งสูบบุหรี่ นั่งตาลอย ยังไม่รู้เลยใครขับรถผ่านไปมาในบ้านตัวเอง"

          จนแม้ในยามที่โอจากไปจริงๆ นีโน่ก็ยังอยู่กับเขาในช่วงลมหายใจสุดท้าย และยังคงปกป้องน้องคนนี้อย่างถึงที่สุด อ้อนวอนทั้งน้ำตาขอให้ช่วยกันส่งต่อเรื่องราวของโอในด้านดีงาม

          เช่นเดียวกับความตั้งใจที่จะทำหนังสือที่ระลึกในงานศพเกี่ยวกับชีวิตของโอ ทั้งยังเตรียมเค้กวันเกิดให้น้องในงานสวดวันสุดท้ายด้วย

          ถ้า “ผีเสื้อขน” ที่ปรากฏในวันสวดพระอภิธรรมวันแรกเมื่อ 11 กันยายน ที่ผ่านมา คือดวงวิญญาณของ “ผู้จากไป” ตามความเชื่อ

          น้องชายคนนี้คงมาเพื่อย้ำว่า...ไม่มีแม้แต่วันเดียว ที่เขาจะไม่นึกขอบคุณในทุกๆ อย่าง ที่พี่ชายคนนี้ทำให้เสมอมา...!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ