"แดง"ธัญญา วชิรบรรจง พร้อมคณะแพทย์อัพเดทอาการป่วยดีขึ้นมาก
สร้างความตกใจและผสมผสานความเป็นห่วงอย่างมาก หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดว่า เมื่อวันทีี 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้กำกับฝีมือดี นายพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง หรือ ออฟ ได้วูบกลางกองละครเรื่ิอง “กรงกรรม” จากการวินิยฉัยของแพทย์จึงได้รับทราบว่าผู้กำกับคนดังล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โดยตลอด 9 วันที่ได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นั้น ทางประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของทางครอบครัวได้ส่งข่าวอัพเดทอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ส.ค. นางธัญญา หรือ แดง ภรรยาของผู้กำกับพร้อม นางสาวเอกนรี (บีบี) ลูกสาว นายภูรีพงษ์ (ไรเฟล) ลูกชายคนเล็ก และทีมแพทย์นำโดย รศ.นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี ผู้อำนวยการด้านบริหาและผู้อำนวยการด้านการแพทย์ นพ.วิสุทธิ์ วิเวกาภิรัตแพทย์ผู้ชำนาญสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจ หัวหน้าคณะแพทย์ นพ.ศิริชัย นิรมานสกุล แพทย์ผู้ชำนาญการสาขาประสาทวิทยา นพ.พงศธร เรืองรองหิรัญญาแพทย์ผู้ชำนาญการสาขาประสาทวิทยา ได้จัดงานแถลงข่าว ณ รพ. บำรุงราษฎร์ ศูนย์ประชุม ห้อง Conference A อาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก (อาคารผู้ป่วยนอก) ท่านกลางสื่อมวลชนที่มาทำข่าวกันอย่างคับคั่ง
โดย รศ.นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี ผู้อำนวยการด้านบริหาและผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ได้กล่าวทักทายกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวในวันนี้ว่า
“วันนี้ก็เป็นวันที่เราได้มีโอกาสแถลงข่าว เพื่ออัปเดตรายละเอียดเกี่ยวกับข่าวที่หลายท่านให้ความสนใจ รวมถึงให้ความเป็นห่วงในการดูแลรักษา คุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ซึ่งผมต้องขอเรียนตามนี้นะครับว่า ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของเราได้รับการย้ายคุณพงษ์พัฒน์หรือพี่ออฟ มาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 16 สิงหาคม และเราก็ต้องขอยอมรับเลยว่ากระบวนการต่างๆ ในการประสานเพื่อเชื่อมต่อระหว่างโรงพยาบาลนั้น คุณแดงซึ่งเป็นภรรยาของพี่ออฟได้ดูแลมาเป็นอย่างดีมาก เพื่อที่เราซึ่งเป็นทีมแพทย์จากฝั่งนี้จะได้เตรียมทีม เตรียมอุปกรณ์ ให้ครบพร้อมก่อนที่พี่ออฟจะมาถึง หลังจากที่เราได้ประเมินอาการเบื้องต้นของพี่ออฟ เราก็พบว่าพี่ออฟมีอาการแขนและขาด้านขวาอ่อนแรง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงนี้พี่ออฟทำงานหนักหรือมีอาการของความดัน แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้นทีมแพทย์จึงทำการวินิจฉัยต่อด้วยการใช้วิธีเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดสมอง รวมถึงตรวจด้วยการเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหลอดเลือดสมอง MRI และ MRA จากนั้นเราจึงทำการประชุมเพื่อวางแผนรักษากันต่อ โดยมีพี่แดงอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิดและร่วมตัดสินใจทุกอย่างเต็มที่ จนท้ายที่สุดเราก็เลือกใช้วิธีการรักษาทางยาชนิดต่างๆ
จากการที่เราติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด เราก็พบว่าการรักษาของพี่ออฟนั้นค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่ง ณ เวลานี้พี่ออฟก็ได้ย้ายออกมาอยู่ในห้องพิเศษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็สามารถสื่อสารได้ค่อนข้างที่จะโอเค มีความเป็นห่วงทุกคน อีกทั้งยังคิดถึงงานต่างๆ ที่ทำอยู่ แต่กระนั้นทีมแพทย์เองก็ได้เล็งเห็นว่าอยากให้พี่ออฟได้พักผ่อนเพื่อทำการรักษาตัวในห้องพิเศษอีกสักระยะหนึ่งก่อน ดังนั้นถ้าจะให้สรุปเบื้องต้น ผมก็ขอสรุปว่า ขณะนี้อาการของพี่ออฟเป็นอาการที่ทีมแพทย์ต่างก็รู้สึกพอใจ และพี่ออฟเองก็คิดถึงทุกคนเช่นกัน”
ด้าน นพ.วิสุทธิ์ วิเวกาภิรัต แพทย์ผู้ชำนาญสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจ หัวหน้าคณะแพทย์ ได้เผยขั้นตอนการรักษา “ออฟ” พงษ์พัฒน์ หลังจากรับตัวมาจากโรงพยาบาลเดิมว่า
“สิ่งแรกที่เราทำเราได้ทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยซีที สแกนกับเอ็มอาร์ไอของสมอง พบว่าสิ่งที่ส่งผลกระทบกระเทือนในการป่วยของคุณออฟ พงษ์พัฒน์ในครั้งนี้เป็นเพราะตัวเลือดฝอยที่มีการขาดเลือดไปเลี้ยง อุดตัน ซึ่งได้รู้ว่าแผนการรักษาคงจะไม่ใช่เป็นการใช้หัตถในการเข้าไปรักษา ต้องรักษาโดยการปรับความเสี่ยงต่างๆเกี่ยวกับโรคนี้ และรักษาโดยการทำกายภาพฟื้นฟูเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเบื้องต้นเลย สิ่งแรกที่เราทำคือคนไข้ต้องมีการพักผ่อนทำเต็มที่ ควบคุมความดันโลหิต ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นการดูแลในระยะสั้น ระยะเฉียบพลันที่สุด พอเราควบคุมระยะนี้ได้แล้ว ในระยะต่อมาเราเริ่มเข้มข้นในการควบคุมความดัน เริ่มทำกายภาพในการฝึกพูด กลืน ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งที่เราพบเป็นที่น่าพอใจ เห็นการพัฒนาการรักษาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์มารักษากับทางโรงพยาบาล 8 วัน ทางแพยท์เห็นการพัฒนาต่อเนื่องทุกวัน มีสิ่งๆดีๆที่เกิดขึ้นทุกวัน มีถอยหลังหน่อย เดินหน้าเยอะ เป็นลักษณะของโรค แล้วเท่าที่ดูมาเราคิดว่าการพัฒนาที่เราเห็นน่าจะพัฒนาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
เรื่องการออกจากโรงพยาบาลก็คืออีกระยะหนึ่ง ผมขอตอบย้อนหลังแบบนี้นะครับ ยังคาดคะเนไม่ได้ว่าการรักษาของออฟ พงษ์พัฒน์จะพัฒนาไปถึงจุดไหน แต่อย่างที่เรียนให้ทราบว่าการพัฒนาทางการรักษามีขึ้นทุกวัน ทางแพทย์เห็นชัดขึ้นทุกวัน ตอนนี้การรักษาระยะกลางจนถึงระยะยาวเป็นการฟื้นฟูโดยการทำกายภาพบำบัด ซึ่งมีความสำคัญมากที่สุด ซึ่งทางทีมแพทย์ได้อธิบายให้กับทางครอบครัวได้ทราบว่าตอนนี้ถ้ากล้ามเนื้อแข็งแรง เมื่อสมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ร่างกายจะกลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม อาจจะไม่เหมือนเดิม100% อาจจะแค่99% ทุกอย่างที่กลับมาคือทุกอย่างที่ดีที่สุดที่เราต้องการ ในสิ่งที่เราทำคือพยายามทำให้ทุกอย่างพร้อมที่จะทำให้ออฟ พงษ์พัฒน์สามารถที่จะฟื้นตัวได้เต็มที่ เพราะอย่างที่แดง ธัญญาได้เรียนว่าพยายามให้กำลังอ๊อฟ พงษ์พัฒน์อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมคิดว่ามีส่วนทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ และอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ก็เข้มแข็งจริงๆ คนไข้ส่วนใหญ่ที่มีภาวะอย่างคุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ จะมีอาการซึมเศร้าหมดกำลังใจ ซึ่งอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ไม่มีภาวะซึมเศร้าขาดกำลังใจเลย เข้มแข็งดีมาก ซึ่งตอนนี้ต้องให้กำลังใจกันเยอะๆนะครับ
ส่วนจะส่งผลกระทบด้านความคิดหรือเปล่านั้น เท่าที่ดูอาการของออฟ พงษ์พัฒน์ ทางทีมแพทย์ของคิดเหมือนกันก็คือ คนไข้คิดอ่านทุกอย่างเป็นปกติ เมื่อวาน(23 ส.ค.) ได้มีโอกาสพูดคุยกับอ๊อฟ พงษ์พัฒน์และลูกชาย(ภูรีพงษ์)เรื่องอาการเจ็บหัวไหล่ของลูกชาย อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ก็บอกว่าหากมีอะไรเกี่ยวกับอาการเจ็บหัวไหล่ให้ช่วยแนะนำลูกชายด้วย แสดงให้เห็นว่าอ๊อฟ พงษ์พัฒน์มีการสื่อสารโต้ตอบได้อย่างทันที ไม่มีติดขัดหรือแสดงอาการคิดไม่ออก สมองไม่แล่น การคิดอ่านเหมือนบุคคลปกติ แต่ว่าการพูดอาจจะยังไม่คล่อง ต้องดูการพัฒนา ครั้งแรกในการรักษาอ๊อฟ พงษ์พัฒน์พูดน้อยมาก บางทีนึกออกแต่ว่าพูดไม่ออก ตอนนี้นึกแล้วก็พูดออกเลย เพียงแต่ยังพูดไม่ชัด ซึ่งจะฟื้นฟูได้ อาการโดยรวมในตอนนี้ปลอดภัยแน่นอนครับ ดีกว่าวันแรกมากมาย ปลอดภัยสบายใจได้ เรื่องยังไม่หายป่วย ยังไม่หายป่วยเต็มที่ เพราะยังมีความจำเป็นต้องทำกายภาพฟื้นฟูร่างกาย เพราะในคำจำกัดความของผม ถ้าหายป่วยคือคุณพงษ์พัฒน์ต้องกลับไปกำกับการแสดงเหมือนเดิมตามปกติ แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้น(แล้วตอนนี้สามมารถออฟเดินได้หรือไม่) ยังคงต้องทำกายภาพบำบัด เพราะยังไม่สามารถเดินได้ตามปกติเลยครับ การทำกายภาพต้องใช้เครื่องมือช่วยก้าวขาถึงจะทำได้” นพ.วิสุทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม “แดง” ธัญญา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึี้นในวันนั้น โดยภรรยาของผู้กำกับคนดัง กล่าวแจงว่า
“จริงๆ วันนั้นแดงไม่ได้อยู่ในกองถ่าย เหตุเกิดในกองถ่ายกรงกรรมที่หนองแขม ส่วนตัวของแดงอยู่กองถ่ายของคุณชุดาภา จันทเขตต์ วันนั้นถ่าย 8 ฉาก นัด 10 โมง เหตุเกิดตอน 11 โมง ลูกสาว (บีบี) อยู่กับพี่ออฟ ตอนนี้ลูกสาวจะไปทำงานกับพี่ออฟตั้งแต่กองเปิด เขาจะอยู่ในเหตุการณ์ตลอด จากที่เขาเล่า คือพี่ออฟเดินไปกำกับตอนเช้าปกติ แล้วเขาไปกำกับนักแสดงแล้วเดินกลับมา เขาก็บ่นกับทางทีมงานรอบๆ ตัวว่าขาเขาไม่ค่อยมีแรง เหมือนขาช้าๆ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรทีี่บานปลาย เด็กที่อยู่ใกล้ๆ ยังบอกว่าสงสัยขาดโปแทสเซียม อาจจะไม่ค่อยทานอาหารเนื่องกำลังจะขึ้นคอนเสิร์ตออกกำลังเยอะ สาเหตุที่ไม่ค่อยทานอาหารเพราะเขาบอกว่า เขาพุงป่อง ซึ่งเราก็จะบอกเขาว่าอายุขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่นายแบบนะ แต่เขาก็จะแอบอดอาหารของเขาแบบนี้ เวลาเขาทำอะไรเขาจะสุดโต่งทำแล้วต้องที่สุด ไม่ทำครึ่งๆ กลางๆ พอเขาบอกว่ามือไม่มีแรง เราก็ไปซื้อกล้วยให้เขากิน พอเขารับกล้วยแล้วกล้วยมันหล่นจากมือ พอตกทุกคนก็คิดว่าเขาแกล้ง เพราะเขาเป็นคนชอบเล่น ก็ไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้น เขาเดินไปอีกนิดหนึ่งจะถึงมอนิเตอร์อยู่แล้ว ก่อนที่จะเซล้มเป็นความโชคดีที่อู๋ไปวันนั้นคือเขารับทัน และมีน้องทีมงานอีกคนเอาพี่ออฟมานั่งที่เก้าอี้แล้วบีบอกว่าเราไปหาหมอดีกว่า บีไปสตาร์ทรถ แล้วพี่ออฟก้าวไม่ขึ้น เขาขึ้นขาเดียว หมายความว่า ซีกชวาของเขาอ่อนแรงมาก พอไปถึงโรงพยาบาลหน้าหนองแขม คุณหมอรู้เลย คือไม่ถามประวัติใดๆ ทั้งสิ้น จริงๆ เขาโทรมาขออนุญาตแดงก่อน แดงเพิ่งแต่งหน้าเสร็จกำลังจะเข้าฉากแรก แล้วเขาบอกว่าฉีดยาภายใน 1 ชั่วโมง เป็นโกลเด้น พีเรียด ที่ฉีดตรงนี้ทันมันจะโอเคแล้วก็ฉีดไป พอแดงเข้าฉาก เลขาแดงวิ่งมาบอกกลางฉากเลยว่า ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว ก็สบายใจ ระดับหนึ่งเพราะว่าแดงคุยกับหมอที่รู้จักกัน ถ้าฉีดตรงนี้เดี๋ยวเช้าเป็นปกติ แต่ทีนี้ถูกแจ้งมาโดยหมอตอนที่แดงอยู่ในฉากว่าเหมือนอาการยังไม่ดีขึ้น เหมือนไม่ได้รับยาและแดงไม่ทราบในรายละเอียดของขั้นตอน ก็เลยแนะนำว่าให้เขาโรงพยาบาลใหญ่ก่อนดีกว่า
คุณหมอท่านนั้นดีมากช่วยหาโรงพยาบาลให้ ว่าเราต้องการจะเอาโรงพยาบาลอะไร มี 3 โรงพยาบาลและหนึ่งในนั้นมีบำรุงราษฎร์ และหมอแจ้งมาว่าบำรุงราษฎร์ตอบรับเร็วมาก พร้อมมาก แดงบอกเลือกบำรุงราษฏร์ ตอนแรกเขาจะให้บำรุงราษฏร์ส่งรถพยาบาลมารับ แต่แดงขอให้รถโรงพยาบาลทางนี้ไปส่งตัวที่บำรุงราษฏร์ แล้วมีความโชคดีตอนที่ไปจนแหวกทางให้ มาถึงบำรุงราษฏร์ด้วยความรวดเร็ว ส่วนตัวแดงก็ขึ้นทางด่วนมาหลังจากถ่ายละครเสร็จ แดงมาถึงที่หลังหลายคน มีหลายคนที่มาถึงก่อน เช่นน้องดา (หทัยรัตน์ อมตะวนิชย์) คุณจิ๋ม (มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) มาถึงก่อน มีหนุ่ม (กฤษณ์ ศุกระมงคล) ด้วย พอมาถึงปั๊บก็เข้ามาประชุมเลย คือมีหลักการ ขั้นตอนทุกอย่างชัดเจน ไม่มีสปอย ไม่มีดราม่า คือคุณหมอคนแรกอธิบาย ถ้าทำสแกนออกมาแล้วและถ้าอยู่เส้นเลือดใหญ่ใช้วิธีลากออกมา อันนี้ฟังจากคุณหมอนะคะ แต่พอสแกนออกมาแล้วอยู่ที่เส้นเลือดฝอยและลึกมาก เพราะฉะนั้นทำการตรงนั้นไม่ได้ทุกอย่างเลยทำการเปลี่ยนแผนการรักษา กลายเป็นว่ารักษาด้วยยา ดำเนินการต่อและเข้าไอซียู ตอนที่เจอเขาครั้งแรกเราเจอเขาที่ห้องไอซียู เขาแค่ลืมตามามองๆ สิ่งที่เราจะได้ยินเขาพูดตลอดคือคำว่า คอนเสิร์ต เขาพูดเบาๆ ว่าคอนเสิร์ต แดงบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องของคอนเสิร์ตเพราะแดงจะเคลียร์ทางโมโน เพราะมันเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้เป็นเหตุสุดวิสัย ทางโมโนให้ความร่วมมือดีมากและคุยกับทางสปอนเซอร์ เพราะว่าเป็นคอนเสริร์ตภายใน ซึ่งครั้งนี้ออฟเจออะไรที่ดีหมด ไม่รู้เป็นเพราะว่าบุญทีี่ทำ เจอแต่คนดีๆ ทีมดีๆ และคนรอบข้างทั้งหมด ดีจริงๆ มาเยี่ยมมาดูแลเอาอาหารมาส่งให้และความอบอุ่นของทางโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ต้องขอบคุณคุณหมอทุกท่าน เพราะตั้งแต่เข้ามา หมอได้รับคำอธิบายชัดเจนในทุกๆวันและทุกๆเวลาด้วย คุณหมอจะทำงานค่อยเป็นค่อยไป และจะบอกเราด้วยความเป็นจริง ว่าอาการตอนนี้เป็นอย่างไรและรับมืออย่างไรประมาณนี้ ถามว่าหนักใจไหม เราหนักใจอยู่แล้ว แต่เราต้องเรียกสติ เราจะไม่มาร้องไห้ฟูมฟาย ในเมื่อเขาอ่อนแรงเราต้องเข้มแข็ง เราจับมือเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันจะอยู่กับเธอ เขาจะกังวลว่าเราจะมาลำบากเพราะเขา และดูแลเธอไม่ได้ วันนี้เขาดูแลเรามาเยอะแล้ว เราจะดูแลคุณสุดกำลังที่เรามีจะบอกเลยว่าจิตใจออฟเขาแข็งแรงมาก และเขาแข็งแรงมาก เราจะไปด้วยกัน แดงขึ้นว่ามันจะบั่นทอนร่างกายเขา ร่างกายเขาต้องดี"
เมื่อถามต่อว่าอยากฝากขอบคุณแฟนคลับที่รอติดตามข่าวของพี่ออฟไหม ซึ่ง แดง ธัญญา กล่าวว่า “ก็อยากขอบคุณผ่านสื่อนะคะ ว่ากำลังใจที่มีมาอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจากแฟนคลับเอง จากเพื่อนๆ จากพี่ๆโดยเฉพาะพี่ๆผู้จัดนะคะ จากทีมของช่อง 3 แล้วก็จากญาติๆ ทุกๆคน แล้วก็แฟนคลับทุกๆคนที่บอกต่อกันมา เอาของมาส่ง มีโน้นนี่ก็จะมาบอกว่าเป็นกำลังใจให้ แดงขอขอบคุณจากใจ ของครอบครัวเราทุกคน แล้วก็จากออฟด้วยค่ะ แดงบอกออฟทุกครั้งที่มีอะไรเข้ามา แดงก็จะบอกกับออฟว่าวันนี้มีคนมาให้กำลังใจกี่คน มีใครบ้าง อันนี้ออฟรับรู้ทั้งหมดค่ะ แล้วก็อยากจะขอบคุณตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่เกิดเหตุเรื่อยมาก ก็ขอบคุณทั้งคนขับรถ คนดูแลในรถ จนมาถึงปลายทางที่รพ.บำรุงราษฎร์ น้องพยาบาลทุกคนน่ารักจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ในขณะที่ “บีบี” เอกนรี ลูกสาวของออฟ พงษ์พัฒน์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า
"ตอนที่คุณพ่อแขนขาอ่อนแรง ท่านหันมาบอกบีกับอาอู๋ (ธนากรโปษยานนท์) ว่า ไปละ แขนขาไม่มีแรงและไปละ เขาพยายามเดินไปที่รถ เตรียมสตาร์ทรถ อาอู๋รับตัวทันตอนที่เขาเซล้มลงมาพอดี ส่วนตอนที่พาส่งโรงพยาบาลนั้น บีไม่ได้หันไปมองข้างหลัง เพราะว่าหนูนั่งอยู่ด้านหน้ารถ ก็ไม่ทราบอาการตอนที่อยู่ในรถพยาบาลเท่าไหร่ สภาพตอนนั้นอยู่คงที่และไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหร่ คุณพ่อรู้ตัวทั้งหมดตั้งแต่เกิดเรื่องยันมาถึงบำรุงราษฏร์ แต่เหมือนเขามีอาการล้า แล้วก็อ่อนเพลีย” บีบี กล่าว
คุณออฟ พงษ์พัฒน์ และครอบครัว ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง และได้ฝากข้อความ ถึงทุกท่านและทีมงานละครมา ณ ที่นี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง