'ทีมเจ้าหน้าที่'พร้อม'โจอี้ บาซู'แถลงอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ

         ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับอาการป่วยของ “โจอี้ บาซู” ศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต วัย 49 ปี ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค.ที่ ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง บีอาร์ซี ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวความคืบหน้าอาการป่วยของอดีตนักร้องหนุ่ม ซึ่งครั้งนี้มี นายชาตินันท์ เชยประเสริฐ ประธานกรรมการบริษัท/ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง บีอาร์ซี, นางนิตยา ชไนศวรรย์ กรรมการบริษัท, นางสาวชนม์นิภา ฉัตรโชคไพศาล กรรมการบริษัท, นายนฤเบศ เสาร์แก้ว กรรมการบริษัท พร้อมด้วยทีมฟื้นฟูฯ ร่วมแถลงครั้งนี้

         โดยนายชาตินันท์ เชยประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ ฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง บีอาร์ซี กล่าวว่า “คุณโจอี้ได้เข้ามารับการฟื้นฟูตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน รวมเวลา 2 เดือน อาการแรกรับเบื้องต้นของคุณโจอี้มาด้วยอาการหลอดเลือดในสมองตีบ มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร พูดได้ไม่ชัดเจน มีอาการแขนขาอ่อนแรงทางด้านขวา สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย ซึ่งในส่วนโปรแกรมการฟื้นฟูและควาก้าวหน้าในการฟื้นฟูเราจะให้ทางทีมฟื้นฟู ประกอบด้วยนักกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดเป็นคนพูด สำหรับค่าใช้จ่ายที่พักอาศัยหรือค่ารักษาในการฟื้นฟูทางศูนย์เราไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายกับคุณโจอี้ เพราะทางเราเป็นแฟนคลับของคุณโจอี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ คงใช้ในเรื่องการรักษาในส่วนของสมอง หลังจากนี้คุณโจอี้ต้องฟื้นฟูที่นี่อีก 6 เดือนเพื่อฟื้นฟูให้กลับสู่สภาวะใกล้เคียงปกติที่สุด คาดว่าอีก 6 เดือน คุณโจอี้จะสามารถกลับไปทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน"

         ด้านทีมฟื้นฟูกล่าวเสริมว่า “ในส่วนของกายภาพตอนนี้เน้นของการฝึกเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อและยืดกล้ามเนื้อตอนนี้คุณโจอี้ฝึกเดินได้ประมาณ 5-10 เมตรโดยไม่มีการเหนื่อย แต่ต้องฟื้นฟูต่อไป ส่วนเรื่องของกิจกรรมบำบัดจะเน้นในเรื่องของการพูดคุยสื่อสารในชีวิตประจำวัน และฝึกกำลังกล้ามเนื้อแขนและมือ อาการตอนนี้คุณโจอี้สามารถยกแขนและมือขึ้นมาหยิบจับได้แต่ยังต้องช่วยประคองอยู่ ในเรื่องของการพูด สามารถคิดคำได้เร็วขึ้นและพูดเป็นประโยคได้บ้าง และในส่วนของการพยาบาลตลอดเวลาที่คุณโจอี้ฟื้นฟูอยู่ที่นี่ คุณโจอื้ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆได้ดี จากการตรวจเยี่ยมของแพทย์ประจำศูนย์ทดสอบกล้ามเนื้อใบหน้าดีขึ้น และยิ้มมุมบ้างข้างที่อ่อนแรงได้เกือบเท่าอีกข้างหนึ่งพูดชัดขึ้น กล้ามเนื้อข้างที่อ่อนแรงฟื้นฟูได้ดี การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ปกติและสามารช่วยเหลือตัวเองได้ดี”

         ในขณะที่ โจอี้ บาซู กล่าวเสริมว่า “ทั้งหมดทั้งมวลเลย ผมต้องขอบคุณ ตอนนี้ผมยังพูดไม่ชัดสักเท่าไหร่ แต่ว่าพูดได้ดีขึ้น แต่ไม่เป็นปัญหาครับ พูดได้บ้างแต่พูดไม่ชัดมาก ไม่มีปัญหาในส่วนของสมอง ปกติครับ กำลังใจดี ผมต้องมีหน้าที่ในการทำงานอีกขั้นต่อไป ผมจึงต้องค่อนข้างทำทุกอย่างให้มีระบบ อาการหลอดเลือดสมองตีบตอนนี้หายแล้วครับ ในส่วนของค่ารักษาก็หลักแสน ก็ช่วยๆกัน เป็นเงินจากการจัดคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว แต่อยู่ที่นี่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผมไม่อยากจะคิดเยอะ ขอคิดเรื่อยๆ เปื่อย ๆ ไปก่อน”

          ส่วน นางนิตยา ชไนศวรรย์ กรรมการบริษัท กล่าวเริมในส่วนของคดีว่า “ในส่วนของเรื่องคดี เขามองคุณโจอี้เป็นผู้ป่วย ดังนั้นจะไม่มีเรื่องของการดำเนินคดีแล้ว โดยตอนนี้ทางกรมคุมประพฤติ ก็ได้มาติดตามและทำงานร่วมกับพวกเราทางศูนย์ฟื้นฟูฯ ให้ความสะดวกค่อนข้างมาก คือกรณีถ้าคนทั่วไปปกติ จะต้องเดินทางไปที่กรมคุมประพฤติเพื่อรายการตัวว่าไม่มีโอกาสในการกลับไปใช้ยาเสพติด แต่สำหรับคุณโจอี้หลังเกิดคดีมีการเจ็บป่วย เลยทำให้มีปัจจัยหลายอย่าง ด้วยสภาพร่างกาย ทางกรมคุมประพฤติเลยเป็นฝ่ายมาหาแทน ทำงานร่วมกับทางเรา และมีการมาตรวจเยี่ยมทั้งหมด 4 ครั้ง นี่ก็มาแล้ว 3 ครั้ง เหลืออีกครั้งสุดท้าย ไม่เกินช่วงต้น ก.ย. คือจะมีเจ้าหน้าที่ มากัน 4 ท่าน เพื่อมาซักประวัติ ตรวจปัสสาวะ ตรวจร่างกายปกติ โดยทางเราก็จะต้องมีการรายงานอาการกลับไปเรื่อยๆ และถ้าทุกอย่างเรียบร้อยก็จะพ้นในระยะฟื้นฟู ซึ่งทุกอย่างจะเรียบร้อยในอีก 1-2 เดือนนี้ ไม่มีการดำเนินคดีต่อคือจบจริง และหลังจากฟื้นฟูจบแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการ ‘คืนคนดีสู่สังคม’ คือปัจจุบันบ้านเราผู้เสพถือเป็นผู้ป่วย พอบำบัดหายแล้ว ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการคืนคนดีสู่สังคมค่ะ" นางนิตยากล่าวปิดท้าย