(คลิป) หนทาง 10 ปีของ'แก้ม' ที่ต้องฝ่าฟันเพื่อฝันที่เป็นจริง

 

    เรียกว่าเปิดตัวมาได้ “ปั๊วะ” มาก สำหรับเพลง “ไม่มีเธอไม่ตาย” เพลงใหม่ของดีว่าส์สาว “แก้ม” วิชญาณี เปียกลิ่น ที่งานนี้ได้ 2 ศิลปินคุณภาพในยุคนี้อย่าง “โอม” ปัณฑพล ประสารราชกิจ หรือ โอม ค็อกเทล มาเป็นโปรดิวเซอร์และแต่งเพลงนี้ให้ และได้ “โต้ง ทูพี" พิทวัส พฤกษกิจ มาร่วมแต่งท่อนแร็พและร้องแจม ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่กรฉ่อนตั้งแต่เปิดตัว ล่าสุด “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวแก้มถึงเพลงนี้ 

 

    @@ กระแสตอบรับเพลงนี้ดีมาก
    “ดีใจมากเลยนานแล้วที่ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้ ที่เพลงเราเองเป็นที่ยอมรับของแฟนๆ ที่ไม่ใช่แค่แฟนเพลงของเรา หรือคนที่เขาติดตามผลงานเรามาตลอด แก้มมีความสุขมากจริงๆ คือมันเป็นเพลงที่มาจากตัวเราจริงๆ แล้วมาจากสิ่งที่โปรดิวเซอร์ของเราคือพี่ “โอม ค็อกเทล” เขียนจากตัวเรา ว่าเราทำได้มันมาจากความเชื่อก่อนเลย ว่าเขาเชื่อว่าเราทำได้ ว่าเราไปทางไหนได้แล้ว เราเองก็มีความสุขมาก”

    @@ ทำไม “โอม ค็อกเทล” ถึงมาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงนี้ให้
    “แก้มชอบร้องเพลงของค็อกเทลอยู่แล้ว จริงๆ พวกเดอะสตาร์ หรือ 4 โพดำ เวลาคัพเวอร์เพลง อย่างเพลงคุกเข่า, เพลงเธอ หรือว่าเพลงคู่ชีวิต จะเอาเพลงเหล่านี้มาร้องอยู่แล้ว แล้วแก้มเคยร้องในรายการบ่อยๆแล้วมันเข้าปาก แล้วแก้มมีโอกาสได้ขึ้นคอนเสิร์ต The mask singer กับพี่โอมได้ร้องคู่กับพี่โอมเพลงคู่ชีวิตแล้ว ตอนซ้อมแก้มก็พูดกับพี่โอมไปครั้งหนึ่งว่าพี่โอมแก้มอยากให้พี่โอมแต่งเพลงให้ ตอนที่พูดไปเราก็รู้ด้วยแหละว่าพี่เขาคิวฮอตมาก แต่เหมือนพี่เขายินดีมากๆ การที่จะได้ทำครั้งนี้ีคือคุยกันครั้งเดียวผ่านโทรศัพท์แล้วพี่โอมแต่งเพลงได้เลย คือพี่โอมบอกว่าเขาชื่นชมในสิ่งที่แก้มตั้งใจทำมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานต่างๆ ใช้ความสามารถ หรือว่าเรื่องเสียงร้อง หรือเรื่องอะไรแบบนี้ ซึ่งพี่โอมไปศึกษางานแก้ม แล้วจับทางแก้มว่าให้ไปทางไหนได้คือเขาอยากให้มันเป็นทางของแก้มเอง แก้มพูดกับพี่โอมครั้งแรกที่เจอกันว่าพี่โอมเห็นอะไรในตัวแก้ม พี่โอมทำเลย พี่เขาพูดมาว่าทุกคนรู้ว่าแก้มร้องเพลงได้ ร้องเพลงดี ร้องเพลงเก่ง นี่ไม่ได้ชมตัวเอง ตอนแรกที่ฟังเพลงนี้ มันใช่เสียงเรา แก้มโหลดเพลงนี้ฟังบนเครื่องบินมันรู้สึกแบบเฮ้ยมันไฮมาก ไฮในที่นี้คือพลังมากฟังบนฟ้าแล้วแบบมันคือเพลงฉันแล้วมันร้องไห้ มันดีใจมากคือเรารู้สึกว่ามันโดนมากมันใช่เรามากๆ รู้สึกแบบเอ้ยถึงเวลาแล้วที่จะได้มีเพลงอย่างงี้สักทีหนึ่งเรารอมานานมาก เราร้องไห้เลย เพราะว่ามันอิน ดีใจมากพอลงเครื่องแล้วโทรหาพี่โอม ขอบคุณมากจริงๆ  เพลงนี้มันพอดีกับตัวหนูจริงๆ แล้วเราเจอคนที่ใช่สำหรับการทำเพลงให้เรา เข้าใจกับความเป็นเรา คุยถึงเพลงต่อไปแล้วนะ (หัวเราะ)”

 

 

 

 

    @@ มาต่อที่ “โต้ง ทูพี”    
    “ทูพีคือรุ่นน้องแก้มตั้งแต่เรียนสตรีภูเก็ตตอน ม.ปลาย ด้วยกันแล้วทูพีก็เป็นนักร้องในโรงเรียนคนหนึ่ง ก็คือจะมีการที่ไปร้องเพลงในอย่างต่างๆก็จะเจอกันอยู่แล้วก็ชื่นชมกันมาตลอดว่าน้องแร๊พดี น้องร้องเพลงๆได้ด้วย เขาจะมีกระบวกการร้องของเขาที่ดีมาก ไม่ใช่ดีแค่แร๊พ 2-3 ปีหลังมานี้ก็เจอกัน เฮ้ยเมื่อไหร่จะได้ทำเพลงด้วยกันคือก็คุยกันมานานแล้ว เขาก็สายแร๊พเปอร์ เราก็อยากเป็นสไตล์อย่างนั้นอยู่แล้ว แก้มชอบเพลงฮิพฮอพ ประมาณปลายปีที่แล้วก็คุยกันว่าเริ่มเหอะ ต้องเริ่มแล้วก็นั่งคุยกันประมาณหนึ่ง แต่ไม่รู้จะไปลงตรงไหนคิดไม่ออก แล้วเพลงนี้พี่โอมแต่งมาตอนแรกไม่มีแร๊พ มีช่วงหนึ่งพี่โอมบอกว่าต้องมีแร๊ป แก้มบอกพี่โอมแก้มขอเสนอเลยทูพี  คือจังหวะทุกอย่างเราเหมือนวางไว้ในหัว คือแบบเฮ้ยนี้มันคือมันถึงเวลาแล้วที่เราจะได้มีเพลงแบบนี้ได้ทำงานกับน้องแล้วก็ได้ทำงานกับพี่ที่เชื่อในตัวเราโชคดีมาก”

    @@ ภูมิใจในเพลงนี้มาก
    “มันไม่เหมือนทุกครั้ง ทุกครั้งเราภูมิใจว่าจะได้เสนอเพลงแต่ว่ามันไม่ได้มาจากเราทั้งหมด อันนี้มันมาจากเราทั้งหมดแล้วเรามีส่วนรวมทุกรายละเอียด มันมาจากตัวเราจริงๆ ภูมิใจ ใครจะพูดยังไงว่าทำไมเธอต้องขนาดนี้ เขาไม่เข้าใจว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง เราสู้มาเยอะ การที่เราทำเพลงมันสู้มากๆ เพราะว่าคนทำเพลงก็คือมีหลากหลาย และเขามีทางเลือกเยอะเขาจะเลือกฟัง เราก็ได้ไม่ฟังเราก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจะทำยังไงให้วงการเพลงอยู่ต่อไปได้ มันเหงานะ ตอนนี้วงการเพลงเหงามาก กว่าเพลงแต่ละเพลงจะได้ศิลปินทุกคนก็อยากทำเพลงออกมาแล้วเป็นที่ยอมรับของคนฟังเราเองเรารอเวลานี้มานานมาก การที่เราปล่อยออกมาแล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดีขนาดนี้ มันน้อยครั้งมากที่หนูจะได้รู้สึกอย่างนี้มันเลยภูมิใจมาก”

  

 

 @@ ช่วงก่อนหน้านี้แก้มเองก็เหมือนเจอเรื่องราวมาเยอะมาก
    มันธรรมดามากเราอยู่มาไม่มีทางที่ได้รับการยอมรับในทุกด้าน ไม่มีทางที่เขาจะเชื่อในตัวเราได้หมดทุกคน ปัญหามันต้องเข้ามา เพราะว่าปัญหาคือบทเรียนให้เราได้พัฒนาแก้ไข เราเข้าใจชีวิตเรามากขึ้น ต้องเจออะไร ไม่ได้เจอแค่ความสุข เราต้องเจอความทุกข์อยู่แล้ว ชีวิตคนเราต้องเจอทุกๆ อย่างมันต้องเจอไม่ว่าเราจะทำตัวให้ดีแค่ไหนก็ตามไม่ว่าเราจะอยู่ในกรอบของเราแค่ไหนก็ตาม เพราะฉันจะไปทางนี้ มันก็ต้องให้มีอะไรเข้ามา เราไม่มีทางไปทางตรงของเราได้ตลอดเส้นทางมันยังมีทางแยกเหมือนกันชีวิตคนเรามันไม่ได้มีทางเดียวมันต้องเจอหลายทางถ้าเราอยู่โลกใบนี้มันกว้างคนมันกว้างคนทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองมันเห็นตรงกันบ้างมันเห็นต่างกันบ้างแต่เราก็ต้องชัดเจนกับตัวเราว่าเราไปอย่า

    @@ จากเรื่องราวดราม่าที่เจอ จนถึงคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 10 ปี มาต่อกับเพลงใหม่ที่ฮิตมากขนาดนี้ เหมือนเป็นบทพิสูจน์
    "แก้มว่ามันเป็นจังหวะชีวิตสิบปีพอดี มันเหมือนวนกลับมาให้เราให้มีพลังสู้ต่อไปในช่วงเวลาระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมามันมีทั้งดีมีทั้งไม่ดี แต่มันทำให้เราพัฒนาตลอด เราสู้ตลอด ใครจะว่ายังไงก็ตามแต่เราพัฒนาให้เขาเห็นดีกว่าที่เราจะไปตอบโต้กลับโดนการที่มันไม่ได้อะไร คือมันเจ็บไหม มันเจ็บนะ คำพูดของเขาที่ไม่ได้รู้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง คำพูดของคนที่เขาพร้อมที่จะติก่อนเสมอคนที่เขาไม่ชอบเรา ไปบอกให้เขาชอบเรา มันเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องทำให้ดี ทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่น เพราะคนที่เชื่อมั่นในตัวเราก็มีและคอยสนับสนุนเราอีกเยอะแยะเพราะฉนั้นเราต้องพิสูจน์ตัวเอง แล้วเราไม่เคยสู้กับใครนอกจากตัวเราเอง

 

 

 

    @@ เป้าหมายของชีวิตเปลี่ยนไป
    “เปลี่ยน ประสบการณ์โตขึ้นโลกสมัยนี้ ยุคสมัยนี้มันมีแต่เรื่องร้ายๆ เยอะไปมันไม่มีทางที่เราคุมได้ว่าเรามันอย่างไรให้มันอยู่แบบแผ่นที่วางไว้กฏที่วางไว้ระเบียบต่างๆ มันก็ต้องมีคนที่แหกกฏ ไม่มีคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเราก็ไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มันต้องมีที่เราไม่ดีบ้าง แต่สิ่งดีๆ ในสังคมนั้นคือสิ่งที่แก้มตั้งใจ ฉันอยากเป็นทูต อันนี้พูดจริงๆ ทูตในที่นี้คือทูตองค์กร คือแก้มอยากช่วยเหลือเด็กๆ หลักๆ เลย  ชีวิตจริงเราอยากช่วยเหลือเต็มที่เท่าที่เราทำได้เด็กๆ หรือว่าที่ขาดแคลนต่างๆ ที่เราสามารถทำได้จากตัวเรา เราก็ไม่ได้หวังใหญ่ เราช่วยเหลือเท่าที่เราทำได้ เป็นการร้องเพลงเป็นการที่สนันสนุนน้องทุนการศึกษาต่างๆ ถ้าเราช่วยได้เราก็เต็มที่ เอาง่ายๆ การที่เราทำแบบอย่างให้เห็น ฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้เขาอยากมีจุดมุ่งหมายของชีวิตเขา เราอยากให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเอง อยากให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีงามถึงแม่มันจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง”

 

 

 

    @@ จากวันนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ว กับแก้มในวันนี้ดูโตขึ้นมาก
    “มันจำเป็น เพราะว่าเราผ่านอะไรมาเยอะมาก เราผ่านคำทั้งติชมทุกอย่าง ทั้งที่เราก็คิดว่าเราทำเต็มที่ แต่ว่ามุมมองของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน คนเขาไม่ชอบเรา เราจะไปทำอย่างไรให้เขาชอบเราเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องปรับตัวเรา อย่าไปโฟกัสมากมันมีอยู่แล้ว คนเราใครจะชอบทุกคนไม่มีในโลกนี้ไม่มี เมื่อก่อนไม่ได้คิดอย่างนี้ เมื่อก่อนโดนอะไรมานิดหนึ่งเสียใจร้องไห้ เพราะเป็นความรู้สึกเราตอนเด็ก วันนี้เราโตแล้วเราผ่านมาแล้วแต่ว่าไม่ใช่ว่าอยู่ๆ มาด่าเราได้นะ โดนนะจ๊ะ แม่ตีนะจ๊ะ (หัวเราะ) คือไม่อันนี่้เป็นคำหยอกถ้าทำจริงๆ แก้มไม่ทำอยู่แล้วเพราะว่าไปหาเรื่องให้ตัวเองทำไม เราก็อยู่ของเราแฮปปี้ ยกเว้นถ้าแรงมากที่แบบหลอกลวงใช้คำพูดเกินไปค่อยว่ากันแต่เราไม่เตือนเเล้ว เตือนครั้งเดียว จากนี้เรามีหลักฐานถ้าไม่จบ ตอนนี้ชีวิตดีสวดมนต์นั่งสมาธิ ฝากถึงคนเหล่านั้นแต่เขาคงทำไม่ได้ ถ้าเขาทำได้เขาจะไม่เป็นอย่างนี้ แต่ก็ขอให้ทำได้จริงๆ แรงจังเลย เดี๋ยวกลับไปสวดมนต์ก่อนไปแพร่เมตตา” 
    “แก้ม” คือบทพิสูจน์ความเป็นตัวจริงในวงการนี้จริงๆ 

เรื่อง : ณัฏฐิรา หลอดแก้ว
ภาพ : กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร