บันเทิง

'บิ๊กแอส' ฟ้องกลับ 'มิวสิค บั๊กส์' ทวงคืนเพลง 'ก่อนตาย'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้บริหารค่าย "จีนี่ เรคคอร์ด" เผย วง"บิ๊กแอส" ฟ้องกลับ "มิวสิคบั๊กส์" หลังพบข้อมูลบางอย่าง

         ยังคงเป็นคดีความของคนในวงการเพลงที่หลายคนยังคงให้ความสนใจ หลังจาก “มิวสิค บั๊กส์” เดินหน้าฟ้องวง “บิ๊กแอส” เนื่องจากละเมิดลิขสิทธิ์นำเพลง “ก่อนตาย” ไปใช้ ล่าสุดเมื่อพบกับ “นิค”วิเชียร ผู้บริหารค่าย “จีนี่ เรคคอร์ด” ในงานแถลงข่าว ฮอตเวฟ มิวสิคอวอร์ด ที่ตึกแกรมมี่ จึงได้ถามไถ่

 

'บิ๊กแอส' ฟ้องกลับ 'มิวสิค บั๊กส์' ทวงคืนเพลง 'ก่อนตาย'

 

         "คือตอนนี้เลยคำว่าเคลียร์ไปแล้ว การฟ้องร้องค่อนข้างไม่ปกตินะเราพยายามเคลียร์เท่าไหร่ก็ไม่ได้เจอในจุดที่พอดี (คือไม่มีคำว่าไกล่เกลี่ยแล้ว) ใช่ ล่าสุดกลายเป็นว่าวงบิ๊ก แอส ฟ้อง กลับ (ทำไมคดีพลิกกลายเป็นการฟ้องกลับ) จริงๆแล้วเหมือนไปพบอะไรบางอย่างว่าเขาไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามที่ยืนยัน (คนที่เขียนเพลงไม่ได้มาจากค่าลิขสิทธิ์) อันนี้ไม่ทราบนะ ทุกอย่างต้องไปรอสิ่งที่จะเกิดขึ้นในกระบวนการทางกฏหมาย แต่ว่าตอนนี้คือเราฟ้องกลับ (ตอนนี้แบ่งเป็น2คดีแล้วตอนแรกเขาฟ้องเราตอนนี้เราฟ้องกลับ) ใช่ ซึ่งเขาก็มีหน้าที่มาแก้ต่าง แต่พูดในรายละเอียดลึกไม่ได้ เดี๋ยวเสียรูปคดี (มีคนหาช่องทางให้หรือทนายหาให้) เรายืนบนความเป็นจริงมากกว่าว่าเราจะสู้ยังไง ไม่ว่างยังก็ตามวง เรารู้สึกเข้าใจตลอดว่าเขาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ (ไม่มีใครมาบอกเราใช่ไหม) ไม่มีนะ เขาเขียนกับมือ เขาดิวยังไงเราไม่ทราบในสมัยนั้น แต่สิ่งที่ทำคือเข้าไม่พยายามไปวุ่นวายอะไร แต่ในวันนี้เขาปกป้องตัวเอง (ทางนั้นมีมาไกล่เกลี่ยนอกรอบไหม)ไม่ทราบจริงๆว่ามีติดต่อมาหรือเปล่า รู้แต่ว่าบิ๊กแอสได้ทำการฟ้องกลับแล้ว เป็นคนละคดีแต่มีความเกี่ยวโยงกัน” 

'บิ๊กแอส' ฟ้องกลับ 'มิวสิค บั๊กส์' ทวงคืนเพลง 'ก่อนตาย'

        @@ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงล่าสุด “ตูน”   อาทิวราห์ คงมาลัย  หรือ ตูน บอดี้สแลม ต้องหยุดพักรักษาเส้นเสียง 1 เดือน 

         "ก็เจ็บจริง จริงๆก็ต้องบอกว่ามาจากการตรากตรำทำงานหนัก แล้วก็วิธีการร้องของตูน ไม่มีการประนีประนอมทุกการโชว์ทุกการแสดง เขาใส่เต็มอาการนี่เป็นอาการเรื้อรังมานานแล้ว จริงๆก็เป็นเกือบทุกๆศิลปิน โอม ค็อกเทล ( ปัณฑพล ประสารราชกิจ) ก็เป็น มันอยู่ที่จังหวะว่าเขามีโอกาสพักผ่อนไหม ตูนไม่มีโอกาสพักผ่อนเพราะว่างานเยอะ แต่คิดว่าตอนไปวิ่งจะได้ไปพักผ่อนปรากฏว่าหนักกว่าเดิม การใช้เสียงมันเกิดขึ้นตลอดเวลา ตอนนี้สิ่งที่ห่วงมากกว่านั้นคือว่าถ้าเราเบรคไปอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ   มันสะสม นักร้องทุกคนจะเป็นแบบนี้ ดา อินโดฟิน (ธนิดา ธรรมวิมล) ก็เป็น ผ่าตัดได้แต่เขาต้องหายไปปีหนึ่งร้องเพลงไม่ได้แล้วเสียงอาจจะเปลี่ยน (เลยเลือกจะเฟดตัวเองลงแต่ไม่ถึงขึ้นผ่าตัด) เลือกที่จะใช้วิธีพักผ่อน เขากำลังทำอัลบั้มอยู่ด้วยเราเลือกที่จะเสียเวลาตรงนี้ดีกว่า ไม่งั้นจะเสียหนักกว่าเดิม คือต้องไปหยุดเป็นปีเลยและผลลัพธ์อาจจะรุนแรงมากกว่าปกติ" 

 

 

'บิ๊กแอส' ฟ้องกลับ 'มิวสิค บั๊กส์' ทวงคืนเพลง 'ก่อนตาย'

 

      @@ผู้สื่อข่าวถามถึงขั้นตอนการรักษาหลังจากนี้ 

      "ในขั้นตอนการรักษาอย่าง จีเอ็มเอ็มแกรมมี่เรามีหลักสูตรว้อยแคร์ แต่นั้นแปลว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะแบบนี้ไม่ได้มีงานจ้างเยอะแยะแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเขาทำอาชีพแบบนี้ และมีงานเยอะขนาดนี้ โอกาสที่จะเข้ากระบวนการเป็นไปไม่ได้ ถึงจะเข้าไปมันก็กลับมาอีกได้ สิ่งที่สิ่งที่ต้องทำคือรับงานให้น้อยลง (หนึ่งเดือนของตูนไม่รับงานเลย) ไม่ใช้เสียง ส่วนตัวคือพักผ่อนเป็นหลัก ยามีไหมไม่แน่ใจ แต่ต้องดูแลสุขภาพ ดูแลเสียง พูดเองต้องระวังไม่อยากให้พูดเยอะ ถามว่า1 เดือนพอไหม  จริงๆพักมานาน แล้วแต่สักเกตุตูนพักไปแล้วเดือนหนึ่ง ไปต่างประเทศเดือนหนึ่ง จริงๆก่อนหน้านั้นพักไปวิ่ง จริงๆเขาคิดว่าตอนนั้นจะได้พักแล้วกลับมาก็อัดเสียง ปรากฏว่าหนักกว่าเดิม ถามว่าเขาซีเรียสไหม   มันเป็นอาชีพเขานะ เป็นเรื่องซีเรียสมากๆซึ่งมันคือเครื่องมือทำมาหากินเขาเลย แต่จริงๆคิดว่าน่าจะหายแล้ว" 

       @@ถามถึง 1 เดือนที่พักรายได้หดหายไปขนาดไหน  

       "พอดีมันอยู่ในแผนที่จะไม่ได้รับงานเท่าไหร่อยู่แล้ว ช่วงที่เขากำลังจะอัดเสียง สิ่งที่เสียคือเวลาที่จะทำงาน ตอนนี้คือการทำงานไม่ได้ทำในเรื่องการอัดเสียง ผลงานใหม่เลื่อน (ถ้าถัดจากนี้ไปต้องผ่าตัด) อยู่ในดุลพินิจของหมอนะเพราะว่าบางคนเป็นแล้วเขาทนแล้วตูนเองก็มีสิ่งมหัศจรรย์คุ้มครองอยู่แล้ว กระดูกต้นคอที่เคยโผล่มาอยู่ดีๆก็หายเอง เราก็หวังว่านี้ก็จะหายเองด้วย (ได้คุยบ้างไหม) ไม่คุย ไม่อยากให้ใช้เสียง ไม่รบกวนเลยดีกว่า ให้เขามีความสุขกับการวิ่ง อย่าพูดเยอะแล้วกัน (ทำให้ตูนไม่อยากสัมภาษณ์) ก็คงเกี่ยวนะ ต้องพูดเยอะ อธิบายเยอะต่างๆให้หมอพูดแทน (ล่าสุดจะไปวิ่งอีกแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง) เขามีประสบการณ์การวิ่ง วิ่งทั่วประเทศแล้วก็คงรู้ว่าการวิ่งครั้งนี้คือพักผ่อนจริงๆ ไม่ใช่เหมือนครั้งที่แล้ว ที่ต้องพูดคุยกับคนที่บริจาค ไหนจะไปร้องเพลงกับเด็ก อันนั้นใช่พลังมาก แต่คราวนี้เขาไปวิ่งแบบแจม ไม่ใช่ภาระกิจของเขา ปล่อยเขาเถอะ ทุกวันนี้ยังวิ่งมาออฟฟิศเลย 17  กิโลกรัม ไม่มีกลับ (ปรับเปลี่ยนการรับงานอย่างไร) ต้องปรับเปลี่ยนประคบประหงม อยู่ในขั้นตอนที่ไม่โหมมากนัก ค่อยๆไป และหลังจากนี้จะทำอะไรๆ มีคอนเสิร์ตใหญ่(คอนเสิร์ตจะมีวันไหน) ยังสรุปไม่ได้ อดเป็นห่วงไม่ได้ว่ากลัวจะหายไม่ทัน ที่วางเอาไว้ (แต่ก็ไม่ได้กดดันอย่างไรใช่ไหม) ไม่เลย กดดันไม่ได้ ส่วนตัวไม่ค่อยวุ่นวายกับเขา" 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ