"คนด่ามันบ่เจ็บบ่ปวด มันบ่ตายดอก...อดเอาเด้อลูก เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ น้องเขายังเด็ก อภัยให่กันเด้อ!"
วันวิสาขบูชา “ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์” พา “ลำไย ไหทองคำ” พร้อมทีมงานตระเวนไหว้พระ แถวนครปฐมและราชบุรี
ช่วงเวลากว่าสัปดาห์ “นายห้างไห” หรือ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพ FC อาม ชุติมา ในสื่อโซเชียล ทำเอาวุ่นวายไป กระทั่ง 27 พ.ค.2561 “ประจักษ์ชัย” ส่งสัญญาณถอย ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว
"น้องชายต่อสายมาว่า เเม่อยากเว้านำ “คนด่ามันบ่เจ็บบ่ปวด มันบ่ตายดอก...อดเอาเด้อลูก เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ น้องเขายังเด็ก อภัยให่กันเด้อ!”....ครับแม่ ผมสิหยุด?"
จะว่าไปแล้ว ประจักษ์ชัย มีสัญญาซื้อขายเพลงผู้สาวขาเลาะ และสัญญาการเป็นผู้จัดการดูแล “อาม” ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำไมต้องถอย?
แรงต้านจาก FC ของอาม ถาโถมมาปานพายุ ประจักษ์ชัยเกรงจะไปกระทบ “ลำไย ไหทองคำ” เพราะมีการเปิดประเด็น “ลำไยได้เบนซ์ อามได้กระบะ” และหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ประจักษ์ชัยก็จะเจอข้อหา “รังแกเด็ก” อีก
สองปีมานี้ โมเดลธุรกิจเพลงแบบประจักษ์ชัย ถูกกล่าวขวัญอย่างมากมายในแวดวงคนทำมาค้าขายเพลง เนื่องจากยูทู้ป และเฟซบุ๊ค มีส่วนช่วยให้ “ค่ายเพลงเล็กๆ” หรือศิลปินอิสระ ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง
ประจักษ์ชัย เติบโตมาจากการเป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ก้อปปี้โชว์ และมีงานแสดงอยู่บ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาลงสมัคร ส.จ.ที่บ้านเกิด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทในวงการเพลงลูกทุ่ง “ประจักษ์ชัย” ตัดสินใจนำสาวน้อย "สุพรรณษา เวชกามา" มาเดินสายร้องเพลงตามงานต่างๆ แล้วประจักษ์ชัยก็บันทึกภาพการแสดงสด อัพขึ้นยูทู้ป ตอนนั้น ลีลาการเด้า 9 ชั้นของเธอเรียกยอดวิวคนดูในยูทู้ปได้หลักแสน
ปี 2558-2559 ประจักษ์ชัย จับคู่ “ลำไย” กับเจริญพันธุ์ พระขรรค์ใหญ่ ทัวร์คอนเสิร์ตโคโยตี้ซิ่ง โดยแบรนด์ของลำไยเวลานั้น คือสาวลำซิ่ง ที่โด่งดังจาก “ท่าเด้า 9 ชั้น”
เมื่อเริ่มดังจากยูทู้ป "ท่าเด้าสะท้านโลกันต์" ประจักษ์ชัยเกรงจะติดภาพ "นักเต้น" เกินไป จึงเขียนเพลงให้ลำไยร้อง 2 เพลงคือ "17 สิเข้า" กับ "กินเหล้ามันขมดื่มนมดีกว่า" ปรากฏว่า เพลงไม่โดน ยอดวิวในยูทู้ปแค่หลักหมื่น(สมัยนั้น)
ต่อมา นายห้างไหทองคำจ้าง สัญญาลักษณ์ ดอนศรี เขียนเพลง “เมียด่ามาหาหนู” ให้ลำไยร้องอีกซิงเกิล ก็แป้กตามระเบียบ
กระทั่ง “อาม ชุติมา” เข้ามาอยู่ในค่ายไหฯ โดยเวลานั้น ประจักษ์ชัยวางจุดขายให้สาวอามเป็น “อินดี้อีสาน” และเดินสายขึ้นเวทีร่วมกับลำไย ไหทองคำ
เมื่อ “อาม” แต่งเพลงผู้สาวขาเลาะ แนวอินดี้อีสานให้ลำไยร้อง ได้รับการตอบรับดีมาก ยอดวิวในยูทู้ปทะลุ 10 ล้านวิว ภายใน 1 เดือน ประจักษ์ชัยจึงปรับจุดขายใหม่ เปลี่ยนจาก “โคโยตี้ลำซิ่ง” มาเป็น “อินดี้มหัศจรรย์” เปิดการขายแบบแพ็คคู่ “ลำไย-อาม”
ช่วงเวลานี้เองที่คนทั้งประเทศ รู้จัก “ลำไย” และเพลงผู้สาวขาเลาะ มีคนกลุ่มแคบๆที่รู้จักว่า เธอมาจากสาวลำซิ่งงานวัด
เพลงผู้สาวขาเลาะ ที่ลงตัวทั้งคำร้องและดนตรี ได้ห่อหุ้ม “สาวโคโยตี้ลำซิ่ง” ไว้มิดชิด และมันได้อัพเกรดลำไยเป็น “อินดี้อีสานรุ่นใหม่”
รถป้ายแดงใหม่เอี่ยม
ประจักษ์มีโชคจากกระแสสื่อดิจิทัลยุค 4.0 แต่การบริหารงานภายในค่ายไหทองคำของเขา ยังอยู่ในยุค 1.0 คือ พ่อปกครองลูก และอยู่กันแบบครอบครัว
บ้านใหม่ของลำไย ไหทองคำ
นายห้างไหฯ ทำตัวเหมือน “นายห้างขายแผ่นเสียง” เมื่อ 50 ปีก่อน เพลงไหนดังระเบิด นายห้างก็ซื้อทองให้นักแต่งเพลง และซื้อรถเบนซ์ให้นักร้อง ประจักษ์ชัยคิดว่า เงิน 6 แสนบาทที่ช่วยการต่อเติมบ้านของอาม และดาวน์รถให้ เป็นการตอบแทนที่เพียงพอแล้ว
ลำไยกับคุณแม่
วันหนึ่ง “อาม ชุติมา” ลุกขึ้นมาทวงถาม “เม็ดเงิน” ส่วนแบ่งจากยูทู้ป นายห้างไหฯ ก็ถึงกับเงิบ!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง