ใจหายวาบ 'ดู๋' ปิดตำนานรายการ 'ที่นี่หมอชิต'

      หัวใจตกลงที่ตาตุ่ม เมื่อมีข่าวลือออกมาระรอกใหญ่จากวงหมอชิตปลดรายการ “ที่นี่หมอชิต”  ของพิธีกรคนดังอย่าง “ดู๋” สัญญา   ล่าสุดมีโอกาสพบกับพิธีกรคนเก่งพร้อม “เอม” สรรเพชญ์ ลูกชายในงานรอบปฐมทัศน์ ละครเวที “แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล” ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์  จึงต้องถามไถ่   

 

     

  “ครับผม คือถ้านับเป็นชื่อ อย่างชื่อรายการที่นี่หมอชิต เราก็อยู่มาประมาณ 10-11 ปี แต่ในชื่อสัญญามหาชนก็อีก 8 ปี ซึ่งก็ถือว่าถึงเวลาเกษียณอายุในระดับหนึ่งแล้ว เพราะสังคมเปลี่ยน เศรษฐกิจเปลี่ยน ถ้าจะให้ทำรายการเดียวมันอยู่ยาก กลไกในการทำงานคือค่าใช้จ่ายในบริษัทมันสูงไปหมด ผมไม่อยากจะใช้วิธีการลดพนักงานออกไปครึ่งหนึ่ง ผมเลยบอกไปว่าถ้ามาก็มาด้วยกัน แต่ถ้าไม่ไหวแล้วก็ไปด้วยกันให้หมด ซึ่งผมก็ชดใช้ทุกอย่างให้เขามีกลไกในการไปต่อ” 

ใช้เวลาตัดสินใจนานไหมกับการปิดตัวลงของรายการในครั้งนี้

         “มันไม่ใช่เรื่องของการตัดสินใจนะ  มันเป็นเรื่องที่ต้องเป็น ทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนจะให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมคงไม่ได้ และรายการก็ไม่ได้ถูกย้ายช่องด้วย ตอนนี้จากที่เราเคยเป็นผู้จัด เราก็เป็นแค่พิธีกรเท่านั้น ส่วนงานอื่นๆ ที่จะมีเข้ามาหลังจากนี้จะเป็นช่องไหนผมก็ไปทุกช่องเลย ซึ่งก็มีคนเริ่มทาบทามมาบ้างแล้ว เพียงแต่ ณ ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าควรจะบอกไหม เอาไว้ในอนาคตถ้าได้เห็นช่องไหน ก็คือช่องนั้นล่ะครับ แต่ถ้าจะหมายถึงเรื่องการเป็นผู้จัด ตอนนี้ผมยังไม่ได้เป็นนะ ผมยังเป็นแค่พิธีกร เพราะผมอยากจะกลับมาเป็นพิธีกรเต็มตัวมากกว่า” 

แสดงว่าตอนนี้ในส่วนของบริษัทเราก็ปิดตัวลงไปด้วย

         “บริษัทยังดำเนินการต่อในเรื่องของภาษี หรือกลไกทางบัญชี แต่ว่าไม่ได้ผลิตรายการแล้วก็เท่านั้นเอง (หลายคนค่อนข้างเสียดายเพราะเหมือนรายการเราก็เป็นโลโก้ของช่อง)  มันก็เป็นทุกรายการแหละครับ รายการไหนที่อยู่กับช่องมานาน และเราก็พยายามจะทำให้มีรายการที่ดีที่สุดมาโดยตลอด (ยิ้ม)”

จะมีโอกาสไหมที่รายการนี้จะไปอยู่ช่องอื่น

         “ไม่มีครับ การเอารายการนี้ไปอยู่ช่องนั้น หรือรายการนั้นมาอยู่ช่องนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องแบบนั้นเลย ผมทำรายการหนึ่งขึ้นมามันก็เหมือนกับชีวิตคนที่ย่อม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ผมอยากให้สังเกตุนะ ตั้งแต่เดือน มกราคม - พฤษภาคม มีรายการหายไปแล้วกี่รายการ ไม่ต่ำกว่า 20 ครับ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะมันก็ยังมีรายการเกิดขึ้นมาใหม่อีก 20 กว่ารายการเหมือนกัน”  

 

 

อาจจะเป็นเพราะรายการนี้ของเราอยู่กับช่องมานาน คนเลยค่อนข้างตกใจ

“รายการนี้ไม่ใช่ของผมครับ”

เรื่องนี้เกี่ยวไหมกับกรณีที่ทางช่องเปลี่ยนผู้บริหาร

        “เปลี่ยนหรอผมยังไม่รู้เลย เอาจริงๆ มันนานแล้วนะครับ และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับรายการเลย”

พาลูกมาร่วมงานกาล่าด้วยตั้งใจจะพาเขาเข้าวงการด้วยไหม

        เอม : “ยังไม่รู้ครับ (ยิ้ม)”

          ดู๋ : “ต้องถามแบบนี้ครับ คือ...มันไม่อยู่ที่เราว่าจะเข้าไหม มันขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีใครให้เข้าหรือเปล่า (ยิ้ม) ตัวผมจะอนุญาตเขาไม่ได้หรอกเพราะเขาต้องเลือกเอง”

เริ่มมีคนมาทาบทามแล้วหรือยัง

         ดู๋ : “มีครับ แต่ถ้าจะให้เป็นพิธีกรมันต้องมีทักษะมากกว่านั้นนะ รวมถึงละครก็เหมือนกัน เพราะในสมัยนี้ไม่ใช่ว่าคนเล่นไม่ได้แล้วก็พยายามจะเล่น มันต้องมีการเรียนเพิ่มเติม แต่ถ้าถามว่ามีคนติดต่อหรือมีคนสนใจในตัวเขาไหม ก็มี”

        ดู๋ : “เพียงแต่ตอนนี้โอกาสมันยังไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งเรียนจบไฮสคูล และต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆ เพื่อเลือกมหาวิทยาลัยเนื่องจากเขาใหญ่จะไปเรียนที่อเมริกา และตอนนี้ก็สอบได้แล้ว ซึ่งช่วงเดือนสิงหาคมก็ต้องไปเรียนต่อแล้วครับ อีกอย่างผมมองว่า ทุกคนสามารถทำงานในวงการบันเทิงได้ ถ้าหากคุณมีความอยากที่จะทำ รวมถึงมีความตั้งใจ ความพยายาม และความอดทน คุณก็สามารถทำได้ครับ ซึ่งจริงๆ เอมเขาก็เคยเป็นแขกรับเชิญในรายการของผมนะ และก็เคยเป็นพิธีกรภาคสนามไปสัมภาษณ์นักฟุตบอลดาวรุ่ง “ชาริล ชับปุยส์” ด้วยแต่ก็แค่ครั้งเดียวเอง ซึ่งครั้งนั้นที่ผมให้เขาทำก็เพราะ ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาค่อนข้างเหมาะสม”

พอเราได้เห็นคุณพ่อทำงานในวงการบันเทิงแบบนี้เรามีความรู้สึกอยากทำบ้างไหม

         เอม : “มีครับ เพราะรู้สึกว่าสนุกดี แต่ตอนนี้ผมต้องขอโฟกัสที่การเรียนก่อน”

หล่อขนาดนี้มีแฟนแล้วหรือยัง เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากรู้

         เอม : “ยังไม่มีครับ”

         ดู๋ : “ไม่มีจริงๆ แต่ผมก็อนุญาตให้เขามนะ ถามเขาทุกวันเลย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆ เขามีแต่ไม่ยอมบอกเราหรือเปล่า คือปกติเขาคุยกับผมทุกเรื่อง ไม่เคยโกหก ซึ่งลูกชายคนนี้ผมไม่ได้หวงอยู่แล้วถ้าจะมีแฟน มีก็แต่คุณแม่เขานั่นแหละที่ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่ (หัวเราะ)”