บันเทิง

รับรู้ความทุกข์ใจจากแววตาพ่อ 'กู๊ด'พร้อมดูแล 'ฉลอง'ตลอดไป

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'กู๊ด'เฉิดบุญ ลูกชาย ฉลอง ภักดีวิจิตร เผยความรู้สึกหลังรับรู้เรื่องราวปัญหาที่เข้ามาในชีวิตพ่อ

         ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สายเลือดย่อมข้นกว่าน้ำเสมอ  เหมือนความรักความผูกพันที่ “กู๊ด” เฉิดบุญ ลูกชายของ ฉลอง  ผู้กำกับอาวุโส หลังจากที่มีข่าวคราวเกิดขึ้นในชีวิตของผู้เป็นพ่อมากมายจนทำให้  “บันเทิง คมชัดลึก” ขออนุญาตถามถึง “คุณพ่อฉลอง”หน่อยได้เจอกับท่านไหม พักหลังมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายที่กระทบต่อผู้กำกับดัง  

รับรู้ความทุกข์ใจจากแววตาพ่อ  'กู๊ด'พร้อมดูแล 'ฉลอง'ตลอดไป

 

         “ได้เจอและได้คุยกับคุณพ่อท่านสบายดี กับผมการที่ผมอยู่กับคุณพ่อมา ท่านเป็นเข้มแข็งนะ มีอะไรเขาจะไม่พูด แต่สายตาของเขาๆ เรารู้ว่าเขาทุกข์อยู่ เขาเสียใจ เขาต้องการใคร สายตาของเขาค่อนข้างสื่อ เขาเหงา ซึ่งพวกผมก็ไปหากันตลอดนะ ผมไม่รู้รอบข้างเขาเป็นอย่างไร ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นนะ แต่ว่าผมไม่รู้รอบข้างเป็นอย่างไรนะ เพราะว่าผมไม่สามารถเข้าไป ณ จุดนั้น ที่เขาอยู่กับอีกคนได้ (มีข่าวลืิิอออกมาว่าทางพี่สาวของภรรยาใหม่อาหลองไล่อาหลองกับภรรยาออกจากบ้าน พอจะทราบเรื่องนี้ไหม) ไม่ทราบถึงขนาดที่ว่าโดนไล่ขนาดนั้นนะ รู้แต่ว่าเขาย้ายออกมาอยู่กับภรรยาคนใหม่ กับบ้านหลังทีี่ต่างจังหวัด ผมไม่เคยไปนะ แต่ว่าผมเคยไปหาพ่อตรงที่ทำงานต่างๆมากกว่านะ บ้านใหม่ไม่เคยไป คุณพ่อไม่เคยเล่านะ นอกจากว่ารู้อะไรมาผมก็จะถามนะ ผมเป็นห่วงคุณพ่อมากๆ คุณพ่อไม่เคยบ่นอะไรเลยนะ คุณพ่อเป็นผู้ชายจริงๆเลยนะ มีอะไรในใจไม่เคยพูดและไม่เคยพูดให้ลูกๆหนักใจเลยนะ”กู๊ดบอก 

รับรู้ความทุกข์ใจจากแววตาพ่อ  'กู๊ด'พร้อมดูแล 'ฉลอง'ตลอดไป

 

           เห็นว่าทางอาหลองได้หันมาเปิดบริษัทใหม่ทำละครกับทางภรรยาใหม่แล้วหลังจากเกิดเรื่อง“ทิวลิปทอง”

         “อันนีี้ทราบนะว่าเขามาเปิดบริษัทใหม่ แต่ผมไม่ทราบว่าเขามีปัญหากับทางพี่ของภรรยาใหม่เลย ได้ข่าวมาว่าเหมือนจะมีอะไรกัน แต่ผมไม่เคลียร์เองมากกว่านะ (ถามว่าเราเองไม่กล้าถามด้วยหรือเปล่า) ไม่หรอก คุณพ่อไม่พูดเองมากกว่านะ ผมได้คุยกับคุณพ่อว่ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยู่หรือเปล่่า ถ้าจะไปล้วงอะไรมากๆ ก็เกรงใจ แต่ผมรู้ว่าคุณพ่อทุกข์อยู่แต่จะบอกแกเสมอว่าลูกๆอยู่กับพ่อตลอดนะ บ้านหลังนี้ ยังเป็นของคุณพ่อและพร้อมให้คุณพ่อกลับเสมอมา ถามว่ากลับมาไหม ก็กลับมานะ แต่ไม่ได้กลับมาพักนะหรือนอนมาบ้าง ลูกๆพร้อมจะดูแลคุณพ่ออยู่ตลอด” 

        ถามถึงละครเรื่อง“อังกอร์”ได้คิวออกอากาศเมื่อไหร่

         “สิงหาคมนี้ได้คิวออกอากาศแล้วนะ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นถึงล้าช้า คือเรื่องการตัดต่อเราตัดต่อเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้วนะ ตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว  เพื่อที่จะทำให้กราฟฟิคทำและมันจะเสียเวลาช่วงที่ทำกราฟฟิคละเอียดมาก แล้วเสือที่เราเพิ่มมาค่อนข้างเยอะ ไม่ใช่แค่เสือโคร่งแต่ว่าสัตว์เยอะ(มีข่าวลืิอว่า”โอม“อัชชา พระเอกของเรื่องทำคิวละครช้า เหตุไม่ยอมเล่นฉากบู๊เอง) เขาเล่นนะ นอกจากที่ว่าจะผาดโผนมันอันตรายต่อนักแสดงจริงๆ เรามีสแตนอินให้ อย่างเช่นฉากกระโดดน้ำตกสูงๆ เรามีสแตนอินให้ (ลืิอขนาดว่าฉากแตะขาสูงโอมไม่ยอมเล่น)โอ้ย เขาเล่นนะ ใครพูดกันไป  ผมอยู่กับเขาตลอด เขาเต็มทีมาก คือเห็นเลยว่าเขาได้โชว์ความสามารถได้ออกมาอย่างเต็มที่จริงๆ ในเรื่องของดราม่า ส่วนเรื่องแอคชั่น เขาอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เขาเต็มที่ตลอด ไม่ได้ช้าในเรื่องของนักแสดงนะ แต่ว่าช้าในการตัดต่อ แล้วจริงเรื่องนี้มันยากตั้งแต่เป็นอังกอร์แล้ว อย่างของเก่า อย่างที่ทราบว่าคุณพ่อทำไว้ดีมาก เพราะฉะนั้นเราต้องเพิี่มเติมจากของเก่าที่ไม่มี เราเพิ่มแม้แต่โลเคชั่นนะ แต่ละทีๆไป มันโหลดของยากนะ ใช้เวลาเราโหลดของกันตั้งแต่เช้าตี5 หน้าอุทยานเส้นที่เราจะเดินเข้าไป คนเขาไม่ได้เดินเข้าไป เราต้องแบกของไป เขาไปเสร็จเรารีบเดิน ร่วม 2ช.ม. เดินลัดเลาะเข้าไป แต่เราจะแกร่งที่ธรรมชาติและสวยมากๆ บางทีกว่าจะได้ถ่ายก็สายไปแล้ว บางครั้งเจอคิวแอคชั่น ติดเอฟเฟคเพราะว่าเราใช้เอฟเฟคจริงหมดเลยนะ เราไม่ได้ใช้ซีจีเรื่องของเอฟเฟคเลย เราต้องยึดคาแรตเตอร์อันนี้ไว้ เพราะว่าเป็นของคุณพ่อ ของจริง เล่นจริง เอฟเฟคจริง เผาไฟก็ไฟจริง ในการกำกับละครเรื่องอังกอร์เวลากลับมาถึงบ้าน เหมือนเราหมดพลังไปเลย คือขอนั่งนิ่งๆนั่งเงียบๆ มันต้องลุยทุกวัน อย่างที่บอกนายจะให้ลงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วล่ะ แต่ติดเรื่ิองกราฟฟิคจริงๆ ถอยมาเรื่อยๆ แต่กราฟฟิคต้องอธิบายว่าสัตว์เราเยอะ เราต้องเอาสัตว์ของเราให้นายดู ความยากของมัน เราไม่ได้มีแต่งู ซึ่งงูมูฟง่ายกว่านะ แต่ว่าเสือกล้ามเนื้อเขาเยอะ แล้วก็คนค่อนข้างจับจอง เราอยากทำให้ออกมาดีที่สุด”

ได้คิวออกอากาศแล้วเตรียมใจกับการถูกเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นอาหลองอย่างไรบ้าง

          “ในความรู้สึกของผมๆ ว่าทำเต็มที่สุดฝีมือแล้ว มันสุดจนล้าไปแล้ว แม้กระทั้งเรื่องของบทการนำบทเก่ามาดัดแปลงใหม่ ยากมาก เพราะว่าพี่หนุ่ม นอร์แมน ผู้เขียนบทท่านเดิม แก้ผูกเรื่องไว้หมดเลย ถ้าแก้ตรงนี้จะกระทบกระเทือนไปอีกฉากหนึ่งเลย มันยากมาก ให้เขียนบทใหม่ง่ายกว่านะ  เราต้องการปรับให้เรื่องมันๆขึ้น ฉีกเส้นเรืื่องขึ้น มันเป็นปัญหาของผมเองที่ผมต้องทำให้แตกต่าง(ลึกๆแล้วคาดหวังกับเรตติ้งมากน้อยขนาดไหน เพราะเวอร์ชั่นเก่าของอาหลองเรตติ้งนำสูงสุดตลอด) ใช่เลยนะ ด้วยความที่เป็นอังกอร์มันก็ต้องคาดหวังอะนะ จะแอบเอาใจไว้ตรงกลาง แต่ถ้าวันออกอากาศเราต้องคาดหวังนะ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่เราลงไปมากๆ เหนื่อยกับเขามากๆเราต้องคาดหวัง”

แล้วจริตคนดูกับทางช่อง 7 และช่อง 3 เราต้องเพิ่มอะไรเข้าไปบ้าง

         “แน่นอนนะ ผมอยากให้แฟนอังกอร์ภาคแรกที่ได้ติดตามกันมาในสิ่งที่เราทำอันใหม่ สำหรับเวอร์ชั่นใหม่เราเพิ่มเส้นรักเข้าไป คือจริงๆ ไม่ต้องถึงช่องดีกว่า แต่เอาเป็นว่าสไตล์คุณพ่อดีกว่านะ เพราะสไตล์คุณพ่อของเดิมจะเป็นแอคชั่น แล้วเรื่องรักก็จะมีนะ แต่ไม่ได้เน้น ผมรู้สึกว่าขาดอะไรตรงไหน ผมก็มาเติมนะ” 

รับรู้ความทุกข์ใจจากแววตาพ่อ  'กู๊ด'พร้อมดูแล 'ฉลอง'ตลอดไป

มาถึงละครเรื่อง “ลิขิตแห่งจันทร์”เป็นละครเก่าหรือพล็อตขึ้นมาใหม่

         “เป็นพล็อตขึ้นมาใหม่  โดยพี่แก้ว (บุญจิรา ภักดีวิจิตร) พล็อตขึ้นมาเลย สำหรับเรืื่องนี้จะเปิดกล้องเรื่องที่พี่แก้วจะเปิดเรื่องระเริงชลอีกนะ นายอยากให้เปิดเรื่องลิขิตแห่งจันทร์ก่อน คือนายอ่านบทแล้วนายชอบ  แต่ว่าตอนนั้นเรื่องนี้เป็นพล็อตเป็นโครง แต่ละเอียดไว้ชัดเจน”

กับพระเอกนางเหตุใดเลือกเป็น“น้ำตาล” พิจักขณา วงศารัตนศิลป์  กับ “เพื่อน” คณิน ชอบประดิถล่ะ

         “สำหรับพี่แก้ว เขาอยากได้น้องน้ำตาลมานานแล้ว เรามีเวลาเตรียมตัวคิด พี่แก้วเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่ทำเรื่องย่อหน้าของน้องน้ำตาลลอยมาเลย เขาดีใจมากที่น้องน้ำตาลรับเล่น เพราะว่าเขาก็จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนไปเป็นใคร   เราก็ไปขอกับนาย แล้วส่วนพระเอกเราก็ขอคุยกับนาย และได้น้องเพื่อน ซึ่งหลวงโอสถวรเดช จะขี้อายและเรียบร้อยและเพื่อนมีความเป็นแบบนี้อยู่ มันไม่น่าจะยากกับเขา แต่เราจะต้องมาปรับเรื่องของคำพูดของเขา เพราะว่าเขาไม่เคยเล่น  แต่น้องเขายิ้มสวยและความขี้อายของเขา การสื่อออกมาได้ดี การถ่ายทำเรื่องนี้ผมวางไว้ 8 เดือนนะ”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ