'คอนเสิร์ตหัวใจเสือดำ'  พลังคนรักความถูกต้อง

        เดือดกันตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายเลยจริงๆ สำหรับการรวมตัวเฉพาะกิจของชาวเรโทรเรียนในคอนเสิร์ต “RETROSPECT : HEART OF THE PANTHER หัวใจเสือดำ” หลังจากวาทะเด็ดของ "แน็ป" นักร้องนำวง Retrospect “ร็อกไม่มีวันตาย แต่เสือดำตายใครรับผิดชอบ” ได้กล่าวไว้บนเวที “g19” จนเกิดเป็นกระแสที่แรงมาก ซึ่งค่ายจีนี่เรคคอร์ดสก็ไม่นิ่งนอนใจ รีบชวนทีมแซปมาจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยกันเพื่อเป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนถามหาความถูกต้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นและหาทุนมอบให้แก่มูลนิธิที่เกี่ยวข้องด้วย โดยงานจัดไปเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ไลฟ์พาร์ค พระราม 9 ถึงแม้ก่อนวันคอนเสิร์ต แน็ป จะป่วยถึงขั้นต้องฉีดยา แต่ก็ลุยเต็มที่ 
       

       

 

         แค่เพลงแรกอย่าง “ลุกขึ้นสู้” ก็ปลุกความฮึกเหิมได้ทันที ตามมาด้วยเพลง “ความฝันของเรา” ก็สร้างปรากฏการณ์ Mosh pit ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปครอบครอง ต่อด้วย "ขอ, คนบนฟ้า, เพราะว่ารัก, ให้ฉันลืมเธอ, กลับมา, แค่นี้ไม่ตาย, ศรัทธาแห่งรัก, พรุ่งนี้ไม่สำคัญ" ก่อนจะเปิดตัวแขกรับเชิญคนแรก นั่นก็คืือ "DJ BOTCASH" หรือ "เอ้ BOOM BOOM CASH" ที่นำอีดีเอ็ม (อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์มิวสิก) มาเพิ่มความตื๊ดให้แก่ชาวเรโทรเรียนและได้แน็ปร่วมแจมในเพลง “ไม่มีเธอ” และเกิด Wall of Death ขึ้นระหว่างสายอีดีเอ็มและสายร็อก ก่อนที่เรโทรสเปกต์จะร้องเพลง “แค่นิยาย” และเชิญ “ปู แบล็คเฮด” แขกรับเชิญคนที่สองขึ้นเวทีในฐานะ “พ่อ” ที่แน็ปนับถือในวงการสายร็อก และได้ร้องแจมกันในเพลงให้โลกรู้ และ ปู ร้องเดี่ยวในเพลง “ฉันอยู่ตรงนี้” แล้วก็เบรกความเดือดลงสักหน่อยด้วยโหมดเพลงช้าของเรโทรสเปกต์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “เหนื่อยไหมหัวใจ, ภาพซ้ำ, คืนแห่งความเหงา, สุดที่รัก, กอดตัวเอง, ปล่อยฉัน, คือเธอใช่ไหม” ก่อนจะเพิ่มบีทมาจังหวะแร็พกับแก๊ง RAP IS NOW ได้แก่ Maiyarap, Blacksheep, Liberate P, Thudong ในเพลง “คน, Kill Myself และ พาณาราม”

 

        

        มาถึงช่วงไฮไลท์ของงานกับการระลึกถึงการจากไปของเสือดำ ซึ่งได้น้องๆคณะประสานเสียงจากทียูแบนด์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมส่งพลัง เพลงแรกคือ Rise of The Moon ที่น็อตมือกีตาร์แต่งขึ้นมา ชาวเรโทรเรียนก็ช่วยกันสร้างทะเลดาวร่วมกัน ตามมาด้วยเพลงพิเศษของงานนี้ที่มีชื่อว่า “หัวใจเสือดำ” ทำเอา แน็ป เกือบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ และเพลง ภาพถ่าย ซึ่งได้รวบรวมผลงานที่แฟนๆ วาดศิลปะเพื่อเสือดำและส่งเข้ามาพร้อมแฮชแท็ก #artofthepanther มาฉายด้านหลัง และก็ถึงคิวแขกรับเชิญคนที่สี่นั่นก็คือ “บี” พีระพัฒน์ ในฐานะที่เป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน มาร้องเพลง “เหงายิ่งกว่าเหงา” ก่อนจะลงเวทีไปด้วยเพลงฮิตประจำตัวอย่าง “พูดตรงๆ” ตามมาด้วยโชว์ Drum Session นำโดย เบิร์ดมือกลอง ที่ชวนหนุ่มๆ มาโชว์ซิกแพ็กตีกลองร่วมกันอย่างเมามัน และแขกรับเชิญคนสุดท้าย “ต้น Dezember” ผู้ผลักดันวงเรโทรสเปกต์ตั้งแต่ต้นและสามารถเดินในเส้นทางสายดนตรีมาถึงทุกวันนี้ ก็มาโชว์โซโล่กีตาร์ในเพลง โลก และช่วงสุดท้ายก็สนุกกันอย่างรัวๆ ด้วยเพลง “เจ็บกว่าคือฉัน, เจ็บปวดที่งดงาม, รบกวนจำใส่ใจ, Yes sir!, สังเวียนชีวิต, หักหลัง, ไม่มีเธอ, เพราะว่ารัก และเปลือก” ซึ่งมีการทำ Wall of Death และ Circle Pit กันเรื่อยๆ ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวเมทัลที่ขาดไม่ได้จริงๆ แค่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยจำนวนคนเกือบ 7,000 คน

 

 

 

        นอกจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีรายได้จากการประมูลของใช้ส่วนตัวของวงที่ไลฟ์ประมูลกันไปได้ 171,000 บาท และการประมูลภาพวาดศิลปะเพื่อเสือดำ 140,000 บาท จะนำไปบริจาคให้แก่มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร, โครงการพ่อแม่ อุปถัมภ์สัตว์ป่า ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกองทุนสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อไป งานนี้ถึงจะเสียเหงื่อเยอะหน่อยแต่ได้บุญกลับไปกันเต็มๆ