บันเทิง

'ก้อย' เรียกร้องความเป็นธรรม (คลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ก้อย"นฤมล พงษ์สุภาพ ดาราสาวมากผลงาน แจงเหตุฟ้องบริษัทผลิตสบู่ยี่ห้อหนึ่ง หลังละเมิดลิขสิทธิ์ภาพใบหน้าตัวเองนานกว่า2ปี 


    งานเข้านักแสดงสาว "ก้อย"นฤมล นักแสดงช่อง3 หลังจากถูกบริษัทผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งละเมิดภาพใบหน้านำไปใช้บนกล่องผลิตภัณฑ์ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจเพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆที่ร้าน อาหาร โทคุเซ็น เซ็นทรัลพระราม 9
    "วันนี้ที่ก้อยออกมา เพราะว่าพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ก้อยจะขึ้นศาลแล้ว คือก้อยมีเรื่องตั้งแต่ปี 2558 ก้อยโดนคนละเมิดสิทธิ์ ด้วยการเอารูปก้อยไปใช้โดยไม่บอก ต้องเล่าก่อนว่าในปี 2558 ก้อยได้ไปถ่ายรูป ไปทำพิธีกรให้บริษัทๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกันและคิดว่าเขาก็คงเอารูปเราไปใช้ปกติ วันรุ่งขึ้นเขาบอกว่าให้มาถ่ายรูปภาพนิ่งและเซ็นเหมือนกับว่าก้อยเซ็นให้กับบริษัทนี้ว่าก้อยมาถ่ายให้จริงแล้วเขาก็นำรูปนั้นไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของเขา มันเป็นสบู่ผลไม้อย่างหนึ่ง และก้อยเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน วันนั้นได้รับเงินเป็นค่ารถ 5 พัน หรือ 1หมื่นบาท แล้วหลังจากนั้นเห็นในห้างดัง เลยงงว่าทำไมเอารูปเราลงไปแล้วยังมีลายเซ็น คือพูดตรงๆ เหมือนหลอกเราไปทำแบบนี้ ตอนที่เห็นเราเสียความรู้สึกนะ เรามีความรู้สึกว่าทำไมทำกับเราแบบนี้ เราไม่เคยทดลองของใช้เลย จนวันหนึ่งปี 2558 ตอนนั้นก้อยสาวกว่านี้มันมีรายการครีมบำรุงผิวออกมา  นอกจากเป็นนักแสดงแล้วก้อยยังรับพูดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้วย รับเรื่อยมา แล้วพอดีมีคนติดต่อว่าเป็นเซรั่มตัวหนึ่ง แล้วจะให้ก้อยเซ็นสัญญา เราไปบอกบริษัทนี้ช่วยเอารูปเราลงหน่อยได้ไหม เพราะว่าเราจะต้องรับงานอันนี้ เขาบอกว่าไม่ได้เขาทำไปแล้ว ส่งให้ทนายความคุยกันและตกลงเงินกันเรียบร้อย ประมาณเดือนพ.ค.-มิ.ย.แล้วเขาบอกว่าขอขายไปถึงสิ้นปีได้ไหม เรายอม แต่ต้องรีบหน่อยเพราะไม่รู้ว่าพอปี 2559 เขาจะยังจ้างเราอยู่หรือเปล่าและตกลงกันเรียบร้อย ปรากฎว่าไปเจออีกไปเจอเขาทำอีกแล้ว แล้วก็ไม่จบไม่สิ้น ปรากฎว่าออกมากเยอะมาก ไม่ใช่แค่สบู่สีส้มอย่างเดียวด้วย แล้วพอไปสืบก็รู้ว่าเขาขายดีมาก เราก็รู้สึกเสียใจ เลยให้ทนายส่งคำเตือนก่อนที่จะฟ้องศาลไป ก็ไม่ได้รับการติดต่อ วันนี้เหมือนกับโดนเอาเปรียบมาก แล้วก้อยไม่อยากให้คนแบบนี้อยู่ในสังคม คุณประกอบกิจการ ทำไมคุณไม่ทำโดยตรง แล้วพอเรื่องมันถึงทนายความ เขาสืบไปได้ถึงบดุลของบริษัท ปรากฎว่าในปี 2558 สมมติว่างบเดิมเขาหลัก 20 ล้าน แต่พอปี 2559 ที่มีก้อยขึ้นมา งบเขาขึ้นอีก 10 กว่าล้าน เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่มีเราเป็นพรีเซนเตอร์หรือเปล่า หรือเป็นเพราะอะไร แต่งบคุณขึ้น แต่คุณไม่ยอมจ่าย คุณนิ่งเฉย คุณเอาเปรียบ แล้วเขาโกหกที่ศาลด้วยว่าติดต่อก้อย แต่ก้อยติดต่อไม่ได้เลย ไม่รับโทรศัพท์ ถ้าติดต่อก้อยไม่ได้ คุณติดต่อทนายความก็ได้ เพราะว่ายังไงคนที่ส่งจดหมายไปให้คุณก็คือทนายความอยู่แล้ว เขาก็พูดแบบนี้ เราก็รู้สึกว่ากล้าทำมาก 

 

'ก้อย' เรียกร้องความเป็นธรรม (คลิป)

'ก้อย' เรียกร้องความเป็นธรรม (คลิป)

 


    เราโชคดีเป็นนักแสดงได้เจอนักข่าว แต่ถ้าสมมติว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดา แล้วโดนเอาไปทำรูปให้เหลือแต่เสื้อสายเดี่ยว แบบที่ทำกับเรา เอารูปไปทำหน้าขาวหน้าดำมันไม่ใช่อ่ะ แล้วที่สำคัญคือความปลอดภัยมีหรือเปล่า แล้วของๆเขา เขาไม่เคยมาให้ฟรี หรือให้ทดลองใช้ เผลอๆต้องไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ตมาลองใช้เองด้วยซ้ำ แล้วก็สามารถสืบได้นะคะ ว่าเขาไม่เคยมาให้ใช้ฟรี ไม่เคยติดต่อให้เป็นพรีเซนเตอร์ ถึงวัยนี้ก็ยังเงียบอยู่ วันพรุ่งนี้วันที่ 8 ก้อยต้องไปศาลแล้ว เขาก็ยังเงียบ แล้วก้อยมีความรู้สึกว่าคงต้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนแล้ว ก้อยไม่อยากให้คนแบบนี้อยู่ในสังคม คุณประกอบการแบบไหนกัน แล้วที่สำคัญเห็นว่าไม่ได้ขายแค่ในประเทศ"
    นอกจากนี้นักแสดงสาวยังกล่าวเสริมว่า
    "ซึ่งก้อยมีความรู้สึกว่า รายได้คุณขนาดนี่คุณเอาเปรียบ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูก เป็นเพื่อนของลูก ลูกก็ไม่โอเค แบบว่าทำไมเป็นแบบนี้ ไม่มีน้ำใจเลย เราไม่เคยเอาเปรียบใคร แล้วทำไมเอาเปรียบเราแบบนี้ ไปเจอทีไรก็หน้าชื่นตาบาน แต่พอถึงเวลาทำไมไม่โทรมาสักกริ๊งหนึ่ง ก็ไม่ควรนะเอาเปรียบกันแบบนี้ และสิ่งที่เราเรียกไป ไม่ใช่เป็นล้าน สิบล้านอะไร แค่หลักแบบเอามาเถอะ แค่คุณได้เสียเงินซะบ้าง แค่ให้คุณได้รู้สึกว่ามีการลงทุนบ้าง คุณประกอบการแบบนี้จะอยู่ในสังคมได้ยังไง วันนี้เขาทำกับก้อย ถ้าวันนี้คนแบบนี้อยู่ในสังคม แล้วทำกับคนอื่น ผู้หญิงสาวผิวพรรณดี แล้วกลัวเป็นข่าว กลัวจะโดนฟ้อง และการฟ้องก็ต้องมีค่าใช้จ่าย คือไม่ใช่แค่วัน สองวันนี้ นี่มันสองปีแล้ว  สองปี สามปีแล้ว ก้อยไม่ไหวแล้ว และไหนจะก่อนหน้านี้อีกที่เขาเอาไปขายโดยที่ก้อยไม่รู้ จนถึงปี25 58  ก้อยเรียกร้องครั้งแรก จนมาถึงเรียกร้องครั้งที่ 2 ที่ไปเจอมาเองตอนปี 2559  เราก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ต้องขอความช่วยเหลือพี่ให้เห็นใจ นักแสดงคนหนึ่งว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการแบบนี้กับคนอื่นๆ และอยากเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ได้ลุกขึ้นมาสู้เวลาโดนเอาเปรียบ อย่ายอมโดนเอาเปรียบ ถึงแม้ว่าจะต้องมีเรื่องทีราว ขึ้นโรงขึ้นศาล ก็ต้องอย่ายอม เพราะว่าเหมือนเอาเปรียบคน คือวันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียวนะ มันเสียความรู้สึก และก้อยมีความรู้สึกว่า ทุนหลายร้อยล้าน แต่คุณเป็นแบบนี้มันไม่ถูกต้อง"
    อย่างพรุ่งนี้จะไปขึ้นศาลเป็นครั้งที่เท่าไหร่ 
    "ครั้งที่ 2 ครั้งแรกไกล่เกลี่ย คือครั้งแรกเรียกร้องสำเร็จแล้ว แล้วเขาบอกว่าจะไม่ทำอีก จะไม่ขายอีก คุยกับเรียบร้อยแล้ว และมีสัญญากับทนายความเรียบร้อย จนปี 2559 เราไปเจอร้านขายสมุนไพร พอเจอเราก็อ้าว เอาอีกแล้วหรอ มันเหมือนโกงกัน เราก็เลยไปเปิดเว็บไซต์ดู ในเว็บไซต์ก็ขาย และขายเยอะกว่าเดิม ไม่ใช่ว่ามีแบบเดียว ขายเยอะมาก แล้วส่งจดหมายไปก็ ไม่ได้รับการติดต่อ พูดในศาลว่าติดต่อก้อยไม่ได้ ก้อยไม่รับโทรศัพท์ อันนี้คือสิ่งที่แค้นที่สุดคือมาหาว่าก้อยไม่รับโทรศัพท์ ก้อยไม่ไลน์ตอบ ก้อยถามหน่อย เราอยากให้มันจบ เราไม่อยากมีเรื่อง พี่ๆก็ทราบว่าอยู่วงการมา ที่พี่ไม่ช่วยเพราะว่า ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย และก็ดำรงชีวิต ดำรงอาชีพ โดยไม่เคยขาดลามาสาย ถามผู้จัดได้ว่าไม่เคยทำเรื่อง ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย เพราะฉะนั้นครั้งนี้มันสุดจริงๆ มันนานเกิน เราเสียเวลาทำมาหากิน ถึงจะเป็นร้านแค่นี้เราก็ต้องบริหาร ต้องใช้เวลา แค่ไปรับละครที่เรารัก เราก็เสียเวลาแล้ว เราต้องคอนเซ็นเทรดกับตรงนั้น และต้องมาเสียตรงนี้อีก เราก็เลยออกมาเรียกร้อง ออกมาเรียกสิทธิ์ ก็เลยอยากให้พี่ๆช่วย ค่ะ"
    ผู้สื่อข่าวถามจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดใช่ไหม
    "มันที่สุดถึงที่สุดแล้ว ตอนต้นปีที่สุดไปแล้วไกล่เกลี่ยจะจ่าย 6 หมื่นบาท ยอมไหมคะ เอาง่ายๆแค่ค่ารถค่าทนายความมันก็ไม่ได้แล้ว"
    ตอนที่ไปถ่ายรูปครั้งนั้นได้เซ็นสัญญาไหม
    "ครั้งนั้นไม่มีการเซ็นสัญญานะคะ เขาบอกว่ามาถ่ายภาพนิ่งเพิ่มเติมเพื่อทำเป็นโบชัวร์แล้วก็เซ็นว่าเป็นก้อย-นฤมลตัวจริงแค่นั้น ไม่เคยบอกว่าเอาไปไว้ในสบู่ส้ม ที่สำคัญตอนนั้นก็ยังไม่มีสบู่ส้มออกมา แต่เขามีแพลนจะทำสบู่ของเขาอยู่แล้ว เรียกว่าไม่ได้บอกจุดประสงค์กับเราตั้งแต่แรก"
    พรุ่งนี้ต้องการเรียกร้องเท่าไหร่
    "ตอนนี้อยู่ที่ทนายความว่าจะยังไง แต่ก็คงหนักเลยเป็นล้านแน่ๆเพราะยังต้องคำนวนและไกล่เกลี่ยเพราะเรื่องนี้เป็นคดีแพ่งมันไกล่เกลี่ยได้ จริงๆถ้าไกล่เกลี่ยได้และเขายอมจ่ายตั้งแต่ครั้งแรกที่ก้อยเรียกไปเดือน พ.ย.60 ซึ่งตอนนั้นทนายเป็นคนไปก้อยเรียก 3 แสนบาทเองก็จบแล้ว แต่วันที่ 8 มี.ค.61 ก้อยจะขึ้นศาลครั้งที่ 2 ที่ศาลมีนบุรี เวลา 09.00 โมง ก้อยไปเอง ซึ่งก้อยไม่อยากเสียเวลาแล้ว ถ้าเขาบอกจะให้ 6 หมื่นก็ได้แต่สิ่งที่คุณทำคุณพูดคืออะไร"
    ถามว่าแจ้งเขาไปกี่ข้อหาแล้ว
    "อันนี้ไม่ทราบนะ มีละเมิดและผิดสัญญาแน่นอน 2 ข้อหานี้"
    ถามว่าที่เขาเอาลงขายในอินเตอร์เน็ตเราแจ้ง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ไหม 
    "อันนี้ทนายความต้องจัดการให้ค่ะ วันนี้อยากจะมาบอกว่า 1. เราถูกละเมิด 2. ไม่ได้รับความเป็นธรรม เอาเปรียบคนคนหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นแค่นักแสดง จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เป็นพริตตี้ เป็นนักแสดง ก็เป็นคนเหมือนกัน อย่ามาทำแบบนี้กันเลย พูดคุยกันได้ก็พูดคุย แต่ว่าถ้าเกิดพูดคุยกันไม่ได้คุณทำแบบนี้ก็ไม่ถูกคือนิ่งเลย ชั้นทำธุรกิจชั้นไม่จ่ายก็ได้อะไรแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ไม่ควรจะอยู่ในสังคมนี้ค่ะ คือมันหลายปีแล้ว เราเหนื่อย เราท้อสุดๆ แล้วนะ" ก้อยบอก

 

'ก้อย' เรียกร้องความเป็นธรรม (คลิป)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ