"เป๊ก" ผลิตโชค อายนบุตร แจงดราม่าถูกซูเปอร์สตาร์ "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์ เรียกตัวไปปรับทัศนคติ ว่าเป็นการใช้คำที่ผิด เพราะความจริงแค่ให้คำแนะนำเท่านั้น
ในรายการ "เจาะใจ" เทปที่ผ่านมา เป็นการสัมภาษณ์ "เป๊ก" ผลิตโชค โดยในการสัมภาษณ์มีการพูดถึงเรื่องเป๊กถูกซูเปอร์สตาร์ "เบิร์ด" ธงไชย เรียกคุยกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อปรับทัศนคติ หลังจากดังชั่วข้ามคืน จนเกิดเป็นดราม่าขึ้นมา งานนี้พอเจอตัวหนุ่มเป๊กในงานเปิดตัวซัมเมอร์โปรโมชั่น “โออิชิ โอทั้งคู่ ยูเลือกได้” จึงถามถึงเรื่องนี้
"จริงๆ แล้วอาจจะใช้คำผิดเท่านั้นเอง คือมันไม่ใช่คำว่าปรับทัศนคติอะไร มันเป็นคำที่พูดเล่น พี่เบิร์ดเรียกไปแนะนำแนวทางให้กำลังใจ แนะนำว่าใช้ชีวิตอย่างไรถึงจะดี ให้มันพอดีกับตรงนี้ที่เราอยู่ ไม่ได้เรียกไปว่าเลยเป็นเรื่องที่คนคิดไปเอง พอใช้คำผิดไป ก็คนไม่ได้ตกใจอะไร แค่งงว่าแค่คำเดียวทันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ คนเลยมองว่าเราทำตัวไม่ดี พี่เบิร์ดถึงได้เรียกไปพบ มันไม่ใช่ เพราะปกติก็เจอพี่เบิร์ดอยู่แล้ว มีโอกาสได้เจอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุย พี่เบิร์ดให้กำลังใจตลอด"
เพราะว่าดังชั่วข้ามคืนเลยต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้รับมือกับตรงนี้ให้ได้
"จริงๆ พูดแบบนั้นก็ใช่ แต่มันคงไม่เรียกว่าปรับทัศคติ จะเรียกว่าแนะนำแนวทาง ที่พูดมาก็ถูกคือให้เราปรับตัวว่าเรามาอยู่ตรงนี้ เราต้องทำตัวอย่างไรบ้าง ที่มันสบายกับเราและสบายกับทุกคน และเราก็ยังเป็นตัวขิงตัวเอง ให้ใครกับแฟนๆ เพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ ทำยังไงให้หาสมดุลได้"
แปลว่าผู้ใหญ่ก็ห่วงเรื่องความดังของเป๊ก
"ผู้ใหญ่ก็เป็นห่วงจริงๆ เพราะเราไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เลย (หัวเราะ) ไม่เคยมีฟิลลิ่งแบบนี้ เราจะรับมือไหวไหม เพราะทุกอย่างเข้ามาพร้อมๆ กันหมด และมันก็มาอย่างหนักเหมือนกัน และเรามีเรื่องราวอะไรมากมายที่อยู่ในใจ ซึ่งมันก็ลำบากใจเหมือนกันที่เราไม่ได้แสดงให้คนอื่นเห็น เลยไม่รู้ว่าโอเคไหม"
ในส่วนตัวของ "เป๊ก" คิดว่าความดังที่เกิดขึ้นทำให้เราเหลิงไหม
"น่าจะยังไม่มี น่าจะยังไม่มีนะ ถ้ามีพวกพี่ๆ คงเห็นเอง"
ณ วันนี้ปรับตัวได้ยังกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ก็ปรับตัวได้ครับ อยากบอกว่าผมเป็นคนเดิม เป็นคนเดิมตลอด และก็มีบางมุมที่เอาใจตัวเองบ้าง ก็ตามแบบมนุษย์ทั่วไป แต่พอเจอคลาสพี่เบิร์ด หรือคลาสอะไรเข้าไป 4 ชม. (หัวเราะ) เหมือนจริงๆ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นเราทำเพื่อสังคมเพื่อแฟนๆ ได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี"
เข้าไป 4 ชม. ออกมาเปลี่ยนตัวเองเยอะแค่ไหน
"(ทำท่าแคะหู) จริงๆ แล้วสมัยก่อน ผมเป็นคนธรรมดา เป็นวัยรุ่นทั่วไป อยากจะไปนั่นไปนี่กับเพื่อน ก็เป็นเรื่องปกติ แต่พอเรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เรามีความรับผิดชอบต่อการงาน มันอาจจะไม่เหมาะสมนัก ที่จะไปแฮงเอ้าท์ตลอดเวลา"
เราโดนเตือนเรื่องไปแฮงค์เอ้าท์เยอะมั้ย
“แฮงค์เอ้าท์มันเป็นไลฟ์สไตล์ของผมอยู่แล้ว ผมไม่สามารถที่จะเปลี่ยนมันได้แต่ก็คงมีน้อยลง เพราะเราก็คงจะต้องเอาเวลาไปพักผ่อนทำเสียง ทำร่างกายให้เฟิร์ม แต่ผมก็ยังต้องบอกว่าผมเป็นคนเดิม ที่ผมยังชอบออกไปเที่ยวข้างนอก ไปแฮงค์เอ้าท์”
ถามถึงเรื่องที่อิน บูโดกัน โพสต์ถึงศิลปินว่าเป็นศิลปินเทพแล้วมีคนโยงไปว่าเป็นเป๊กเรารู้สึกยังไง
“อันนี้ผมไม่ทราบเลย ก็ดีใจนะครับ ที่คนยังจำได้ ยังนึกถึงเราเป็นอันดับแรกก็ยังโชคดีที่ผมไม่ได้ไปอ่านเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะไม่ทราบข้อมูล”
โดยส่วนตัวรู้จักกับอินมั้ย
“พี่อินเป็นครูสอนร้องเพลงคนแรกๆ ในชีวิตตั้งแต่ผมยังไม่เข้าแกรมมี่ สอนร้องเพลงตั้งแต่เด็ก รักผูกพันกันมาไม่คิดว่าพี่อินจะมาด่าผม”
มั่นใจว่าไม่ใช่เราแน่นอน
“หรืออาจจะใช่นะ”
พอได้อ่านอะไรแบบนี้มีน้อยใจหรือหดหู่ใจมั้ยที่เจอดราม่าตลอด
“ไม่ครับ ช่วงนี้รู้สึกว่าทำไมดราม่าผมน้อยจังเลยถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ก็เฉยๆครับ ไม่นอยด์ ไม่มีเลย เพราะตอนนี้มีกำลังใจจากแฟนๆเต็มที่ มีกำลังใจจากคนรอบข้างที่แกรมมี่ พี่นักข่าวให้กำลังใจหรืออะไรก็ตาม ไม่มีความนอยด์ครับ ทำตัวเป็นธรรมชาติ ปกติที่อยากจะทำ”
เวลาคนโยงว่าเป็นนักร้องเทพ เข้าถึงยากเราคิดว่าเราเป็นอย่างนั้นมั้ย
“พี่ว่ายากมั้ยครับ (ยิ้ม) ไม่น่ายากมั้ยครับ”
เลิกเสพข่าวไปเลยรึเปล่า
“ไม่เชิงเลิกแต่เป็นเลือกที่จะอ่านเป็นอย่างๆ บางทีเขาว่าเราหรืออะไร เราก็จะไม่ไปสนใจ ก็เป็นเรื่องปกติ ที่มันไม่มีทางที่จะทำให้คนชอบเราได้เสมอไป100เปอร์เซ็นต์ เราก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง แค่อยากจะเป็นตัวเอง ถ้าเขามาคลิ๊กกันก็โอเค”
เรียกว่าข้ามผ่านดราม่ามาได้
“ใช่ครับ ก็โชคดีมากเลยที่มีสิ่งศักดิสิทธิ์หรือมีอะไรก็ตามที่ดลใจให้ผมเข้มแข็งจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความราบรื่น”
แปลว่าไม่มีอะไรจะทำร้ายเป๊กได้
“เรียกว่ายังไม่เจอ(หัวเราะ) และคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง