บันเทิง

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พูดคุยกับ "เวส บอลล์" กับภาคยนตร์ภาคต่อที่ทุกคนรอคอย "Maze Runner: The Death Cure - เมซ รันเนอร์: ไข้มรณะ"

         ภาพเงาสะท้อนของพุ่มไม้เขียวชอุ่มบนผิวน้ำกระเพื่อมเป็นภาพแรกที่เราได้เห็นในหนังสั้นอันทรงพลังความยาว 8 นาทีของเวส บอลล์ เรื่อง RUIN เมื่อหนังสั้นเรื่องนี้ปล่อยออกมาในปี 2011 ผู้ชมทางอินเตอร์เน็ตได้ตกตะลึงไปกับฉากไล่ล่าอันลื่นไหลโดยมีฉากหลังเป็นมหานครที่ถูกทิ้งร้างและปกคลุมด้วยต้นไม้ ภาพยนตร์ที่ไร้บทพูดแต่มีงานออกแบบภาพและเสียงอันน่าตื่นตาตื่นใจเรื่องนี้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในโลกยุคหลังวันสิ้นโลกที่ไม่เหมือนเรื่องไหนๆคงไม่มีอะไรเป็นใบเบิกทางได้ดีไปกว่าหนังสั้นเรื่องนี้อีกแล้วท่ามกลางกระแสการบอกต่อที่ตามมาหนังสั้นเรื่องนี้ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้บริหารของ Foxซึ่งได้เชิญบอลล์มาพบหลายครั้งเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์แรกของการติดต่อระหว่างเขากับทางสตูดิโอบอลล์ก็บรรลุข้อตกลงที่จะพัฒนา RUIN ให้เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวโดยงานก่อนหน้าก็คือการดัดแปลงนวนิยายของเจมส์ แดชเนอร์ เรื่อง THEMAZE RUNNER สู่จอภาพยนตร์

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

         งานนี้เหมือนฝันที่เป็นจริงของผู้กำกับมากความสามารถรายนี้ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในฐานะเจ้าของบริษัทวิชวลเอฟเฟ็กต์ Oddball Animationคนทำหนังครั้งแรกน้อยรายนักที่จะมีโอกาสได้เล่นกับของเล่นของฮอลลีวู้ดแต่บอลล์ไม่เพียงรับความท้าทายได้อย่างดีเขานำเสนอภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อัดแน่นด้วยแอ็คชันและหนักแน่นจริงจังอีกทั้งยังเป็นหนังฮิตติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิซทั่วโลกโดยทำเงินกว่า 340ล้านเหรียญ จากนั้นเขาจึงได้นำเสนอภาคที่สองของหนังไตรภาคนี้ MAZERUNNER: THE SCORCH TRIALS โดยเริ่มต้นทำงานขณะที่หนังภาคแรกยังฉายอยู่ในโรง

         คราวนี้เขากลับมาเล่าตอนจบของไตรภาคใน MAZE RUNNER: THEDEATH CURE ขณะที่โธมัสและเพื่อนๆชาวทุ่งปรับตัวเข้ากับชีวิตในแดนมอดไหม้พวกเขาก็ได้ตระหนักว่ากุญแจสำคัญที่จะยุติสงครามครั้งนี้อยู่ที่ใจกลางของความหลอกลวงใน ‘เมืองสุดท้าย’โลกอุดมคติที่มีกำแพงปิดล้อมซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของ WCKDและเป็นที่ปกป้องผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายจากไวรัสแฟลร์ ในขณะที่ THEMAZE RUNNER เกี่ยวข้องกับการออกจากกำแพง MAZE RUNNER:THE DEATH CURE เป็นหนังที่ว่าด้วยการบุกเข้าไปข้างในเมื่อโธมัสและชาวทุ่งต้องหาทางเจาะเข้าสู่เมืองสุดท้ายเพื่อกำจัดองค์กรWCKD และค้นหาความสงบสุข

         ระหว่างการเดินทางไปยังกองถ่ายในเคปทาวน์ แอฟริกาใต้บอลล์อธิบายให้เราฟังถึงการนำไตรภาค THE MAZE RUNNERไปสู่บทสรุป

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

@ คุณต้องการให้หนังแต่ละเรื่องในไตรภาคนี้มีภาพที่แตกต่างกันไป THE DEATH CURE ดำเนินรอยตามแนวทางนี้อย่างไรครับ

         ใช่แล้วครับ ผมมองภาพหนังเรื่องนี้เป็นบ็อกซ์เซ็ตซึ่งแต่ละภาคก็จะมีโทนที่แตกต่างกันไป ในภาคแรกจะเป็นสีสันแบบชนบท สีเขียว ป่ารกทึบ และคอนกรีตพอถึงภาคสองและตอนท้ายของภาคนั้นคุณก็จะได้เห็นโทนสีน้ำตาลของสิ่งที่ถูกเผาไหม้และเป็นสนิมเราเริ่มต้นภาคนั้นในทะเลทราย สีฝุ่น ท้องฟ้าสีน้ำเงินเป็นโทนสีประมาณนั้น จากนั้นเราก็เข้ามาอยู่ในโลกของ WCKDซึ่งเป็นโลกแบบไซไฟ มืดมิด และออกจะเป็นโลกอนาคตที่ล้ำสมัยเราพูดแหย่กันว่าเหมือนเรากำลังทำ BLADE RUNNER กันอยู่ผมชอบที่หนังแต่ละภาคให้ภาพและอารมณ์ที่แตกต่างกันแต่ก็รวมอยู่ในจักรวาลเดียวกันได้ มันช่วยให้เราไม่ต้องซ้ำรอยตัวเองถึงแม้ว่าเราจะเริ่มต้นภาคนี้ในแดนมอดไหม้ซึ่งเป็นจุดที่เรื่องราวจบลงในภาคที่แล้ว

@ ภาคนี้เน้นความเป็นไซไฟที่หนักหน่วงยิ่งขึ้นอย่างไรบ้าง

         ผมว่าเรามักจะมองหนังไตรภาคนี้ว่าเป็นหนังผจญภัยมากกว่าหนังไซไฟแต่ในภาคนี้เราจะเน้นความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิมภายในปริบทของโลกที่เรานำเสนอซึ่งยังคงเป็นโลกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสแฟลร์เมืองของเรามีกำแพงล้อมรอบเพื่อปกป้องจากโลกภายนอกและสิ่งที่ผมชอบก็คือการที่เราใช้หนังสองภาคแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคแรก พูดถึงการหนีออกจากกำแพงแล้วหนังภาคนี้กลับเป็นการเจาะกำแพงเข้าไป

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

         พอเราได้เห็นเมืองสุดท้ายเป็นครั้งแรก คุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงตั้งอยู่ได้พวกเขาได้สร้างกำแพงเขาวงกตแบบเดียวกันล้อมรอบเมืองเอาไว้เพื่อปกป้องคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งพยายามเอาชีวิตรอดจากคนนับล้านๆที่หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่นี้เพื่อหาวิธีรักษา หาความปลอดภัยหรืออะไรก็ตามแต่ คราวนี้เป็นหนังว่าด้วยการบุกเข้าไปครับ

         มีความคล้ายคลึงกับหนังสือแล้วก็แน่นอนมีความแตกต่างด้วยแทบจะตั้งแต่ภาคแรกเราเริ่มแนวทางที่แยกออกจากเรื่องราวในหนังสือและในภาคสองก็แยกออกมาอีกเล็กน้อย แต่เมื่อถึงตอนจบของภาคนี้ผมคิดว่าเราได้ย้อนกลับมาสรุปตรงตอนจบของหนังสือครับ

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

@ เดิมพันความเสี่ยงใน THE MAZE RUNNER และ MAZE RUNNER:THE SCORCH TRIALS คือเรื่อง   ของความเป็นความตายมาภาคนี้เดิมพันกลับสูงขึ้นอีกทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้คุณรักษาระดับความหนักหน่วงเอาไว้ได้อย่างไร

         ก็ประหลาดดีนะครับแต่ผมมักจะนึกถึงหนังภาคนี้เหมือนกับว่าเราไม่ได้ทำภาคต่อเรากำลังทำตอนจบของเรื่องยาวเรื่องนี้มากกว่า ในภาคแรกแม้กระทั่งตอนที่เราเริ่มคิดว่าจะตัดต่อภาคแรกเสร็จเมื่อไหร่ทางสตูดิโอก็ถามแล้วว่า “แล้วภาคหน้าจะเป็นอย่างไร”ผมไม่ได้ถูกกำหนดไว้ให้ทำภาคต่อไปตั้งแต่แรกแต่พอเราเริ่มคิดว่าน่าจะทำอะไรต่อ เราก็เริ่มนึกไปถึงภาคสามด้วยและเราก็ดูตัวอย่างจาก STAR WARS และหนังไตรภาคดีๆ อีกหลายเรื่องแล้วผมก็ตั้งใจแน่วแน่ไว้ตั้งแต่ต้นว่า ถ้าเราจะทำมันก็จะต้องเป็นเรื่องราวที่มีตอนเริ่มต้น ตอนกลาง และตอนจบเราจะไม่ยืดมันให้ยาวกว่าที่ควรจะเป็น

         เรากำหนดแนวทางไว้ตั้งแต่ต้นว่าภาคสุดท้ายจะพูดถึงเรื่องราวทุกส่วนที่ดำเนินไปจนถึงจุดสูงสุด เรามักจะนึกถึงฉากการช่วยเหลือฮาน โซโลเพราะฉะนั้นเราจึงตั้งต้นเรื่องของมินโฮเอาไว้ตั้งแต่ในภาคสองเพราะมันจะช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวไปยังตอนจบได้ดี

         ผมมักจะพูดว่าหนังภาคแรกเกี่ยวกับการออกจากบ้านครั้งแรกตอนเป็นเด็กภาคสองคือการไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วยังค้นหาว่าตัวเองเป็นใครคุณอยู่ได้ด้วยตัวเองแต่คุณไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครส่วนภาคสามนั้นพูดถึงการมีมุมมองที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความดีความชั่ว ซึ่งก็แปลกตรงที่ว่าในเรื่องราวของเราเราจะมองเทเรซาด้วยความเห็นอกเห็นใจคนอยากเกลียดเธอตั้งแต่แรกเพราะเธอทรยศเพื่อน ผมคิดว่าในภาคนี้คุณจะได้เห็นว่า “อืม เราอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำแต่เราก็เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำแบบนั้น” และแสดงให้เห็นมุมมองจากฝั่งWCKD ว่าองค์กรนี้พยายามแก้ปัญหาวิกฤตโลกอย่างไร

         โธมัส ตัวละครหลักซึ่งตั้งใจแค่มาช่วยเพื่อน มินโฮก็จะต้องมาพบคำถามที่ว่า “คุณจะยอมทำมากแค่ไหนเพื่อปกป้องโลก”และคุณจะพบแง่มุมที่เป็นสีเทา ไม่ได้มีแค่ดำกับขาว มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆและเราหวังว่าในตอนจบของหนังเขาจะได้พบคำถามที่น่าสนใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ใช่แค่ว่าเขาขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยกู้โลกเขาต้องสูญเสียอย่างหนักเพื่อแลกกับการตัดสินใจเดินทางมาที่นี่

         เพราะฉะนั้น “หนักหน่วง” น่าจะเป็นคำที่ใช่ครับแต่ก็หวังว่าเมื่อถึงตอนจบคุณจะรู้สึกได้ว่าโดยรวมแล้วตัวละครได้ผ่านกระบวนการเติบโตและค้นพบความซับซ้อนของการเป็นผู้ใหญ่

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

@ งานสร้างยิ่งใหญ่ขึ้นในภาคสุดท้ายหรือเปล่าครับ

         ภาคนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยทำมาเลยครับ เป็นภาคที่ซับซ้อนมากที่สุดเหมือนกับว่าในภาคแรกมีมุมมองเดียว ก็คือมุมมองของโธมัสเราไม่ได้แตกเรื่องออกไปจากมุมมองนั้นเลย พอมาภาคสองก็มีสามมุมมองคือมุมมองของฮอร์เฮและเบรนดา และมีมุมมองของแจนเซนกับ WCKDนิดหน่อย จากนั้นก็เป็นมุมมองของโธมัสมาถึงตอนนี้เหมือนมีมุมมองอยู่ห้ามุมมอง เรื่องราวต่างๆมาปะทะกันอยู่ในเมืองเมืองนี้

         เรามักพยายามเอาชนะตัวเองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และไม่ใช่แค่นั้นแต่ผมคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของหนังไตรภาคที่เรื่องราวที่ตามมาแต่ละตอนจะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น เราต้องขมวดปมเรื่องราวทั้งหมดซึ่งมาถึงจุดสูงสุดดังนั้นไม่มีทางที่มันจะเล็กลงครับ ถึงแม้ว่าเราอยากทำให้มันเล็กลงในแง่เรื่องราว ในแง่ประเด็น มันจะต้องใหญ่ขึ้นอยู่แล้วและแน่นอนว่าเป็นเรื่องสนุกที่ได้ทำหนังผจญภัยผมมักพูดเสมอว่าอันดับแรกอยากให้มันบันเทิงก่อนภาคแรกเป็นเรื่องราวผจญภัย เป็นการผจญภัยของเด็กโตมีความโรแมนติกและอะไรแบบนั้นเราตั้งโจทย์ไว้แบบนั้นและบอกว่ามันก็คือหนัง INDIANA JONES ดีๆ นี่เองเป็นหนังผจญภัยสนุกสนานที่คุณจะจดจำได้ เรามีฉากแอ็คชั่นเจ๋งๆมากมายในภาคนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งยังคงมีการผจญภัยแบบเดียวกับ THEMAZE RUNNER แต่ก็หวังว่าเราจะได้สำรวจแนวคิดที่ใหญ่กว่านั้นด้วย

         ในแง่เรื่องราว ความท้าทายสำคัญที่สุดของเราอาจจะเป็นการนำเสนอสิ่งที่อยู่ในหนังสือด้วยแนวทางที่ต่างออกไป ที่ผ่านมามันค่อนข้างยากอยู่เหมือนกันแต่ผมคิดว่าเราก็ได้พบวิธีการที่ดี และหาแนวทางที่ดีขึ้นมาได้ที่สำคัญเราได้เจมส์ แดชเนอร์มาร่วมงานด้วยเขาเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องเหล่านี้และผมก็นำเขากลับมาที่กองถ่ายเพื่อให้เขาปรากฏตัวเป็นดารารับเชิญในฉากไหนสักฉาก ผมเป็นดารารับเชิญในภาคแรกเราไม่ได้มีดารารับเชิญในภาคที่สอง แต่คราวนี้เราได้เขามาในภาคสุดท้ายซึ่งก็เป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับแฟนหนังสือ

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

@ คุณรู้สึกอย่างไรกับการเดินทางที่ผ่านมาร่วมกับทีมนักแสดงทีมนี้ตลอดทั้งสามภาคครับ

         เราโชคดีมากที่ได้นักแสดงกลุ่มนี้ครับ พวกเขาเป็นนักแสดงจริงๆ ไม่ใช่แค่คนสวยคนหล่อ เราเน้นการหานักแสดงเก่งๆ เป็นอันดับแรกเสมอเราไม่จำเป็นต้องเน้นการใช้ดาราดังถึงแม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะกลายเป็นดาราดังก็เถอะเราโชคดีที่ได้ค้นพบและเลือกนักแสดงที่เก่ง และพวกเขาก็เก่งขึ้นเรื่อยๆพวกเขาไปทำงานเรื่องอื่นๆ ที่ยิ่งใหญ่น่าตื่นเต้นจากนั้นเราก็ได้พวกเขากลับมาในภาคสามนี้ทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะได้ศึกษาบทอย่างลงลึกและรับบทบาทที่น่าสนใจและลุ่มลึกยิ่งขึ้นเป็นนักแสดงอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่ดารานำประจำแฟรนไชส์เราเริ่มต้นด้วยการศึกษาบทร่วมกับนักแสดงโดยมอบโจทย์ที่ดีเพื่อให้นักแสดงนำไปขบคิดต่อ

         มีคนพูดว่างานของผู้กำกับ 80% นั้นอยู่ที่การหานักแสดง ซึ่งก็จริงครับเมื่อนักแสดงตั้งใจเต็มที่และเราลงมือถ่ายทำออกมา จะมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเราได้ฉากดีๆ ที่รู้สึกได้เลยว่า “ใช่เลย ฉากนี้ต้องสะเทือนใจมากแน่ๆ” หรือ“ช่วงนี้สุดยอดไปเลย”

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

@ การเดินทางมาถึงจุดจบแล้วความรู้สึกในช่วงท้ายของการทำงานเป็นอย่างไรครับ

         มันต้องสุขปนเศร้าแน่ๆ ครับผมดีใจที่ได้เล่าเรื่องนี้ให้จบและพร้อมที่จะก้าวไปพบสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าที่งานนี้ต้องจบลง ข้อดีคือผมมีสายสัมพันธ์อันดีกับทุกๆ คนและเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปเราจะผูกพันกันด้วยประสบการณ์นี้ตลอดไปและผมอาจใช้พวกเขาในหนังเรื่องต่อๆ ไปได้ด้วย

         "Maze Runner: The Death Cure - เมซ รันเนอร์: ไข้มรณะ" พร้อมเข้าฉาย 25 มกราคม  ในโรงภาพยนตร์ นำแสดงโดย ดีแลน โอ’เบรียน, โทมัส โบรดี้-แซงสเตอร์, โรซา ซาลาซาร์, คายา สโคเดลาริโอ และเด็กซ์เตอร์ ดาร์เดน กำกับภาพยนตร์โดย เวส บอลล์

‘เวส บอลล์’ ผู้กำกับ  THEMAZE RUNNER ภาคล่าสุด

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ