“แม่แอ๊ด” โฉมฉาย ฉัตรวิไล กลับมาลุยงานละครอีีกครั้ง รับเนาะๆ 4 เรื่องรวด เลิกมองตัวเองเป็นตัวถ่วงแล้ว
เคยประกาศตัวว่าจะขอหยุดรับงานแสดง เพราะหวั่นตัวเองเป็นตัวถ่วงนักแสดงคนอื่นๆ สำหรับนักแสดงชั้นครู “แม่แอ๊ด”โฉมฉาย แต่ล่าสุดแม่แอ๊ดกลับมาร่วมงานแสดงซิทคอมเรื่อง “สราญแลนด์” ทางช่องวัน งานนี้เลยต้องถามไถ่กันหน่อยว่า เหตุผลใดจึงกลับมารับงานจอแก้วอีกครั้ง
“หลังจากที่ฟื้นฟูร่างกายตัวเองไปพอสมควร แล้วก็รู้ตัวเอง ไม่เชิงว่าเหงานะ แต่เราทำงานมาตั้งแต่ 6 ขวบแล้ว ประกอบทางนี้จะคอยติดต่อกับแม่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นละครยาว ละครเวที แต่แม่ก็บอกว่าขอก่อนๆ จนมาถึงเรื่องนี้ เขาก็คุยกับแม่เลยว่าลงไหวไหม เราก็บอกว่าได้ แต่อย่าให้แม่พูดทีละ 3-4 หน้านะ คือแม่เล่นได้ แต่ความจำมันไม่เหมือนเมื่อก่อน แม่ก็ฟื้นฟูโดยการไปหาหมอจีนด้วยนะ ( 1 ปีที่หายไป ไปทำอะไรมาบ้าง) ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากออกกำลังกาย พักผ่อน ใช้ชีวิต ถามว่าอยู่ได้ไหม อยู่ได้ แต่พอทางนี้ติดต่อไป มันเป็นความรู้สึกที่แบบว่าเรารักที่นี่ เราทำงานให้ที่นี่หลายอย่าง เล่นละครให้เอ็กแซ็กท์ตั้งแต่เขาเพิ่งเปิดใหม่ๆ จนสุดท้ายเลยคือบ้านนี้มีรัก ซึ่งอยู่กัน 13-14 ปี แล้วก็หยุดเลย พอเขาจะให้แม่ลงซิทคอมอีกแม่ก็บอกเลยว่าอย่าให้อ่านบทเยอะนะ เพราะที่นี่เคี่ยว และเช้าขึ้นมาบทถึงจะมาวาง ไม่ได้มีการอ่านบทก่อน อย่าไปบอกใครนะว่าเขาให้แม่เลยเป็นคนหูหนวก ใส่หูฟังเพื่อความสมจริงด้วย มันก็สนุกสนานดี (พอหมอจีนด้วย ) ไปแมะ เขาก็จะบอกว่าอะไรในร่างกายเราเสื่อมไปบ้าง ไอสมองเราไม่เสื่อมหรอก แต่การสูบฉีดของเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมันน้อยลง มันช้าลง แต่พอกินยาเข้าไปมันก็สูบฉีด”แม่แอ๊ดบอก
ถามว่าวันนี้พอได้เห็นบทละครที่ต้องถ่ายทำ หายกังวลไหม
“อัดไปแล้ว 2 ตอน ไม่ได้กังวลอะไรมากมายเพราะเราเป็นสายเลือดศิลปินอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีความขยันมากขึ้น (ถ้าละครที่ไม่ใช่ซิทคอมจะรับไหม) ละครยาวตอนนี้เริ่มใจอ่อนแล้ว เพราะทุกคนอยากให้แม่เล่น ตอนนี้ละครยาวที่รับไว้มีทั้งหมด 4 เรื่อง ของช่อง 3 เปิดกล้องไปแล้ว ของเอ็กแซ็กท์ 1 เรื่อง ของ GMM อีก 1 เรื่อง แล้วก็ซิทคอมนี้อีก ก็เต็มแล้วครบแล้ว แต่เมื่อ 2-3 วันนี้มีของ อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์) เพิ่งโทรมาอีกเรื่องหนึ่ง เป็นรับเชิญ (เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากเป็นตัวถ่วงในละคร วันนี้ตัดความกังวลนั้นออกไปอย่างไร) ทุกคนที่ติดต่อมาแม่ก็จะบอกว่าแม่ไม่รับแล้วนะ เพราะไม่อยากไปเป็นตัวถ่วงใคร แต่ทุกคนก็จะมีเหตุผลว่าที่ให้เราเล่นเพราะอย่างนู้นอย่างนี้ ช่วยเล่นให้หน่อย ส่วนเรื่องบทไม่ต้องห่วง อย่างเรื่องที่แม่ต้องเล่นเป็นตัวนางละคร ที่ทั่งร้องทั้งรำมาตั้งแต่สาวจนแก่ เราก็มาปรึกกับลูก ลูกก็บอกเอาเถอะ บอกตามตรงว่าเรื่องเงินเรื่องทองไม่ได้เป็นห่วงเลย เราห่วงสุขภาพเรามากกว่า แต่ถ้าเราไม่เล่นแล้วเขาจะเอาใครเล่น เราก็โอเคๆเล่นๆ แต่อย่าในพูดบทเยอะๆนะ”
ความสามารถในจากจำบท ณ วันนี้มันได้เท่าไหร่
“มันได้ แต่มันต้องท่อง คือเมื่อก่อนแม่ไม่ต้องท่อง เอาบทมาอ่านแล้วเล่นได้เลย แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าเหมือนเด็กนักเรียนที่ต้องเข้าสอบ ต้องดูแล้วก็เมมเอาไว้ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องแปลกสำหรับแม่ไง เลยไม่อยากไปเป็นตัวถ่วงใคร ซึ่งคนเขาก็บอกว่าแม่ไม่ต้องห่วงหรอก เด็กสมัยนี้บางคน 9-10 เทค (ลูกสาวอยากให้พักอยู่บ้านไหม) ลูกสาวแม่เขารู้จักแม่ดี ว่าแม่อยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วแม่ก็จะมีความสุขสนุกสนานกับการที่แม่ไปกอง ไม่เหนื่อย ไม่เคยบ่น มันคือชีวิตของเรา ได้ทำในสิ่งที่เรารัก แต่ ณ วันหนึ่งถ้าเราไม่ไหวจริงๆ เราก็จะต้องยอมรับ อย่าไปฝืนตัวเอง แต่ถามตัวเองตอนนั้นว่างอยู่บ้านมาเป็นปีมันก็อยากเล่นนะ มันได้หยุด ได้ไปเที่ยว ทำอะไรหมดแล้วทุกอย่างครบหมดแล้ว สมัยก่อนอยู่บ้านเต็มที่อาทิตย์ละ 2 วัน ก็เบื่อแล้ว ถ้าถามว่าตอนนี้ถ้าต้องอยู่จริงๆแม่ก็อยู่ได้นะ ต้องทำให้อยู่ได้ เราสอนตัวเองบอกตัวเองตลอดถ้าไปอยู่ในสถานการณ์คับขันต้องไม่มัวแต่กรีดร้อง ต้องยอมรับให้ได้ ต้องอยู่ให้รอด แต่ถ้าถามว่ากลัวไหมก็คิดเหมือนกันนะ ถึงได้พยายามไปเที่ยวไปช้อปปิ้ง”
ถามว่าจะแสดงละครไปจนถึงเมื่อไหร่
“ถ้าตราบใดที่มันยังแข็งแรงอยู่ เท่าที่เป็น ณ เวลานี้ก็โอเค ตอนนี้ก็ยังขับรถเองอยู่นะ ชอบขับรถเพราะ หู ตา สมอง จะได้ใช้ตลอด ถ้าเรายิ่งไปนั่งว่างเป็นคุณนายสมองมันก็จะไม่สั่งงาน (สรุปตอนนี้กลับมารับละครอีกครั้ง ดูเหมือนคิวจะเยอะกว่าเดิมอีก) ไม่หรอก ละครช่อง 3 เขาจะจัดคิวให้ ตัวอย่างแม่เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่บ้าน สัปดาห์หนึ่งก็อัดไป 10-20 ฉาก แต่ตอนนี้ของช่อง 3 ก็ต้องหยุดก่อนนะ เพราะเขาจะให้แม่เล่นเยอะๆอยู่ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นละครนอกแล้ว”แม่แอ๊ดกล่าวปิดท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง