กราบยานแม่ ‘มาช่า’ตอบเรื่องความรักครั้งใหม่.. (คลิป) 

          ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ยานแม่อย่าง มาช่า  วัฒนพานิช มักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ  ล่าสุดในพบกับเจ้าตัวในงาน   Amp-Sha Concert ณ บริเวณล็อบบี้ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงต้องขออัพเดทผลงานต่างๆกันเสียหน่อย ได้ความว่า 

         "สำหรับเพลงใหม่  จริงๆ ช่าก็อยากจะกลับมาทำอะไรๆ นะ แต่ดูปัจจุบันนี้การทำเพลงๆ หนึ่งมันก็ดูยากๆ อยู่นะ  มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ยังมีมิวสิควิดีโอเต็มๆ เดี๋ยวนี้โลกมันเร็วมาก ช่าก็เลยคิดว่าเดี๋ยวดูจังหวะก่อน ตอนนี้ก็ทุ่มทำคอนเสิร์ตนี้ให้ดีที่สุดก่อน ถามว่าอยากกลับมาทำเพลงไหม เราเป็นนักร้องเนอะ เราก็ต้องอยากร้องเพลง อยากทำ แต่ช่ารู้สึกว่าโลกมันเปลี่ยนไป ทุกคนก็คงรู้สึกแหละ อะไรหลายๆ อย่างมันเปลี่ยนไป การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป เราก็ต้องค่อยๆ ดูว่าเราจะไปแบบไหนดี (แฟนๆ ถามถึงเยอะไหม)  มีนะ ถามว่าพี่ช่าไม่ร้องเพลงอีกเหรอ ไม่นู่นไม่นี่ แต่ก็ต้องดูด้วย ไม่ใช่ว่าร้องแล้วเงียบหาย เราก็รู้สึกเสียดายเนอะ เราก็ต้องดูจังหวะด้วย ดูว่าออกมาแล้วทำอะไร (มีผู้ใหญ่ถามมามั้ยหรือได้เข้าไปคุยบ้างหรือเปล่า) ช่าก็ทำหลายรูปแบบนะ  ทั้งเล่นละคร ทั้งร้องเพลง บางครั้งช่าเลยรู้สึกว่าไม่ได้มุ่งแต่จะรอจังหวะเพลงอย่างเดียว แต่ดูว่าช่วงไหนกำลังทำอะไร ช่วงนี้ถ้ามันเป็นคอนเสิร์ตมันก็จะไลฟ์กว่า และช่าคิดว่าคนน่าจะอยากเห็นความเป็นไลฟ์มากกว่า ณ ปัจจุบันนี้นะคะ แต่เด็กรุ่นใหม่ๆ บางคนก็รู้จักเพลงช่านะ คือกลุ่มแฟนคลับเรากว้างมาก เราก็รู้สึกดีใจว่าเขายังรู้จักเพลงของเราอยู่” มาช่าบอก 

         ถามว่าห่างจากคอนเสิร์ตของตัวเองไปนานแค่ไหน

         “ก็เป็น 10 ปีนะ  แต่ก็ไปแจมกับคนอื่นเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ ช่าก็ทำหลายอย่าง ละครด้วย ปีที่แล้วก็ไปทำเดอะเฟซด้วย ก็เลยไม่ได้ซีเรียสมาก ก็ถ้ามีจังหวะช่วงไหนที่เหมาะก็ค่อยทำ (ปีหน้าจะมีโอกาสเห็นงานละครมากขึ้นไหม)  ก็มีคุยกันแล้วนะ  แต่ตอนนี้โฟกัสทีละเรื่อง แต่ละครช่ายังไม่อยากจะพูดอะไรมาก เอาคอนเสิร์ตนี้ก่อนดีกว่า แต่มีคุยละครไว้ แต่จะใช่ของแกรมมี่หรือเปล่าเอาไว้ให้ชัวร์ก่อนดีกว่า”มาช่ากล่าว 

        ถามถึงเคล็ดลับดูแลรูปร่างยังแซบเสมอ

       “คือมันเป็นหน้าที่ไปแล้วเนอะ บางทีก็รู้สึกว่ามันชินกับตัวเองไปแล้ว เราทำจนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว เลยเป็นคนดูแลตัวเอง ไปสปา ทานอาหารก็ต้องเลือก และเราเองก็ไม่ใช่เป็นคนที่ชอบกินไปซะทุกอย่างด้วย และออกกำลังกายด้วย มันเลยกลายเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว (คนมาถามเคล็ดลับเยอะไหม) ถาม แต่ช่ายอยากจะบอกว่าก็ไม่ได้ไปทำอะไรนะ บางคนบอกว่าไปทำศัลยกรรมอะไรหรือเปล่า คือจะบอกว่ากลับไปดูหน้าช่าตอนเด็กได้นะ หน้าช่าก็อย่างนี้นะ เราเองดูก็ยังคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรแตกต่าง เราก็สวยตามวัยของเรา (หัวเราะ) ถามว่านอยด์ไหมคนมาทักแบบนี้ ไม่หรอก ช่าก็ขำ หน้าเราเปลี่ยนไปตอนไหน แต่มันคงเป็นเพราะอายุ แต่เราก็สวยตามอายุนะ (ยิ้ม) (เมื่อก่อนคนจะมองว่าปาร์ตี้เยอะ เดี๋ยวนี้ดูแลตัวเองมากขึ้นไหม)  มันก็มีบ้างตอนเด็กๆ ทุกคนก็เป็นหรอก เด็กๆ จะไปอะไรมาก มันก็มีบ้างชอบเที่ยว ชอบสนุก ก็เพราะจากเด็กๆ นี่แหละถึงสร้างความสัมพันธ์กับพี่แอม (เสาวลักษณ์ ลีละบุตร) มาได้ เรียกว่ามันเป็นวัย แต่เดี๋ยวนี้ถามว่าจะเป็นอย่างเมื่อก่อนมั้ยช่าว่าไม่แล้ว เพราะเราผ่านมาเยอะแล้ว เราก็ทำงานดีกว่า ทำอะไรที่มันเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า เพราะไอ้ที่ผ่านๆ มาเราเต็มที่กับมันหมดแล้ว เราก็เฉยๆ แล้ว แต่ไม่ถึงขนาดงดปาร์ตี้หรอก แต่ก็ไม่ถึงขนาดเมื่อก่อน เพราะเราเฉยๆ แล้ว เรารู้จุดเริ่มต้น รู้จุดจบ คือมันเข้าใจแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าเราควรดูแลตัวเอง แต่ถ้ามีวันไหนที่เพื่อนๆ ชวนบ้างก็ไป”นักแสดงสาวแจง 

        ถามถึง น้องกาย (ชัยธรรศ ลำพูน) ทำอะไรอยู่บ้างหลายคนคิดถึง 

       “ก็ปกติดีนะ  คือชิลๆ ก็มีเรียน มีทำอะไรของเขาไป ช่าก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาอยู่กับสิ่งที่ช่าทำงานตรงนี้มาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า เขาก็เลยรู้สึกไม่ได้สนใจว่าอยากจะเป็นนักแสดง อยากเป็นดารา แต่อาจจะไม่ถึงกับไม่อยากกลับมาเป็นนักแสดงหรอก หรือเลือกที่จะไม่ทำขนาดนั้นหรอก  แต่ถ้ามันมีอะไรที่เขาสนใจเขาก็ทำ อาจจะเป็นเพราะว่าช่าพาลูกไปทุกที่ สมัยก่อนหลังเวทีคอนเสิร์ตนี่วิ่งเล่นกันตลอดเวลา เหมือนกายไม่ได้เห็นว่ามันเป็นเรื่องแปลก ไม่ได้้เห็นว่ามันเป็นเรื่องตื่นเต้นหรืออะไร ตอนนี้เขาก็โฟกัสกับสิ่งที่เขาอยากทำ ช่าก็ไม่ค่อยตามว่าทำอะไรยังไง เพราะเขาก็โตแล้ว เรารู้สึกว่าพอมากไปแล้วมันตลก ถ้าตอนเขาเด็กๆ เราโอเคนะ แต่พอเขาโตแล้วเราก็ต้องปล่อยให้เขาไปเรียนรู้ เขาอยากทำอะไรก็ว่ากันไป นานๆ บางทีก็โทรหากันบ้าง ก็ดูอยู่ห่างๆ เพราะตอนเราอายุเท่านี้ก็ต้องย้อนกลับไปคิดนะ พ่อแม่ตามตลอดก็เบื่อนะบางที ช่าเองบางทีก็ต้องกลับไปคิดนะ ตอนเราอายุเท่านั้นเราคิดยังไง เรารู้สึกยังไงในวัยนั้น แต่ช่าด้วยความเป็นแม่ก็จะเป็นห่วง จะห่วงนั่นห่วงนี่ กายก็จะบอกว่าแม่อย่าห่วงเยอะ เราก็กลับไปย้อนคิดว่าเออใช่ตอนนั้นปู่ก็หวง เพราะพ่อชอบหวง แต่เรารู้สึกว่าเราโอเค ถามว่าเขาขอไปอยู่เองข้างนอกเหรอเปล่า  ไม่หรอกนะ  ก็ไปๆ มาๆ เขามีคอนโดของเขาด้วย ก็เป็นส่วนตัวไป แล้วก็กลับมาบ้านบ้าง ให้เขาอยู่เองบ้าง ช่าก็รู้สึกว่าดี เราก็ไม่อยากเป็นแม่ที่ติดลูกตลอดเวลา ช่าก็มีมุมส่วนตัวของช่าเหมือนกันนะ (หัวเราะ) บางทีต่างคนต่างอยู่บ้างก็ดี (ยิ้ม) ก็ให้อิสระเขา เพราะเขาโตแล้ว 20 กว่าแล้ว ช่าก็ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ส่งเรียนหนังสือ ทำอะไรต่ออะไร คือตอนนี้เป็นเรื่องที่เขาต้องเดินทางเองแล้ว และพอถึงจุดหนึ่งถ้าเขามีอะไรก็จะมาปรึกษาช่าเอง แต่ช่าจะไปล้วงถามว่ามีอะไรอย่างไร”

        ถามว่าสิ่งที่กังวลที่สุดในตัวลูกชายคนนี้ 

         “คำถามนี้ขอตอบแทนแม่ทุกคนเลยว่ามันไม่มีการหมดสัญญา มันไม่ได้มีหมดอายุนะ จะให้ลูกอายุเท่าไหร่ก็ตาม ถ้ามันรักและเป็นห่วงแล้วมันก็ห่วงอยู่นั่นแหละ มันเป็นความรักที่ตอบไม่ได้ แม่ทุกคนจะเข้าใจ (เรื่องสาวๆ ล่ะ)  ช่าไม่ค่อยอยากคิดมากหรอก เพราะช่ารู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของเขา เราจะไปบังคับว่าต้องรักคนนี้ ต้องรักคนนั้น เอาจริงๆ ตอนช่าเป็นเด็กช่าก็ไม่ชอบให้ใครมาบังคับแบบนี้เหมือนกันนะ มันเป็นไปได้เหรอ บางทีเราไม่ได้รักแล้วทำไมเราจะต้องทำอย่างนั้น ฉะนั้นช่าก็ทำใจค่ะ ชีวิตทุกอย่างอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ก็พยายามมีสติกับชีวิตทุกๆ วัน อะไรบางอย่างถ้ามันจะเกิดขึ้นเราก็สู้กับมัน ถ้ามันดีก็โอเค แต่ถ้าไม่ดีเราก็แก้ไขมัน”

        ถามว่าน้องกายมีพาสาวๆ มาให้ดูบ้างหรือยัง

        “จะให้ช่ามาบอกความลับของลูกเนี่ยนะ (หัวเราะ) ลูกช่าผู้ชายนะ ก็มีบ้าง (หัวเราะ) แต่อันนี้ช่าก็ตอบไม่ได้ว่าจะยังไงแบบไหน ชีวิตเขา เขาก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ช่าเองเวลาผ่านอะไรมาก็ต้องผ่านด้วยตัวเอง โตแล้วก้ต้องเดินทางต่อไป เราก็มีหน้าที่ประคับประคอง ช่วยกันไป รัก แต่เราไม่สามารถไปเดินแทนเขาได้”

        แล้วความรักของมาช่าในตอนนี้ละเป็นอย่างไรบ้าง 

        “ความรักของช่าเหรอ ยังมีเรื่องนี้อีกเหรอ (หัวเราะ) ไม่รู้สิ ช่ารู้สึกว่าช่าผ่านมาเยอะมาก เฉยๆ แล้ว แต่ไม่ใข่ว่าปิดประตูกั้นจะไม่เอาใครไม่สนใจนะ แค่รู้สึกว่าถ้าจะเจอก็เจอ ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าต้องหา ตอนนี้ก็ยังไม่มีใคร ไม่ต้องห่วง ถ้ามีช่าเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้ว  (ยิ้ม) บอกอยู่แล้ว จะปิดทำไม มันปิดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น เราก็ผ่านอะไรมาพอสมควรแล้ว ถ้าจะมีชะตาอะไรที่จะต้องเจอก็ให้มันเป็นไป ไม่ไปขวนขวายอะไรแล้ว ไม่มีก็อยู่ได้ บางทีก็สบายใจด้วยนะ ไม่ต้องมีใครมาโทรตาม ไม่ต้องมีใครมานั่งอ้อนไปอ้อนมา บางทีเราก็ดูนิ่งๆ ดี แต่อารมณ์เหงาน่ะมีบ้าง แต่เราก็ต้องพยายามอยู่กับมันให้ได้ เคยได้ยินคำว่า อยู่คนเดียวแสนสบายแต่ไม่สนุก แต่สองคนแสนสนุกแต่ไม่สบาย หรือ รักสนุก ทุกข์ถนัดอะไรอย่างเนี้ย (หัวเราะ) มันก็จะมีแบบนี้ ได้อย่างเสียอย่าง ก็เลยคิดว่าถ้าอยู่อย่างนี้แล้วเราสบายใจกว่าก็โอเค แต่ถ้าจะต้องเจอก็ขอให้เจอที่มันเข้ากันได้และดี (ยิ้ม)”มาช่ากล่างปิดท้ายอย่างอารมณ์ดี