บันเทิง

สัมภาษณ์ข้ามประเทศ “นุช” คู่กรณีกองถ่ายละคร “ทิวลิปทอง”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

  “นุช” คู่กรณี กองถ่ายละครเรื่อง “ทิวลิปทอง” พร้อมเดินทางกลับไทย 28 พ.ย. นี้ เดินหน้าเข้าช่อง 7

         หลังจากก่อนหน้านี้  ทาง “บันเทิง คมชัดลึก” ได้นำไลฟ์สดของเจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "จีรนุช กิ๊ฟช๊อป" ได้ทำการไลฟ์สด เพื่อระบายความในใจที่อัดอั้น หลังจากที่ได้ร่วมงานกับกองละครเรื่อง  "ทิวลิปทอง"  ของ ”ฉลอง ภักดีวิจิตร“  ที่ยกทีนักแสดงและทีมงานไปถ่ายทำกันถึงประเทศเนเธอร์แลนด์    ล่าสุด ”บันเทิง คมชัดลึก"ได้ติดต่อสัมภาษณ์ข้ามประเทศกับ “คุณนุช”เจ้าของเฟซบุ๊ก เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวที่ทั้งหมด ได้ความว่า  

สัมภาษณ์ข้ามประเทศ “นุช” คู่กรณีกองถ่ายละคร “ทิวลิปทอง”

          “กับเรื่องที่เกิดนุชบอกก่อนว่าไม่ต้องการทำลายชื่อเสียงของอา (ฉลอง) นะ นุชรักอา แล้วแฟนนุชบอกว่ามีิอะไรเราก็ต้องช่วยอานะ ทีมงานเดินทางมา 35 ชีวิตไม่มีอะไรกันมาเลย มาแต่กองถ่าย นุชรู้สึกว่าอ้าว คุณไม่ทำการบ้านมากันเลยหรือ มาเมืองนอกคุณต้องมีใบอนุญาติการถ่ายทำ ไม่มีอะไรมาเลย นุชเห็นอาฉลองมาตั้งแต่เด็กๆ เราเห็นหนังอาแล้ว ที่ปิ้งไก่อะนะ เราผูกพันกับอา เราต้องช่วยอา ๆ เป็นคนดัง พอแฟนนุชเห็นว่าอาไม่มีใบอะไรมาเลย ยิ่งต้องช่วย เพราะว่าไม่มีใครช่วยอาด้วย การที่นุชช่วยเขาไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะ แต่หลังจากที่เขากลับไปแล้ว เขาน่าจะส่งสารกลับมาหาเราบ้าง เพราะว่าเรามีปัญหามากมายกับบ้านในแต่ละหลังที่ใช้ถ่ายทำ นุชทำอิมพอร์ตเอ็กซพอร์ต  นำทิวลิปส่งกลับไปที่ประเทศไทย แล้วนำเข้าสินค้าไทยกลับมายังประเทศเนเธอร์แลนด์  ซึ่งชีวิตนุชต้องผูกพันกับเจ้าของบ้านในแต่ละหลังที่นี้ ทางเจ้าของบ้านเขาไม่พอใจเขาต่อว่า เขาบอกว่านี้หรือเขาได้ ต้องบอกดูที่ขึ้นขอบคุณมันมีแค่ 1 แถวจริงๆ ซึ่งอามาสัญญาในบ้านแต่ละหลังว่าให้โลโก้นะ ขอบคุณเป็นการส่วนตัวนะ ให้บินไปเมืองไทย ให้ออกรายการทีวี วันที่ยังรักกันอยู่ เขาสัญญากับเรามากมาย ในวันที่เขากลับไป นุชไม่สามารถติดต่อเขาได้ นุชมีบิลค่ามอเตอร์ไซค์ 1050 ยูโร นุชไลน์หาภรรยาของอา เขาบล็อคไลน์นุช ทุกช่องทาง จะให้นุชทำอย่างไร”

         ถามว่าลึกๆ แล้วสิ่งที่ต้องการคือ..

          "นุชแค่ต้องการให้เขาติดต่อกลับมาบ้าง ติดต่อกันตามปกติ ถ้าพูดเป็นภาษาไทย ให้เขารู้ว่าเราเป็นคนช่วยเขา ก่อนที่เขาจะกลับไป ภรรยาของอา คุณพิม (พิมพ์สุภัค อินทรี)เราสองคนก็คุยกันทุกวันนะ เป็นเหมือนพี่น้อง อีกอย่างหน้าเขาเหมือนนุชเลย แต่พอเขากลับไทย เขาเป็นอีกคาแรตเตอร์หนึ่งเลย ไม่คุยกับนุชเลย นุชต้องการฟิลลิ่งที่ว่าพอกลับเมืองไทยเรายังเป็นพี่น้องกัน ไปมาหาสู่กันได้ ทำไมกลับไปแล้วไม่ติดต่อ โกรธนุชเรื่องอะไรซึ่งถ้าถาม เขาโกรธนุชเรื่องปืนนะ ริชาร์ด(สามีนุช) เป็นคนการันตรี การใช้ปืนปลอมทีนี้แรงมากนะ แล้วทางอาไม่มีอะไรมาเลย แฟนนุชเป็นคนที่วิ่งทุกจุดในละครเรื่องนี้ ถ้าถามว่าหากต้องขึ้นศาลก็พร้อมให้ทางคมชัดลึกได้ดูเอกสาร ว่าเราเป็นเจ้าของใบอนุญาติ แล้วทุกครั้งละครของอาจะต้องยิ่งกัน ที่ทุ่งทิวลิปตลอด และทุกครั้งต้องมีตำรวจของเนเธอร์แลนด์อยู่ตรงนั้น แล้วริชาร์ดจ่ายค่าบริจาคให้กับสโมสรตำรวจของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทางนุชก็ไม่เคยเงินตรงนี้จากอานะ นุชมองว่ามันเป็นการทำงาที่ทำให้งานสะดวกขึ้น   แล้วฉากที่ถ่ายทำที่สนามบิน  ต้องย้อนกลัยไปก่อนว่า ก่อนที่อาจะมาถ่ายทำฉากที่สนามบิน  เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนที่อาจะมาถ่ายทำได้มีการวางระเบิดที่ สนามบินในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม  ซึ่งแน่นอนว่าทางสนามบินที่เนเธอร์แลนด์ก็ต้องคุมเข้มหนัก เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบครั้งนั้น แล้วอาไม่ยอม บอกกับริชาร์ดต้องหาทางช่วยให้ถ่ายฉากที่สนามบินให้ได้ ซึ่งมันเป็นฉากจี้พระเอกขึ้นแท็กซี่แล้วเอาปืนปลอมไปใช้ตรงนั้น เขาไม่เห็นหน้าริชาร์ดเลยว่า คนที่การันตรีหัวจะขาดขนาดไหน" 

       หลังจากที่ไลฟ์สด เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา  ทางกองถ่ายได้ติดต่อกลับมาหาไหม 

        "ไม่เคย ไม่มี แต่มีคนเดียวที่สามารถติดต่อได้คืออาร์ต (ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์)เพราะว่าตั้งแต่นุชไม่ได้คุยกับอา ก็มีคุณอาร์ตที่มีอีเมล์ริชาร์ดมีเบอร์โทรศัพท์ของนุช แล้วเขาติดต่ออยู่กับคนๆ เดียวก็คือคุณมาตินที่ก่อนหน้าเป็นฑูตเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนนี้่ย้ายไปอยู่โปแลด์แล้ว   คุณมาตินก็บอกว่าเขาไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้ว   สำหรับนุชมองว่าการช่วยเหลือคนไม่จำเป็นต้องใช้เงิน  แต่ต้องซื้อใจ      ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คุณไม่เคยติดต่อกลับมาหาเราเลย  แล้วริชาร์ดไปทราบมาว่า ทางช่อง 7  ให้เงินมา 11 ล้านแต่กลับมาบอกเราว่าไม่มีเงิน มีแค่ 4 ล้าน นั่นคือจุดเปลี่ยน ทำไมต้องโกหก คุณถือเงินมา 11 ล้าน  คุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มีค่าเครื่องบินที่บินมา 30 กว่าคน บ้านเช่า รถทัวร์ลิ่งคาร์ที่ไว้ใช้ ค่าอาหารที่ต้องทานกันเอง นอกนั้นมีค่าใช้จ่ายอะไรแล้ว  แล้วที่เขาโกรธริชาร์ดและโยนความผิดให้ริชาร์ดก็คือ เอาสแตนอินราคา 2700 ยูโร  แต่เรื่องสแตนอินไม่ได้มีการติดต่อกับริชาร์ดนะ คุณอาร์ตเป็นคนติดต่อตั้งแต่อยู่เมืองไทยเลย   คุณอาร์ตบอกว่าต้องใช้มืออาชีพเล่น แต่เวลาจ่ายเงินปุ๊บราคาตีเป็นเงินไทย ประมาณแสนบาทหน่อยๆ "  

สัมภาษณ์ข้ามประเทศ “นุช” คู่กรณีกองถ่ายละคร “ทิวลิปทอง”

        ถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทางคุณนุชมีเรื่องอะไรบ้าง 

         “มีปัญหากับทางเจ้าของบ้านที่อาใช้ถ่ายทำ  เขาบอกกับนุชว่าทำอย่างไรก็ได้ให้มีโลโก้ขึ้นมา  ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือแถวเดียวตรงนี้ เราติดต่อทางอาฉลองไม่ได้มา 2 ปีแล้ว เขาไม่เคยคุยกับเรา แม้กระทั้งค่ามอเตอร์ไซค์ดูคาติ  3 คัน เขาให้แฟนนุชไปเช่ามา  แล้วมาใช้ถ่ายทำในทุ่งทิวลิปและล้มกันหลายแทคมาก   มอเตอร์ไซค์มีรอย มีค่าซ่อมสี  1050 ยูโร เราส่งเมลล์ไปบอกเขาว่าเขามีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย  เราต้องจ่าย ซึ่งเนเธอร์แลนด์ถ้าเราไม่จ่ายเงิน บิลมันจะขึ้นมาเรื่อยๆ มันจะมีบริษัทเก็บหนี้” 

        ถามตรงๆ มองเรื่องของการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางกองถ่ายไหม 

       “คิดนะ ถ้าเขาเป็นอย่างนี้นะ แต่เขาเคยไปพูดกับหลายๆ คนว่ามีผัวเมียคนไทยที่ฮอลแลนด์ต้องการแบล็คเมล์เขา   แต่ข่าวยังไม่ดัง แล้วถามว่าจะมาแบล็คเมล เรื่องอะไร เราช่วยคุณมาขนาดนี้แล้วเราไม่เคยเรียกร้องเงินจากคุณนะ  (ถามว่าเดดไลน์ไหม) ต้องก่อนละครจบนะ เขาต้องรู้สึกว่า เราช่วยเขามา เราช่วยเขาโดยความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ  เราไม่ต้องการอะไรจากเขา แต่ตลอด 2 ปี เขาไม่เคยสนใจ เราเลย  เขาคิดว่ามันจบไปแล้ว  แต่ชีวิตของนุชต้องทำงานกับพวกเจ้าของบ้านในแต่ละหลังที่นี้อีกต่อไป  แล้วทางนั้นเขาขีดเส้นใต้มาว่าต้องมีโลโก้ของฉันขึ้น” 

สัมภาษณ์ข้ามประเทศ “นุช” คู่กรณีกองถ่ายละคร “ทิวลิปทอง”

         ผู้สื่อข่าว “คมชัดลึก” ถามว่ามีโอกาสเดินทางกลับมาเมืองไทยไหม 

         "นุชจะเมืองไทย วัันที่ 28 พ.ย.  ถามว่าจะมาที่ช่อง 7 ไหม นุชไปอยู่แล้วนะ แล้วเราก็ถามทางช่อง 7 เขาบอกว่าอาจัดการแล้ว เราติดต่อช่อง 7 ไปหลายครั้ง เพื่อถามถึงเรื่องของโลโก้ ทางช่องไม่มีคำตอบอะไร เงียบ เราเข้าใจว่าช่อง 7 จ่ายเงินไปแล้ว   (กับอาฉลองล่ะ คิดว่าจะไปหาไหม) พร้อมไปหา เราไม่เคยอายนะ ทั้งๆ ที่เขาสามารถคุยกับนุชได้ตลอดเวลา แต่กลับไม่ทำ อยากถามวานุชผิดอะไร  จริงๆละครเรืื่องนี้ หน้าที่นุชคือหาแค่ทุ่งทิวลิปเท่านั้นเอง แต่นุชช่วยทำทุกอย่าง" 

        ถามว่าหากทางทีมงานพร้อมแก้ไขและขึ้นโลโก้ต่างๆ ตามที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ทุกอย่างจะคลี่คลายลงไหม 

         “ใช่ถือว่าสบายใจนะ  แต่นุชอยากให้เขาเห็นใจเราบ้างนะว่าเราทำงานตรงนี้ต่อไป  คนเราให้น้ำใจกลับไป แต่ไม่ได้กลับมาเลย  นุชแค่เสียใจ   แล้วการที่คุณเอาปืนปลอมมาเล่น มันผิดกฎหมายที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ร้ายแรงมาก เราเตือนเขาแค่นี้เอง เขาพยายามเซฟเงินของเขา เท่าที่นุชรู้เขาเบิกค่าใช่้จ่ายทุกอย่างหมดแล้ว ทุกค่าเขาได้มาหมดแล้ว แต่เขาไม่เคยมาจ่ายเรา ยืนยันว่าไม่เคยได้เงินเขาเลย ในวันที่ถ่ายทำที่บ้านต่างๆ อาเอส (กรุง ศรีวิไล) ยังถามว่าค่าเช่าถ่ายทำเท่าไหร่ นุชบอกว่าฟรี อาเอสยังตกใจเลย เพราะถ้าเป็นเมืองไทย ถ้าถ่ายทำก็ต้องเสียเงินค่าเช่าเลย ตลอด 3 อาทิตย์ในการถ่ายทำ เขาไม่ได้ใช้เงินค่าโลเคชั่นเลย ที่จ่ายเงินจริงๆ ที่สนามบินต้องเสียเงินค่าสนามบินไป 2 พันกว่ายูโร และที่กังหันลมก็ต้องเสีย 100 ยูโร เพราะว่าเราไม่มีคอนเนคชั่น "  

สัมภาษณ์ข้ามประเทศ “นุช” คู่กรณีกองถ่ายละคร “ทิวลิปทอง”

         สุดท้ายอยากส่งสารอะไรไปถึงฉลอง ภักดีวิจิตร 

         “ ทีมงานน่ารักทุกคน แต่นุชแค่น้อยใจอาเท่านั้นเอง พอกลับไปแล้ว ไม่รู้จักเราเลย อยากให้เขาคิดว่าเราทำอะไรผิด ที่ช่วยกันมาไม่เคยขอเงินเลยนะ แต่ปัญหาต่างๆ ที่เขาทิ้งให้นุชมันใหญ่โตมาก”  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ