“ณฉัตร” กวิยณัฎฐ์ แฮร์มันน์ พร้อม “มังกร” ปภาวิน หงษ์ขจร ซึมซับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผ่านมากว่า 1 ปี...กับความสูญเสียครั้งยิิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย...ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้า หลายต่อหลายคนหาวิธีที่จะเยียวยาความรู้สึก เช่นเดียวกันกับ 2 นักแสดงอย่าง “ณฉัตร” กวิยณัฎฐ์ แฮร์มันน์ กับ “มังกร” ปภาวิน หงษ์ขจร นักแสดงจากช่อง 8 ที่ต้องการมาซึมซับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สำหรับสถานที่นัดหมายครั้งนี้ที่ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ สถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ยุครัตนโกสินทร์ ย่านราชดำเนินโดย ณฉัตร และ มังกร มาถึงที่นัดไว้เวลาใกล้เคียงกัน โดยทั้งคู่มาในชุดสีดำไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อย เมื่อเข้ามาถึงโถงต้อนรับที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เจ้าหน้าที่ออกมาต้อนรับเพื่อพาทั้งสองคนเยี่ยมชมจุดสำคัญๆ ที่ได้บันทึกเรื่องราวของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” เอาไว้
เริ่มต้นกันที่ “อุโมงค์เวลา” ซึ่งบันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ครั้งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และโครงการฝนหลวง โครงการที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างฝนเทียมสำหรับบรรเทาปัญหาความแห้งแล้งขาดแคลนน้ำในการเกษตร ณฉัตรและมังกรยืนอ่านข้อมูลกันอย่างตั้งใจ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ณฉัตรและมังกรพร้อมใจกันกราบพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ณฉัตรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ใจหายมากไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้...” ด้านมังกรกล่าวเสริม “ถึงแม้เวลาผ่านไปนานขนาดไหนเชื่อว่าคนไทยยังคงทำใจไม่ได้อยู่ดี”
ภายในห้องดังกล่าวได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชพิธีที่สำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่นต้นตั้งแต่ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ พระราชพิธีทรงพระผนวช พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเฉลิมพระราชมณเฑียร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ณฉัตรกับมังกรเข้าไปชมยังอีกส่วนหนึ่งของห้องลือระบิลพระราชพิธี ความพิเศษของห้องนี้คือการใช้ข้าวจริงๆ มาตกแต่ง
ณฉัตรหันไปถามเจ้าหน้าที่ถึงความสำคัญห้องดังกล่าว ได้คำตอบว่า “ห้องนี้จัดขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนชาวไทยร่วมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร โปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพื่อชุบชูขวัญกำลังใจให้เกษตรกรไทย ผู้เป็นกระดูกสันหลัังของชาติ จนได้รับพระราชสมัญญาว่าทรงเป็น “เกษตราธิราช” หรือ “กษัตริย์เกษตร” เมื่อเจ้าหน้าที่พูดจบ ณฉัตรค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสรวงข้าว ใบหน้าของณฉัตรคล้ายกำลังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เช่นเดียวกันกับมังกรที่ยืนมองพระบรมฉายาลักษณ์ด้วยสายตาเทิดทูน
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่พามาชมห้องพระราชพิธีรับและสมโภชขึ้นระวางช้าง มีการจำลองช้างเผือก พระราชพาหนะคู่พระบารมีของ “ในหลวงรัชกาล 9” ไว้ให้ชมด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาณฉัตรและมังกรมายังภาพเขียนแห่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เป็นภาพวาดที่ได้รวบรวมเหตุการณ์คืนแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถึงท่าราชวรดิฐ ถ่ายทอดอารมณ์ยามราตรี ด้วยโทนสีน้ำเงิน สีแห่งกษัตริย์ไทย จากธงไตรรงค์
“ภาพนี้เป็นภาพที่มีคุณค่ามากมายเลยจริงๆ เก็บเรื่องราวมากมาย เห็นพลังความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทย” มังกรหันไปพูดกับณฉัตร ด้านนางเอกสาวพยักหน้ารับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเยี่ยมชมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ห้องที่ได้รวบรวมบทสัมภาษณ์ของประชาชนผู้มีจิตใจจงรักภักดีต่อ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ที่ได้กล่าวถึงพระองค์ก่อนเสด็จสวรรคต และเมื่อณฉัตรหยิบหูฟังมาฟังความในใจของปวงชนชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่าน ก็ทำเอาเจ้าตัวต้องพยายามกลั้นน้ำตาอีกครั้ง ด้านมังกรได้เดินชมนิทรรศการจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงกำแพงสีขาวมีรูปเหล่าพสกนิกรมากมาย ด้านบนกำแพงมีตัวอักษรจารึกไว้ว่า “ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” พระราชดำรัสของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” เพียงแค่ได้อ่าน... ความรู้สึกมากมายเอ่อล้นจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดใดๆ ได้
เรื่อง ภัทรวรรณ สุนทรธนานุกูล
ภาพ ประเสริฐ เทพศรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง