‘ฮั่น’ ทุ่มสุดตัวและหัวใจลงในเพลง ‘ร้ายกาจ’ 

        ห่างหายจากงานเพลงไปนานกว่า 3 ปี ล่าสุดนักร้องหนุ่มขาแดนซ์ "ฮั่น" อิสริยะ ภัทรมานพ ขอมาทำความฝันที่มีมาตลอดก็คือการทำเพลง ด้วยการลงทุนปั้นแต่งเพลง “ร้ายกาจ” ออกมาด้วยตัวเอง ซึ่งเพลงนี้ได้ 2 น้องชายสุดที่รักร่วม “เดอะสตาร์ 8” อย่าง “แกงส้ม” ธนทัต  และ “โดม” จารุวัฒน์ มาร่วมแท็กทีมช่วยงาน โดยฮั่นได้เล่าถึงการทำงานเพลงนี้ให้ฟังว่า
        “จุดเริ่มต้นของเพลง “ร้ายกาจ” คือผมเองก็ห่างหายจากงานเพลงไปนาน ก็เลยคิดว่าถึงเวลาที่จะมีเพลงใหม่ของตัวเองสักที ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง ทั้งร้องทั้งเต้น ครั้งนี้ผมก็เลยตั้งใจที่จะทำเพลงให้ออกมาเป็นตัวเราเองมากที่สุด และเพลงนี้ผมได้ลงมือทำเองทุกขั้นตอน เริ่มจากวางคอนเซ็ปต์เพลง ซึ่งผมอยากนำเสนอแง่มุมความรัก พอผมได้ไอเดียแล้ว ก็เลยชวนแกงส้ม (ธนทัต)  มาแต่งเนื้อร้องให้ ส่วนทำนองก็เป็นฝีมือของโดม (จารุวัฒน์) ที่เลือกโดม เพราะเป็นคนที่ร้องเพลงเก่ง และเป็นคนฟังเพลงเยอะมาก เขาเป็นคนมีเมโลดี้ในหัวค่อนข้างเยอะ และโดมก็ช่วยดีไซน์เพลงนี้ออกมาเป็นสไตล์ป๊อป ผสมผสานฮิพฮอพและแทร็ป เรียกว่าเป็นธุรกิจครอบครัว (หัวเราะ) การที่ให้โดมมาช่วยทำ ผมยอมรับว่าเพลงของผมค่อนข้างเป็นเพลงเฉพาะกลุ่ม การที่ได้โดมมาช่วยทำ มันทำให้เพลงนี้ มีความป๊อปมากขึ้่น ซึ่งโดมเขาก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีมากๆ ก่อนหน้าจะมาให้แกงส้มแต่ง ผมมีคนแต่งเพลงนี้มีประมาณ 4 คน แต่ผมยังไม่โอเคกับที่แต่งมา ไม่ใช่เพราะเขาแต่งมาไม่ดีนะ แต่แค่เรารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ตัวเรา แต่แกงส้ม คือผมไม่ได้ไปบอกเขาว่าแต่งให้หน่อยดิ จนอยู่มาวันหนึ่งเขาคงทนไม่ไหวที่งานเพลงผมไม่เสร็จซะที (หัวเราะ) เขาก็เดินมาบอกว่าวันนี้ผมแต่งเนื้อให้พี่ พี่ลองฟังแล้วกัน แล้วพอครั้งแรกที่ผมฟังของแกงส้ม ผมรู้สึกว่ามันใช่เลย ส่วนที่รู้สึกว่าใช่เลย คือแกงส้มอยู่กับผมมา ในหลายช่วงชีวิตที่เราประสบพบเจออะไรต่างๆ การที่เขาอยู่กับเรา เขาจะรู้เลยว่าเราเป็นยังไง” นักร้องหนุ่มเล่า

        ก่อนจะเสริมว่า เพลงนี้มีการบอกถึงความเป็นตัวของเขาเองมากที่สุดเท่าที่เคยทำเพลงมา เพราะด้วยเหตุที่ว่าคนจำภาพลักษณ์ของฮั่นเป็นผู้ชายแบดบอย เลยทำให้คิดว่าถ้าเอาตรงนี้มาต่อยอด ทำให้คนเข้าถึงตัวเขามากขึ้น 
        “เพลงนี้ผมทำเองทุกขั้นตอนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทำให้เพลงนี้เป็นตัวตนของผม 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างแกงส้มเป็นคนแต่งเนื้อร้องให้ แต่เขาก็แต่งมาจากตัวผม และผมเองก็ช่วยให้คำและเนื้อร้องต่างๆ มันเป็นตัวผมมากที่สุด ผมลุยเองหมดทุกบาททุกสตางค์ (ยิ้ม) ถามว่าช่วงที่ทำงานมันมีเหนื่อย มีท้อบ้างไหม ผมว่าทุกคนมีเป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยเป้าหมายของผมค่อนข้างชัดเจน กระแสตอบรับที่กลับมาก็ถือว่าโอเค เพราะอย่างเพลงนี้มีคำที่จำอยู่ และมีการเน้นความสนุกของดนตรี ต้องบอกก่อนว่าโจทย์แรงของการทำเพลงนี้ คือผมรู้สึกว่าผ่านมา 3 ปีแล้ว ควรจะมีเพลงของตัวเองได้แล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราไปขึ้นเวทีเดียวกับศิลปินที่เราต้องไปร้องเพลงเขา (หัวเราะ) มันก็จะเขินๆ หน่อย แต่มันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเรามีเพลงของตัวเอง มันก็จะดี มันก็จะเวิร์ก ความน่าสนใจมันต่างกัน เพราะเวลาไปดูคอนเสิร์ต ถ้าเป็นเจ้าของเพลงมาร้องให้ฟังมันได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราอยากได้ความรู้สึกแบบนั้น” ฮั่นกล่าว