บันเทิง

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พูดคุยกับ “ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

         เริ่มออนแอร์ไปแล้ว สำหรับซีรีส์รีเมคชื่อดัง เรื่อง “CriminalMinds” โดยเวอร์ชั่นเกาหลี นำแสดงโดย ลี จุนกิ, ซน ฮยอนจู, มุน แชวอน ฯลฯ โดยซีรีส์ได้ออนแอร์ตอนแรกไป ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางช่อง tvN วันนี้ได้นำบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของหนุ่ม ลี จุนกิ ที่ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Vogue Korea มาบอกเล่าให้แฟนๆ รู้จักนักแสดงหนุ่มคนนี้มากขึ้น

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ คุณเป็นแฟนซีรีส์เรื่องนี้หรือเปล่า

         ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นแฟนนะ แต่ผมก็สนุกกับการรับชม และตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายซีรีส์เรื่องนี้ บอกตรงๆ ว่าผมรู้สึกกดดันนิดหน่อย เพราะเวอร์ชั่นเดิมของเรื่องนี้มีแฟนๆ ติดตามอยู่มากมาย ในเวอร์ชั่นเกาหลี ซีรีส์จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในแง่มุมที่ต่างกัน อย่างเช่น ในเวอร์ชั่นอเมริกา ซีรีส์จะเน้นหนักไปที่การสืบสวนสอบสวน แต่ในเวอร์ชั่นเกาหลีเราจะรวมเอาเรื่องราวต่างๆ ของตัวละครและเรื่องราวในชีวิตเข้าไปด้วย อันนี้เราจะต้องระมัดระวังมากเลย เพราะอาจทำให้เราหลุดออกนอกเรื่องจากต้นฉบับไปแบบที่เราไม่ตั้งใจ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องใช้เวลากันอย่างมากในการนั่งคิดวางแผนว่าเราจะถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี่ออกมาอย่างไร

@ ในซีรีส์เรื่องนี้คุณแสดงเป็นตัวละครชื่อ คิม ฮยอนจุน ซึ่งดูเหมือนจะมีตัวละครตัวนี้ในเวอร์ชั่นเดิม

         ตัวละครตัวนี้ ไม่มีอยู่ในเวอร์ชั่นเดิมนะ ตัวละครตัวนี้แตกต่างจากตัวละครอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกทีมสอบสวนพิเศษของ NCI ฮยอนจุน เป็น profiler ซึ่งเป็นตัวละครที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป เป็นตัวละครธรรมดา ที่เห็นได้ในซีรีส์หลายๆ เรื่อง ผู้ชมละครจะเข้าใจตัวละครในทีมสอบสวนทั้งหมดผ่านตัวละครฮยอนจุน

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ คุณแสดงซีรีส์เรื่องนี้ เพราะ ซน ฮยอนจู อยากทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้เจอเขาครั้งแรก

         ผมบอกเขาว่า ผมตัดสินใจที่จะเข้าร่วมซีรีส์นี้เพราะเขา และเขาบอกผมว่า อย่าพูดอะไรไร้สาระแบบนั้น (หัวเราะ) แต่มันเป็นเรื่องจริงนะ ที่เขาเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ผมตัดสินใจร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ผมมักจะรอคอย และอยากเรียนรู้เสมอกับการทำงานร่วมกันกับนักแสดงต่างๆ ผมรู้สึกว่า เหตุผลที่ผลงานส่วนใหญ่ของผม มีผลงานออกมาดี เป็นเพราะมีการทำงานร่วมกันที่ดีกับรุ่นพี่ๆ ครับ รุ่นพี่ซน ฮยอนจู บอกกับผมเสมอครับว่า เขาจะช่วยเหลือผมทุกทางที่เขาทำได้ และเขาบอกนักแสดงใหม่ๆ ทุกคนว่า “ทำงานในแบบของคุณไป ทำไมคุณจะต้องคอยฟังคนรอบข้างตัวคุณพูด และทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ตัวละครที่คุณคิดขึ้นเองในแบบของคุณเอง คือสิ่งเดียวที่สำคัญ” ผมรู้สึกได้ว่า เขามั่นใจในนักแสดงทุกคนที่แสดงด้วย และแน่นอนเขาเชิญนักแสดงทุกคนไปสนุกกัน และดื่มกันตลอดเวลา ผมคิดว่าเราเข้ากันได้ยอดเยี่ยม เมื่อตอนที่เราดื่มด้วยกัน รุ่นพี่จะใช้โอกาสในช่วงดื่มกันนี่แหละ ที่จะคุยกันถึงเรื่องที่กังวลใจอยู่ถึงเรื่องอนาคต โชคดีครับที่ผมก็เป็นคนเช่นนั้นเหมือนกัน (หัวเราะ)

@ อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาพร้อมทักษะและฝีมือทางด้านการแสดง

         ผมรู้สึกว่า ถ้าผมเกิดมาพร้อมทักษะ และฝีมือในด้านการแสดง เมื่อผมพบเจอความยากลำบากหรือปัญหาต่างๆ ผมควรที่จะใช้เวลาแค่วันหรือสองวันในการแก้ปัญหา แต่ในความเป็นจริง ผมต้องใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์หรือครึ่งเดือนกว่าที่จะแก้ปัญหานี้ได้ และทำให้คนดูละครพอใจได้ ซึ่งเหตุผลและความรู้สึกนี้แหละ ที่ทำให้ผมต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาฝีมือการแสดงของผม ตอนที่ผมอยู่ในกองถ่าย ผมไม่ควรที่จะโฟกัสที่ตัวผมคนเดียว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจำเป็นที่จะต้องเดินไปด้วยกัน ผมก็เลยรู้สึกว่า ผมควรที่จะทำให้กองถ่ายสนุกสนานเพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการแสดง

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ คุณได้รับการยอมรับด้านการแสดงแอ็กชั่น คุณเกิดมาพร้อมทักษะด้านนี้หรือ

         ไม่ครับ นั่นเป็นผลจากการทำงานหนักตลอดช่วงเวลาการเป็นนักแสดงของผม เมื่อผมตัดสินใจว่า ผมจะเป็นนักแสดง ตอนนั้นผมไม่รู้อะไรเลย ผมวิ่งวุ่นไปทั่ว เพื่อที่จะเรียนรู้อะไรบ้าง และในตอนนั้น ผมเริ่มฝึกทักษะด้านแอ็กชั่น และก็ได้รับผลสำเร็จบ้าง แม้คนรอบข้างตัวผมมักจะพูดว่า ผมเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง แต่ผมไม่คิดแบบนั้น ทุกๆ ครั้งที่ผมเริ่มงานใหม่ ในวันแรกของการเริ่มถ่ายทำ ผมมักจะรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกของผมในการถ่ายทำละคร แม้ว่าผมจะสามารถเข้าสู่ตัวละครนั้นได้ทันทีจากประสบการณ์ที่มีอยู่แล้ว แต่ในคืนก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำวันแรกมักจะเป็นคืนที่นอนไม่หลับเสมอ ผมจะแสร้งทำว่าไม่ตื่นเต้น

@ เพราะว่าคุณให้ความสนใจกับเรื่องเรตติ้ง ข่าวสาร และปฏิกิริยาในโลกออนไลน์นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คุณทำงานอย่างหนักหรือเปล่า

          รุ่นพี่ของผมทุกคนบอกผมว่า ให้ผมเป็นตัวของตัวเอง อย่าใช้ชีวิตแบกความกังวลไว้มากไป ผมก็บอกพวกเขาว่า ผมทำไม่ได้ เมื่อละครออกฉาย ผมไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้สนใจดูเรตติ้งและปฏิกิริยาสนองตอบของคนดูที่มีต่อละครได้เลย ผมจะมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองทุกครั้งว่า ควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ผลที่ออกมาดีขึ้น ถ้าผมไม่สนุกกับการแสดง มันก็จะไม่มีแรงจูงใจให้ผมพยายามทำงานให้ดีขึ้น โชคดีที่ผมยังสนุกสนานและมีความสุขกับการแสดง ในอีกด้านหนึ่งนะครับ เมื่อผมกลับมาเป็นนายลี จุนกิธรรมดาๆ ที่ไม่ได้แสดง ผมจะรู้สึกเบื่อและเกลียดการไม่ได้ทำอะไร ดังนั้นเมื่อไม่มีการถ่ายทำละครหรือหนัง ผมต้องการที่จะจัดแฟนมีทติ้ง ออกอัลบั้ม และลองทำสิ่งที่แตกต่างบ้าง แทนที่จะมีเวลาว่างๆ ผมอยากที่จะเป็นนักแสดงลี จุนกิ และใช้เวลาของผมหาประสบการณ์ในสิ่งใหม่ๆ อย่างเต็มที่ และสร้างไอเดียใหม่ๆ จากการทำสิ่งที่แตกต่างออกไป

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ ระยะหลังๆ จะเห็นคุณร่วมงานกับภาพยนตร์ต่างประเทศ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณไม่ค่อยเข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์เกาหลี

          เพราะผมใช้เวลามากมายไปกับการแสดงซีรีส์ทางทีวี ทำให้ผมสูญเสียความสัมพันธ์กับผู้คนในวงการหนังใหญ่ไป แต่ผมยังอยากแสดงหนังใหญ่อยู่นะ และอยากเข้าไปทำงานในโปรเจกท์ที่ผมสนใจ ดังนั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ผมจึงกระตือรือร้นและไปพบปะผู้คนในวงการหนังใหญ่และบอกกล่าวให้พวกเขาทราบกันว่าผมยินดีที่จะเข้าร่วมงานและหวังว่าจะได้รับโอกาส ผมไม่แคร์ว่าตัวละครที่เล่นจะเป็นตัวนำหรือไม่ ถ้าผมสามารถจะช่วยโปรเจกท์ไหนได้ ผมเล่นเป็นตัวอะไรก็ได้

@ ตอนนี้ดูเหมือนคุณจะแมนมากๆ ตอนที่คุณเดบิวท์คุณถูกมองว่าเป็นหนุ่มดอกไม้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

         ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ ที่ได้รับการชื่นชมและดังขนาดนั้น ผมรู้สึกว่าผมต้องทำให้จำนวนคนมารักกงกิลเพิ่มมากขึ้น ผู้กำกับในตอนนั้นบอกผมว่า อย่าแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ดังนั้นผมจึงต้องบังคับไม่ให้ตัวตนที่แท้จริงออกมาให้คนเห็น เป็นเวลาประมาณ 2 ปี ที่ผมไม่ได้รับการยอมรับในภาพลักษณ์อื่นๆ ผมรู้สึกกดดันอย่างมาก ในการแบกภาพลักษณ์ของกงกิล ผู้คนเพิ่งจะเริ่มยอมรับในตัวตนผมจริงๆ เมื่อ 7 ปีที่ผ่านไปนี้เอง หลายคนอาจจะมองว่านักแสดงชายที่มองดูมีความเป็นผู้หญิงมาก จะทำให้มีผลด้านลบต่องาน และทำให้ศักยภาพในเลือกบทน้อยลง ผมต้องต่อสู้อย่างมากกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องถือว่าเป็นพรที่ผมได้รับอย่างหนึ่ง มันเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม อาจจะเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี่เองทำให้ผมมุ่งมั่นและโฟกัสไปที่บทแอ็กชั่นอย่างมากเพื่อที่จะได้แสดงให้ผู้ชมได้เห็นด้านที่เป็นผู้ชายแมนๆ ของผม

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ ในฐานะนักแสดง ทราบมาว่าคุณมีรอยแผลเป็นตลอดทั่วทั้งร่างกายจากฉากแอ็กชั่นที่คุณแสดง

         เหตุผลที่ต้องมีสตั๊นต์มืออาชีพสำหรับฉากแอ็กชั่นก็เพราะต้องการที่จะป้องกันตัวเอง มิให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นในกองถ่าย ดังนั้นก็จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมจะต้องมีรอยแผลจากการบาดเจ็บบ้าง เพราะผมเล่นฉากสตั๊นต์ด้วยตัวผมเองทุกฉาก แม้ผมจะทราบดี ถึงความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บ แต่ผมคิดว่าการจะแสดงบทตัวละครที่ผมได้รับมาให้ดีขึ้นนั้น ผมจะต้องแสดงทุกฉากเอง ช่วงหลังๆ นี้ผมรู้สึกว่าผมไม่ค่อยจะคล่องตัว และยืดหยุ่นเท่าเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนนี้ผมสามารถเตะสูงได้ตลอดทั้งคืน แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าร่างกายกำลังไม่ไหวหลังจากเล่นแบบนั้น 2 ชั่วโมงผ่านไป ผมสนิทสนมกับทีมมาร์เชียลอาร์ตมาก และตอนนี้พอพวกเขาเห็นผมเป็นแบบนี้ พวกเขาก็พูดกันว่า “จุนกิกำลังแก่ขึ้นนะ เรามาถ่ายทำกันแบบเอาแต่ท่อนบนช่วงเอวขึ้นไปพอ” ผมรู้สึกเศร้ามากเมื่อได้ยินแบบนั้น

@ เหมือนกับว่ามีสิ่งเดียวที่คุณอยากทำให้ดีขึ้น นั่นคือทักษะการแสดงของคุณ

         สิ่งเดียวที่ผมรู้จักคือการแสดง ผมไม่มีประโยชน์ใช้ไม่ได้จริงๆ นะครับ ครอบครัวของผมทุกคนบอกผมว่า ผมต้องเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตผมในฐานะนักแสดงไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ผมเป็นคนที่คู่ควรและเหมาะสมกับความรักที่ได้รับจากผู้คน

“ลีจุนกิ” กับเส้นทางการเป็นนักแสดง

@ คุณต้องการที่จะแสดงไปตลอดชีวิตหรือไม่

         ใช่ครับ จุดประสงค์เดียวสูงสุดของผมคือเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ มีงานแสดง ได้รับการยอมรับจากผู้คนในฐานะนักแสดง จะเป็นการดีนะครับถ้าผมจะสามารถก้าวเข้าสู่วงการหนังฮอลลีวู้ดได้ แต่นั่นหมายความว่าผมจำเป็นจะต้องเป็นนักแสดงที่มีความสามารถก่อนสิ่งอื่นใด (หัวเราะ)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ