บันเทิง

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระชาก “หน้ากากเต่า” แรงสะท้านโซเชียล พูดซึ้งไม่ต้องเค้นดราม่า แต่ทำคน “ร้องไห้” น้ำตาท่วม กับ “ลูกนัท” ปนัดดา เรืองวุฒิ

         ทำเอาโลกโซเชียลในแฮชแท็ก #themasksinger2 จากรายการ “เดอะแมสก์ ซิงเกอร์ หน้ากากนักร้อง ซีซั่น 2” สั่นสะเทือน เมื่อ “หน้ากากเต่า” ตกรอบ และถูกถอดหน้ากาก ท่ามกลางความเสียดายของเหล่าบรรดาแฟนคลับ แฟนเพลง ที่ชอบความหลากหลาย และเซอร์ไพรส์ที่ "หน้ากากเต่า" เอามาโชว์ให้ดูเสมอในแต่ละรอบที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเพลง คิดถึงเธอทุกที (ที่อยู่คนเดียว), crazy in love, Bang Bang Bang, และเมดเล่เพลง ประมาณนี้หรือเปล่า-โอเคนะคะ-ไม่ยากหรอก  ทั้งร้องเล่น เต้น และโชว์ศักยภาพเต็มที่ภายใต้หน้ากากเต่า ที่เหมือนท่านผู้เฒ่าเต่าผู้คร่ำเคร่ง คงแก่วิชา สมคำร่ำลือ

 

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’   

         เมื่อเสียงโหวตพ่ายแพ้ไปในรอบ “แชมป์ชนแชมป์” โดยที่ผู้ผ่านเข้ารอบคนแรกได้แก่ “หน้ากากซูโม่” ตามมาด้วย “หน้ากากเสือจากัวร์” ก่อนจะเหลือ "หน้ากากซาลาเปา” ยืนเป็น 2 คนสุดท้าย กับ "หน้ากากเต่า" ผลปรากฏว่า หน้ากากซาลาเปา เข้ารอบ และหน้ากากเต่า เป็นผู้ที่ต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงภายใต้หน้ากากออกมา แน่นอนว่าท่านผู้เฒ่าเต่า ที่สร้างเซอร์ไพรส์เอาไว้มากมายในรายการ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “ลูกนัท” ปนัดดา เรืองวุฒิ ดีว่าสาวเสียงทรงพลัง ที่คร่ำหวอดในวงการเพลงมากว่า 20 ปี 

         งานนี้มีกระแสผู้คนเสียดายเธอมากมาย เพราะอยากให้เธอไปต่อ ทำให้มีดราม่าว่า "หน้ากากซาลาเปา” ควรจะเป็นผู้แพ้มากกว่า แต่เราจะข้ามดราม่าในจุดนี้ไป เพราะมีเรื่องให้ “ฉุกคิด” มากกว่าแค่ “เรื่องน่าเสียดาย” ในตัว “หน้ากากเต่า” ที่แฟนเพลงของเธอ อยากเห็นท่านผู้เฒ่าเต่า อยู่ทำโชว์ในรายการต่อไป

 

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

 

         ทันทีที่ถอดหน้ากากแล้ว คนในห้องส่งยืนปรบมือให้กับ “ปนัดดา” กึกก้อง พร้อมอาการกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ของหน้ากากเต่า ซึ่งโดยปกติ ในรายการจะดึงดราม่าอยู่แล้ว แต่ในเทปนี้มีความรู้สึกที่ต่างออกไป จากหัวใจคนดู คือ “ดราม่า” ที่เกิด มันไม่ต้องบิ้วให้เศร้า แต่มันเกิดจากความประทับใจ ที่ได้เห็นนักร้องมากความสามารถซึ่งเกือบจะถอดใจ รู้สึกหมดหวัง และไม่แน่ใจในคุณค่าของตัวเอง รวมถึงสิ่งที่ทำอยู่ว่าจะยังมี “คนรัก” เธออยู่หรือไม่ ให้ได้มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง  

         "เวลาที่เราได้รับเสียงตอบรับ ได้รับความรักกลับมา มันกลายเป็นกำลังใจให้เราอยากทำอะไรให้เขาได้สนุก ให้เขาได้เห็นว่า นักร้องไทย คนไทยทำอะไรได้มากมายนะ เวทีนี้เป็นเวทีที่ดีๆ จริงๆ ที่ทำให้เราได้มาแสดงศักยภาพที่เรามีอยู่ในตัวจริงๆ ของหน้ากากทุกๆ คน เหตุผลหนึ่งที่เลือกเป็นเต่า เพราะว่าเราอยู่ในวงการนี้มาปีนี้จะเข้าปีที่ 20 แล้ว มันมีบางครั้งที่เรารู้สึกว่า เหนื่อยมั้ย ที่อยู่ตรงนี้ (น้ำตาคลอ) นี่คือสิ่งที่เรารักนะ แต่ว่าวันหนึ่งพอมันนานมาขนาดนี้ เขายัง..ยังจำเราได้อยู่มั้ย(ร้องไห้) ยังได้ยินเสียงเรา แล้วยังนึกถึงเราอยู่หรือเปล่า และความเป็นเต่าเนี่ย บางคนก็คิดว่า มันช้า มันต้วมเตี้ยมนะ แต่บางทีของบางอย่าง นานวันไป เราอาจจะหลงลืมไปบ้าง แต่ความที่อยู่มานานเนี่ยแหละ พอมาขัดๆ อีกสักทีหนึ่ง มันก็ยังเงาได้อยู่เหมือนกันนะ (ยิ้ม) มีความแซบได้อยู่เหมือนกันนะ" ปนัดดากล่าว

         นอกจากกระแสชื่นชมในโซเชียลแล้วยังมียอด “ฟอลโลเวอร์” ในไอจี เพิ่มขึ้นนับหมื่นในวันเดียว แถมยังเขียนข้อความขอบคุณในไอจียาวเหยียด ที่อ่านแล้วเข้าใจว่านักร้องคนนี้ “ซาบซึ้ง” แค่ไหน 

 

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’ ‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

         อีกหนึ่งกระแสท่วมท้นในโซเชียลที่เข้ามาคือคำว่า “ให้โอกาส” ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งของ “ศิลปิน” มากมาย ที่มีความสามารถ แต่อาจจะ “แพ้การตลาด” หรือ “แพ้ดวง” แต่เมื่อพวกเขาหรือเธอเหล่านั้น ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพอีกครั้ง เสียงตอบรับจากผู้ชม จะเป็นเครื่องยืนยันเองว่า พวกเขายังเหมาะสม คู่ควร และมีคุณค่า ที่จะได้รับความรักและโอกาสที่รออยู่หรือไม่ 

         ใครที่ชอบความเป็น “เต่า” เก่า แต่ เก๋า และครบเครื่อง ช้าๆ แต่มั่นคง หนักแน่น คงได้รับกำลังใจดีๆ จากเต่าไปเยอะพอสมควรว่า ถ้ารักและเชื่อมั่นในสิ่งไหน จงทำต่อไป ถึงแม้วันนี้อาจจะยังไม่มีคนเห็นในสิ่งที่ทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันถูกต้อง และดีจริง สักวันหนึ่ง วันที่รอคอยจะมาถึง เพราะคนที่มีความสามารถ สมควรได้รับโอกาสและความรัก 

 

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’ ‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

         สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอีกแง่หนึ่งก็คือ “พลังงาน” จากวิถีโลกโซเชียล ซึ่งมีให้เก็บมาเติมใจ ซึ่งมีทั้ง “พลังบวก” และ “พลังลบ” พลังบวกคือดราม่าที่พร้อมจะผลักดันสนับสนุน เห็นควร และส่งเสริม ส่วนพลังลบ คือเหยียบย่ำ ซ้ำเติม กระทืบให้จมดิน ทั้งๆ ที่บางครั้งตัวการทำให้เกิดดราม่า ยังไม่ได้ทำความผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ 

         โลกทุกวันนี้หมุนเร็วเหลือเกิน “เลือกเก็บ เลือกเสพ และเลือกรับ” คงจะเป็นเกาะหุ้มใจ ช่วยให้มนุษย์ไม่สูญเสียตัวตน และจิตวิญญาณที่ดี ทำให้เหมือน "ผู้เฒ่าเต่า" เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ผ่านร้อน ผ่านหนาว จนคงแก่วิชา เมื่อถึงเวลาต้องสำแดงเดช ปลุกสิ่งที่อยู่ในตัวมาปัดฝุ่นใช้ใหม่ ก็ช่วยให้กระชุ่มกระชวยหัวใจเหมือนกันนะ 

 

‘หน้ากากเต่า’ เผยวิกฤตชีวิตในวันเกือบหมดไฟและสิ้น‘คุณค่า’

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ