คุยกับ‘อุเอดะ ทัตสึยะ-มิราอิ ชิดะ’ ในงาน‘เจ ซีรีส์ เฟสติวัล

         ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงาน “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล 2017 (J Series Festival 2017) ครั้งที่ 4" งานที่จัดขึ้นเพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 130 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น และกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ โดยงานนี้เราได้สัมภาษณ์ อุเอดะ ทัตสึยะ และ มิราอิ ชิดะ ที่มาร่วมงาน

@ นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 คนมาเมืองไทยหรือเปล่า

อุเอดะ : การกลับมาเยือนไทยอีกครั้งในรอบ 12 ปีของผม (KAT-TUN มาไทยครั้งสุดท้ายคือปี 2004 เดือนกรกฎาคม งาน Thai J-Pop Concert ที่อิมแพ็ค อารีน่า) สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบ้านเมืองครับ เห็นตึกต่างๆ มากขึ้น แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือคนไทย โดยเฉพาะแฟนๆ ชาวไทยยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม นี่ก็เป็นจุดเด่นของคนไทยเลยครับ

มิราอิ : ค่ะ นี่เป็นครั้งแรก และถ้าพูดถึงเมืองไทยฉันก็คิดถึงอาหารไทย เพราะอาหารไทยดังที่ญี่ปุ่นมากเลย ฉันชอบอาหารไทยค่ะ

@ ที่ผ่านมาชอบผลงานไหนเป็นพิเศษ และชอบเพราะอะไร

อุเอดะ : เรื่อง Runaway (ออกอากาศในปี 2011) ครับ ละครเรื่องนี้ทำให้เรียนรู้อะไรในหลายๆ ด้าน ทั้งความลำบาก ในเรื่องของการใช้ชีวิตโน่นนี่นั่น ถือว่าเป็นละครที่มีความทรงจำที่ดี และเป็นความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้ ผลงานเรื่องนี้อยากให้ทุกคนได้ดู เพราะเป็นหนังที่ดีและจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง

@ เมืองไทยมีชื่อเสียงเรื่องมวยมาก อยากทราบว่าคุณอุเอดะอยากลองฝึกมวยไทยบ้างไหม

อุเอดะ : ปกติผมเรียนมวยไทยอยู่แล้วครับ พูดจริงจังนะครับ ผมเรียนมวยสากลธรรมดา แต่พอผมเห็นนักมวยไทย ที่เปลี่ยนจากการเล่นมวยไทยเป็นมวยสากลธรรมดา ผมรู้สึกว่าพวกเขามีทักษะในการเล่นและเก่งมากกว่านักมวยที่เล่นแค่มวยสากลธรรมดาครับ คือสนใจอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่พอดีว่าวันนี้ผมมาในฐานะไอดอลก็เลยต้องรักษาภาพลักษณ์นิดหนึ่งครับ (หัวเราะ)

@ ที่ผ่านมาคุณมิราอิเคยเล่นละครมาหลายเรื่องมาก มีบทบาทไหนที่อยากลองเล่น แล้วยังไม่เคยเล่นบ้าง

มิราอิ : เล่นละครมาตั้งแต่ 5-6 ขวบแล้ว จริงๆ แล้วก็เล่นมาหลายบทบาทเลย แต่ที่อยากลองเล่นคือบทที่ตรงกับอายุของตัวเอง ปกติฉันจะเล่นบทเด็กกว่า หรือแก่กว่าอายุตัวเองตลอด เลยอยากลองเล่นละครที่อายุประมาณฝึกงานหรือทำงานค่ะ

@ คำถามถึงคุณอุเอดะ อยากรู้ว่า ชอบผู้หญิงแต่งตัวสไตล์ไหน

อุเอดะ : เป็นคำถามที่ยากนะครับ เพราะคนเรามีสไตล์ไม่เหมือนกัน ผมว่าสิ่งที่สำคัญคือคนที่รู้จักตัวเอง หรือเสริมบุคลิกให้ตัวเองดูดีน่าจะเป็นแฟชั่นที่ทำให้ผมชอบที่สุดครับ

@ คำถามถึงคุณมิราอิ ผักชีเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น อาหารไทยก็น่าจะเป็นอาหารที่นิยมเช่นเดียวกัน คุณมิราอิมีอาหารไทยที่ชอบบ้างไหม?

มิราอิ : ชอบกะเพราค่ะ ที่ญี่ปุ่นก็มีร้านอาหารที่ขายแต่กะเพราด้วยนะคะ

@ ถามทั้ง 2 คนเลยว่า ถ้าเวลาดูละครญี่ปุ่นแล้ว อยากให้ช่วยแนะนำว่าต้องตั้งใจดู หรือเน้นตรงไหนเป็นพิเศษไหม?

อุเอดะ : ด้วยความที่ละครแต่ละเรื่องผู้จัดและนักแสดงได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกๆ คนช่วยดูทุกซีนและทุกฉาก เพื่อให้ทีมงานได้ชื่นใจบ้างครับ

มิราอิ : อยากจะให้ดูรายละเอียดค่ะ เพราะการถ่ายทำละครที่ประเทศญี่ปุ่นทางผู้จัดและนักแสดงต้องเตรียมตัวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัว ชุดต่างๆ รวมไปถึงบทละคร เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้ทุกคนได้สังเกตรายละเอียดเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

@ มางานเจซีรีส์ครั้งที่ 4 นี้รู้สึกอย่างไร

อุเอดะ : อันดับแรกก็ดีใจมาก ที่ได้เป็นตัวแทนของนักแสดงญี่ปุ่นมานำเสนอผลงานซีรีส์ต่างๆ ซีรีส์ดราม่าของญี่ปุ่นมีความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในทุกช่วง คือแน่นอนว่าในแต่ละเรื่องจะมีอะไรที่แตกต่างกันไป แต่ว่าจะมีการใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ในทุกรายละเอียดก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของดราม่าญี่ปุ่น

มิราอิ : นักแสดงของญี่ปุ่นมีมากมาย แต่การที่ได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนมานำเสนอผลงานซีรีส์ของญี่ปุ่นฉันภูมิใจมาก และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ

@ อยากให้ช่วยฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยได้ไหม

มิราอิ : ขอบคุณมากๆ นะคะ ฉันอยากให้ทุกๆ คนช่วยดูละครญี่ปุ่นด้วยความตั้งใจนะคะ เพราะพวกเราทำงานกันอย่างเต็มที่

อุเอดะ : สำหรับวันนี้ขอบคุณมากๆ ครับ ผมอยากให้ทุกคนเห็นคุณภาพของละครญี่ปุ่นนะครับ สำหรับคราวหน้าผมอยากจะกลับมาอีกในฐานะของคัตตุน (KAT-TUN) ครับ