ความสัมพันธ์คืบ!! 'ใบเฟิร์น'เจอพ่อแม่'ท็อป'แล้ว

         ทำเอาใครต่อใครสงสัยเมื่อเห็นภาพในไอจี "ใบเฟิร์น" พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ "ท็อป" จรณ โสรัตน์ ไปทำบุญด้วยกัน ได้สอบถามนักแสดงสาวในงานเปิดตัว "ภัทร์" พรีเซ็นเตอร์ Mariza Clinic ที่ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ลาดพร้าว ได้ความว่า

         "ก็เป็นโอกาสที่ดี เผอิญตรงกับวันเกิดเขาพอดี ที่บ้านก็อยากให้มาทำบุญด้วยกันที่ลพบุรี  เราก็เลยไป (ครอบครัวเฟิร์นไปหรือเปล่า) ไม่ไป เฟิร์นไปกับที่บ้านเขาและก็มีคุณครูที่เราเคารพด้วยกัน ก็เป็นโอกาสดี เพราะที่บ้านเขาทำบุญใหญ่มีพระ 90 รูป เราเห็นเป็นโอกาสดีๆ ก็เลยไป ถามว่าเขินไหมเขิน...น เกร็งมาก แต่ว่าพวกเขาน่ารักกับหนูมาก ที่บ้านเขาก็เป็นกันเอง (เขาแนะนำเราว่าอะไร) น้อง แม่นี่ใบเฟิร์นก็แนะนำกลางๆไว้ก่อน ถามว่าคุณแม่เขาน่าจะรู้ข่าวไหม เฟิร์นว่าน่าจะรู้เพราะคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ใจดี ก็มีถามจะกินอะไร จะเอาอะไร น่ารัก...ก ส่วนเราวันนั้นก็จะเรียบร้อยขึ้นมาเลย แต่สุดท้ายพอไม่เกร็ง เราก็เป็นตัวของตัวเองปกติ (เรียกว่าเป็นการทำความรู้จักครอบครัวเขาอย่างเป็นทางการได้ไหม) ก็เรียกไม่ถูก ก็รู้จักครั้งแรกจริงๆ แต่เป็นเรื่องการทำบุญ ก็เลยไม่ได้คุยเรื่องของเรา ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องการทำบุญวันเกิดเขา (พิเศษไหมเพราะหลายคนอาจจะจับตามอง) ตัวเราไม่ได้รู้สึกพิเศษ เพราะหนูเองเวลามีอะไรก็จะเล่าให้แม่ฟังหมด ส่วนเขาก็เป็นคนให้ความสำคัญกับครอบครัว ซึ่งเราก็มองเป็นเรื่องปกติ ทำอะไรอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องดี เขาก็รับรู้ ว่าต่อไปหากความสัมพันธ์มันไปด้วยดี ก็โอเค ถ้าไม่โอเคก็รู้จักกันไว้" ใบเฟิร์นกล่าว

         เมื่อถามต่อ ว่าก่อนไปมีคุยกันไหมว่าจะแนะนำตัวกันอย่างไร นักแสดงสาวแจงด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆว่า "ไม่เลยนะ คือหนูกับเขาเป็นคนชิลทั้งคู่ และมันยังไม่มีอะไรให้เราต้องมากังวลหรือห่วงภาพอะไร (มีถามฟีดแบคกับเขาไหมว่าคุณพ่อคุณแม่เขาว่าอย่าไรบ้าง) ไม่ได้ถาม และเขาก็ไม่ได้เล่าอะไร คือเราก็มั่นใจว่าไปทำบุญ ส่วนของขวัญวันเกิด ก็มีให้เค้กปกติ ก็ซื้อมาเพราะทำไม่เป็น ส่วนคำอวยพรก็ไม่มี ก็เป็นเพื่อนๆ กัน ตอนที่ให้เขาก็ยิ้มอย่างเดียว แล้วเขาก็บอกขอบคุณครับ ก็ตอบกลางๆ เฟิร์นว่ามันเหมือนเป็นช่วงเวลา คือเร็วไปก็ไม่ดีและเราก็ไม่อยากปิดบังหรือโกหกอะไร ก็อยากให้ค่อยเป็นค่อยไปจริงๆ  (รู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว) ถ้ารู้จักจริงๆ3 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คุยกันหรืออะไร แต่เพิ่งมาคุยกันช่วงนี้ ไม่กี่เดือน (ได้เรียนรู้กันมากแค่ไหน) ก็อย่างที่บอกว่ายังน้อยอยู่ เราก็เอาเท่าที่ได้ เอาที่เราสบายใจ (อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราคุยกับผู้ชายคนนี้ได้) นั่นน่ะสิ อาจจะเป็นช่วงจังหวะที่เราโตขึ้น ไม่เกี่ยวกับเขาหรือคนรอบตัวเรา แต่เป็นเราที่นิ่งขึ้น สบายขึ้นไม่ได้เอาตัวไปติดกับอะไรเป็นพิเศษ พอเรานิ่ง เราก็ได้เรียนรู้ได้ลองฟังคนอื่นอธิบายไม่เกี่ยวกับเขาเป็นอย่างไรหรอก(ดูเขาเปิดเผยกว่าทุกครั้ง) ไม่เคยรู้ข่าวเขาเลย ก็ดีนะถ้าอย่างนั้นหนูก็คงโชคดี แต่เราทั้งคู่ก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับเรื่องนี้ เราไม่อยากให้เรื่องข่าวเรื่องความสัมพันธ์มันมาบีบเราสองคนให้ไปทิศทางไหน (คาดหวังกับความสัมพันธ์) ไม่คาดหวังก็เลยอยากให้มันกลางๆ คาดหวังมากไปเดี๋ยวก็หงายหลัง ชีวิตพัง ไม่เอาดีกว่าเราก็อยากให้ไม่เร่งรัด และคนรอบตัวไม่ต้องคาดหวังอะไร และไม่ปิดบังอะไร (อะไรที่จะทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นแฟนเราได้) นั่นสิ หนูรอความรู้สึกนั้นอยู่ ขอค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากเร่งรัด เพราะมันก็เสี่ยงกับอะไรหลายๆอย่าง (คุยกับเขาคนเดียวไหม) คือเราเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ก็คุยเป็นเพื่อนแล้วโอเคเราก็ไม่ปิดกั้น (สถานะตอนนี้กับท็อปเป็นอะไร) ก็ปกติเราไม่เคยคุยกัน ว่าต้องเป็นอะไร ต้องคุยกับฉัน ห้ามคุยกับคนนี้ ถามว่าถึงขั้นมีกันและกันแค่คนเดียวไหมมันก็ยังไม่ขนาดนั้น เพราะมันเพิ่งเริ่ม (มีหนุ่มกล้าเข้ามาจีบไหม)ปกติเราไม่ได้มีคนมาจีบเยอะอยู่แล้ว ก็มีบ้าง ส่วนเขามีเช็คไหมอันนี้เราไม่รู้เลย แต่คิดว่าไม่น่าจะมี (ท็อปน่ารักอย่างไรเราถึงคุย) เอาเป็นว่าใบเฟิร์นน่ารักอย่างไรเขาถึงมาคุยด้วยดีกว่า" ใบเฟิร์นกล่าวปิดท้ายขำๆ