เอาล่ะสิ! จิ้นข้ามรุ่นจนได้เรื่อง‘เต้ย-เชียร์’มีลุ้นรักนอกจอ

         ออนแอร์ไปไม่นานกระแสตอบรับดีมาก สำหรับละครซีรีส์ ตอน ซ่อนรักกามเทพ จนเกิดกระแสจิ้นข้ามรุ่น นอกจอระหว่าง “เชียร์” ฑิฆัมพร กับ “เต้ย” พงศกร เพราะเคมีเข้ากันมาก แถมชีวิตจริฝยังสนิท และอำกันแรงมาก เจอตัวพระเอกหนุ่มมาดเข้มทั้งทีได้รับคำตอบว่า

 

         “กระแสใละครดีมาก ขอบคุณมาก ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนเลย มันชื่นใจนะ เพราะเราใช้เวลานานมาก ในการถ่ายซีรีส์ 8 เรื่อง พอกระแสตอบรับเยอะขนาดนี้ ผมขอขอบคุณ แฟนๆ ทุกคนที่ติดตาม แฟนๆ ของผม และพี่เชียร์ด้วย ขอบคุณแฟนคลับ "เต้ยเชียร์" ด้วย เหมือนเขาจิ้นมาตั้งแต่ละคร ฟิตติ้งแล้ว เขารอมาจนถึงวันนี้ได้ เป็นเวลาเกือบปี ขอบคุณพี่เชียร์ด้วยที่ไว้ใจเรา เพราะในการทำงาน เราต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน ทำให้ผมกล้าเล่น”

         ถามต่อว่า ในซีรีส์เรื่องดังกล่าว เห็นว่ามีเลิฟซีนจูบจริง

         “ใช่ เพราะซีรีส์เซ็ตนี้จูบจริงทุกเรื่อง ถามว่าได้คุยกันบ้างมั้ย กับพี่เชียร์ คือช่วงแรกๆ ไม่ได้คุยเลย ผมยังไม่กล้าด้วย ต้องรอผู้กำกับบรีฟ แล้วไปเล่นที่หน้าเซ็ตเลย พอเล่นเสร็จก็ขอโทษพี่เชียร์ พี่เชียร์เขามีสปิริตด้วย ถามว่าเขินมั้ยตอนเล่นเลิฟซีน คือผมต้องแปรงฟันอย่างดี กินข้าวเสร็จต้องแปรงฟัน อมลูกอมอย่างดี”

 

         เชียร์ แซวว่า เต้ย ไม่แปรงฟัน

         “เขานั่นแหละ ที่ไม่แปรงฟัน ผมอ่ะแปรง หลักฐานต้องมี อย่าไปเชื่อคำพูดลอยๆ ของเจ๊เขา ผมไม่มีกลิ่นปากนะ เจ๊เขาอ่ะ เป็นคนกินกะปิเอง แล้วมาจูบผม อันนี้คือเรื่องจริงเลย อย่าไปฟังคำของเจ๊เขา ผมมั่นใจว่าผมไม่มีกลิ่นปาก เจ๊เขาชอบใส่ร้าย บางวันเจ๊เขาก็ไม่แปรงฟัน ซึ่งผมอ่ะแปรงฟัน ถามว่าผมมั่นใจได้ยังไงว่าปากไม่เหม็น คือผมจะได้กลิ่นปากของตัวเองอยู่แล้ว

         เราทำงานกันมา ก็สนิทกันนะ คือละลายพฤติกรรมกันไปหมดแล้ว สนิทกันจริง เพราะอำกันแรงมากคือ ฑิฆัมพร อำผมแรงมาก เอาไส้กรอกอีสานยัดใส่กระเป๋าผมอ่ะ ซึ่งกระเป๋าค่อนข้างมีราคาอยู่ เป็นกระเป๋าหนัง แล้วไส้กรอกมันเหม็น ถ้าเอากระเป๋าไปซัก หนังมันอาจจะลอก ก็เป็นกระเป๋าค่อนข้างแพง แอบมีโกรธเล็กๆ แหละ แต่เขาคงคิดไม่ถึง ว่ามันจะเลอะ เพราะในไส้กรอกอีสานมันมีน้ำอยู่ มันเป็นน้ำของไอร้อนไง พอน้ำมันออกมา จะคล้ายๆ น้ำเปล่า แต่มันมีกลิ่นของกระเทียมในไส้กรอกอีสาน เละหมดเลยทุกอย่าง "บท" ของผมก็เปียกหมดเลย วันนั้นผมก็แกล้งไม่คุยกับเขาเลย จริงๆ คือโมโหจริงแหละ เลยไม่คุยกับเขา ซึ่งเขาก็รู้ว่าผมโกรธ เพราะเราไม่คุยกับเขาเลย เราไปนั่งกินข้าวคนเดียว กินเสร็จก็เดินแยกมา ไม่ยอมคุยกับเขา"

 

         “เชียร์” น้ำตาซึมเลย

         “คือตอนที่เขามาง้อ เขามีน้ำตาซึม เขาซื้อขนมมาให้ มานวดเราคืน คือตอนนั้นเราหายงอนแล้ว แต่เท่านั้นยังไม่พอนะ คือพอผมหายงอน เขาเอาโทรศัพท์ของผมไปกดให้มันล็อกอ่ะ คือตั้งใจกดรหัสผิด จนมันล็อก ไปประมาณ 40 กว่านาที คือผมจะคุยงานอะไรไม่ได้เลย คราวนี้ผมเลยแกล้งให้เข็ดเลย ผมงอนจริงๆ ไม่คุยด้วยจนกระทั่งถ่ายละครเสร็จ ปรากฏว่าเขาก็ไม่คุยกับผมซะงั้น (หัวเราะ) เขามางอนผมกลับ ผมเลยคิดว่า ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะถ่ายละครต่อกันไม่ได้ เราเลยเป็นฝ่ายต้องไปง้อเขา คือคู่เราเล่นกันแรงด้วย แต่ก็ยังไม่แรงมากหรอก มันอยู่ในขอบเขต”

         พอมีกระแสจิ้นแรงๆ จะมีความจริงบ้างมั้ย แบบจิ้นข้ามรุ่น เหมือน “อาเล็ก” ธีรเดช กับ “จอย” รินลณี

         “กลายเป็นเรื่องจริงมั้ยเหรอ ให้ไปลุ้นๆ ในละครดีกว่า (ยิ้ม) ในชีวิตจริงก็ให้แฟนคลับเชียร์ๆ กันไป แต่สเปกผมชอบคนอายุเยอะกว่า ถามว่าพี่เชียร์เข้าข่ายมั้ย คือพี่เชียร์อายุเยอะกว่า ซึ่งผมก็ชอบคนอายุเยอะกว่าแหละ ถามว่าไม่ชอบคนอำแรงเหรอ ผมก็อำแรงกลับได้ (ยิ้ม) แต่มีเคลิ้มนะ บางครั้งเขามีมุมที่แบบ ทำให้เรารู้สึกว่า เขาน่ารักอ่ะ! แบบนั้นเลย”

 

         ไม่คิดจะจีบ เชียร์ เหรอ

         “โหย..เจ๊เขามีคนคุยเยอะ ต้องไปถามเจ๊เขาดีกว่า เจ๊เขามีคนมาจีบเยอะนะ เห็นแบบนั้นอ่ะ ถามว่าพอไปถามพี่เชียร์เขาบอกว่าไม่มีใครตลอด แต่เต้ยคอนเฟิร์มเลยว่า "มี" เอาชื่อผมคอนเฟิร์มเลย (หัวเราะ) คือผมนับถือเจ๊เขาเป็นรุ่นพี่ บางทีเจ๊แกก็มาปรึกษาอะไรก็ไม่รู้ ว่ามีคนมาจีบอะไรแบบนี้ ซึ่งเจ๊แกพูดลอยๆ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ถามว่า ผมไม่มีหวังเลยมั้ย ก็ไม่รู้เจ๊แกอาจจะไม่สนคนที่มาจีบพวกนั้นก็ได้ (หัวเราะ) เจ๊อาจจะไม่สนบุคคลเหล่านั้นก็ได้นะ ถามว่าจะมาสนใจผมแทนหรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน (ยิ้ม)” เต้ยกล่าวอย่างอารมณ์ดี