บันเทิง

ตัดเต้าขวาทิ้ง!! ‘นุ่น’ พลิกวิกฤตมะเร็งเป็นโอกาส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“นุ่น” รุ้งทอง ตรวจเจอมะเร็งที่เต้านมด้านขวา เมื่อก.พ.ที่ผ่านมา ยอมตัดเต้าทิ้ง รอลุ้นทำคีโม


    เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวรุ่นใหญ่ที่เจอโรคมะเร็งมาเยือน สำหรับ “นุ่น” รุ้งทอง (ดารัณ) ฐิตะกวิน โดยตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมด้านขวา ระยะที่สอง ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวตัดสินใจตัดเต้านมทิ้งทันที ล่าสุดมาเจอในงานบวงสรวงละคร “เล่ห์รักยาใจ” จึงอัพเดทอาการดังนี้
    "อาการป่วยตอนนี้ก็ผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว ตัดหมดเลย ในความรู้สึกก็โล่งใจ เรื่องให้เคมีต่างๆ ก็เป็นไปตามขั้นตอน เรื่องกายไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร นอกจากแผลผ่าตัด แต่แผลกำลังจะหายเป็นปกติแล้ว ทำงานได้ปกติ กิจกรรมต่างๆ ก็ยังทำได้อย่างปกติ ตอนนี้ร่างกายกลับมา 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดูแลเรื่องอาหารการกิน และเรื่องของการพักผ่อนให้เพียงพอ ในสิ่งที่เราเป็นเรายังหาสาเหตุไม่ได้ให้เดาตามบรรทัดฐานทั่วไป เพราะเราไม่มีเรื่องของพันธุกรรมอะไรเลย น่าจะเป็นเรื่องของการพักผ่อนไม่เพียงพอ และเรื่องอาหารที่ทานเข้าไปแบบไม่ระวัง และการใช้ชีวิตที่เราเป็นนักแสดงก็ค่อนข้างใช้ชีวิตแบบกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา เราก็ปรับให้ดีขึ้น”
    จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหม หลังผ่าเอาออกไปแล้ว
    “แน่นอน เวลาที่เราไปเจอแล้ว เราก็ต้องมีความกังวลว่ายังไงก็แล้วแต่มันมีเชื้ออยู่ ก็มีสิทธิที่จะกลับมาเป็นอีก แต่ถ้าหากว่าเราดูแลตัวเองดี โอกาสก็จะน้อยลง ถามว่ารู้มานานแค่ไหนว่าเป็น เรารู้เร็วมาก มันเกิดจากการที่เราจับเจอ ก็คลำปกติแบบที่เขาให้ผู้หญิงคลำ แล้วไปจ๊ะเอ๋ว่ามันคืออะไร เลยไม่สบายใจ เราเจอเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ต้นมีนาคมก็เลยไปตรวจ พอทราบว่าเป็นปุ๊บ เดือนเมษายนก็ผ่าตัดออกไปเลย จบ ทุกอย่างไวมาก ซึ่งเราเป็นในระยะที่สอง ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตรกว่า ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตรวจร่างกายว่าพร้อมหรือเปล่า มันต้องดู การให้คีโม ไม่ใช่ว่าพอเป็นมะเร็งแล้วให้เลย ให้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแต่ละคน ไม่เหมือนกัน ระยะไม่เท่ากัน ทุกอย่างต้องถูกการวางแผนให้เวลา ที่สำคัญคือตอนนี้ตรวจร่างกาย เข้าเครื่อง MRI แสกนกระดูก เครื่องตรวจหัวใจ สิ่งที่ดีเราจะได้รู้ว่าเป็นอะไรตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้าเกิดโชคดี ไม่เป็นตรงไหนอีก ก็จะมีการให้ยาที่ไม่มากนัก เราก็สบายใจหน่อย เพราะการให้เคมี ไม่ใช่ว่าจะไปในทิศทางที่ดีอย่างเดียว มีส่วนที่เราต้องทำใจนิดหนึ่ง ว่ามันฆ่าทุกส่วน ในความเชื่อการให้เคมีบำบัด มีผลต่อร่างกาย เราก็ถามคุณหมออย่างละเอียด เพราะพอเรามาเป็นตรงนี้ปั๊บ จะได้เจอเรื่องราวในวงการนี้เยอะมาก จากที่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าการให้คีโมไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าฉายแสงแล้ว ให้ยาแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก แล้วแต่ร่างกายของคนเรา เพราะฉะนั้นทุกอย่าง มันทำให้เราปลงได้หมดเลย เลยรู้สึกว่าตกใจได้ แต่เอาแค่ยองๆ พอเวลาล้ม จะได้ลุกขึ้นมา อย่าให้ถึงกับทรุดลงไปเลย”

 

ตัดเต้าขวาทิ้ง!! ‘นุ่น’ พลิกวิกฤตมะเร็งเป็นโอกาส

ตัดเต้าขวาทิ้ง!! ‘นุ่น’ พลิกวิกฤตมะเร็งเป็นโอกาส

 


    ทำไมถึงสำรวจเจอ
    “สำรวจเจอตอนอาบน้ำ คือเราไม่ได้มีความกังวลว่าจะเป็นตั้งแต่แรก แต่มีความรู้สึกนิดหนึ่ง ว่าเราไม่ได้ไปตรวจร่างกายเลยเนอะ ก็พยายามหาเวลาไปตรวจ แต่เรามีอย่างอื่น เลยไม่ได้ไปสักที มันเลยมีอยู่ในใจนิดๆ แต่ไม่ถึงขั้นกังวล แต่พอคลำเจอปุ๊บ ความกังวลมาเลยทันที ว่าช่วงวัยแล้ว มันดูใช่ไปทุกอย่างเลย มันเป๊ะไปทุกอย่างเลย เราเลยไม่ได้ตกใจมากนัก เราเลยเตรียมใจไว้ เพราะว่าร่างกายทุกคนต้องมีวันเสื่อม”
    ครอบครัวว่ายังไงบ้าง
    “คุณแม่ยังไม่รู้เลย แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าช่วงนี้ คุณแม่ไม่ค่อยได้ดูทีวี (หัวเราะ) คุณแม่กำลังนอยด์กับตัวเอง ตามประสาคนแก่ ถามว่าจะบอกไหม จริงๆก็บอกได้แหละ เพราะว่าทุกวันนี้ก็ยังไปเจอคุณแม่ ยังพาคุณแม่ไปหาหมอ คุณแม่ก็เป็นห่วงตามบรรทัดฐานของเขา ว่าเป็นยังไง เราก็บอกไปว่าโอเค ชื่อเราก็ห่วงความรู้สึกของคุณแม่ เพราะคนเป็นแม่อ่ะนะ เราเองก็เป็นแม่ เวลาที่ลูกเป็นอะไร พอเรารู้เราก็เป็นห่วง เราก็อยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่เราขอเวลาอีกนิด แล้วกัน แล้วค่อยบอก ขอไปให้ยาสักพักหนึ่ง คือเราอยากที่จะหายก่อนแล้วค่อยบอก คือจริงๆแล้ว ตอนนี้เราเองก็ไม่ได้คิดว่าเราเป็นอะไรมาก เราคิดแค่ว่ามันเป็นไปตามการรักษาเท่านั้นเอง เราไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่เจ็บปวด แต่เพียงรอเวลาที่พร้อม เพราะคุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าคนแก่ เราเลยรู้สึกว่าตอนนี้เราขอดูแลคุณแม่ก่อน เมื่อคุณแม่เข้มแข็งแล้วค่อยว่ากัน”

 

ตัดเต้าขวาทิ้ง!! ‘นุ่น’ พลิกวิกฤตมะเร็งเป็นโอกาส

 


    จะลดงานเพื่อดูแลตัวเองไหม
    “คงไม่ถึงกับรถงาน แต่คงจะปรับมากกว่า คือสมมติว่าพรุ่งนี้เรามีกองเช้า เราก็จะไม่นอนดึกมากนะ เพราะไม่อยากให้ใครมานั่งเดือดร้อนกับเรา อย่างตอนที่ผ่าตัด หลังผ่าตัดเสร็จแล้วเราก็ออกมาทำงานเลย เพราะว่าทุกอย่างมันนัดไว้หมดแล้ว ซึ่งตอนนั้นมันก็เจ็บทั้งตัว เราก็พยายามที่จะทำให้ดี อย่างตอนถอดเสื้อก็โชคดีที่มีน้องคอสตูมมาช่วย เราเองก็สงสารเขามากเลย เพราะเขาก็พยายามที่จะช่วยเรา เขารู้ว่าเราเจ็บ มันก็รู้สึกดีนะ เพราะเราได้เห็นความน่ารักและน้ำใจของใครหลายๆคน ทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ที่มีคนส่งกำลังใจเข้ามา มีการช่วยเหลือจากใครหลายๆคน ในยามที่เราต้องการความช่วยเหลือ มันทำให้เราไม่เดียวดาย บอกเลยว่าตอนนี้สภาพจิตใจและกำลังใจดีมาก  เราบอกลูกชายไปว่า แม่เป็นมะเร็งนะลูก ลูกชายก็ตอบกลับมาว่าแล้วมันรักษาหายใช่ไหมครับ พอรู้ว่ารักษาหาย เขาก็โอเคโอเครักษาหาย ส่วนลูกสาว ก็ถามว่าเป็นมะเร็งเหรอค่ะพร้อมกับสายตาว่างเปล่า แต่เราเข้าใจนะว่าเขาเป็นเด็กเขาไม่รู้ว่าอะไรมันรุนแรงอะไรไม่รุนแรง ประสบการณ์ที่เราได้ยินได้ฟังมา มันน่าจับกดดันเรามากกว่าเขา เขาก็ยังทะเลาะกันสร้างความหนักใจให้กับเรา (หัวเราะ) การที่พวกเขาเป็นแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกห่อเหี่ยสหรือหมดกำลัง ก็ต้องขอบคุณลูกด้วย ที่เขาเป็นไปตามภาษา ทำให้เรารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น”
    ถามว่าเขามีให้กำลังใจอะไรไหม
    “จริงๆเขาก็ช่วยกันได้มากเลย เพราะที่ผ่านมา เราก็จะสอนเขา ให้ทำอะไรด้วยด้วยตัวเอง แล้วก็บอกเขาว่าแม่ไม่ได้อยู่กับหนูนาน หรือคอยช่วยดูแลได้ตลอดไป ถ้าทำได้ให้ทำเอง มันจะดีสำหรับตัวเขา ที่สามารถดูแลตัวเองได้ แล้วไม่เป็นภาระใคร และเขาก็สามารถไปดูแลคนอื่นได้ด้วย ก่อนหน้านี้พูดไป เขาก็จะเฉยๆ เหมือนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา แต่พอมาเกิดเรื่องนี้ มันเหมือนว่าเห็นโลงศพ ก็เลยหลั่งน้ำตา พอเขาเห็นเราเข้าโรงพยาบาล นอนอยู่บนเตียงมีสายน้ำเกลือ ตอนนั้นเราลุกขึ้นจากผ่าตัดแล้ว ก็เดินกระย่องกระแย่งเหมือนคนไม่มีแรง ทำให้เขาเริ่มคิด จากวันนั้นใช้อะไร เขาไม่เคยบ่น ทำทันที บางวันไม่ต้องใช้ก็ทำให้ สำหรับเราแล้วนี่คือสวรรค์มากเลย เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นจากลูกของเรา มันมีส่วนดีขึ้นเยอะทำให้เรารู้สึก ว่าดีจากวิกฤตมันเป็นโอกาส คือเราไม่ได้อยากป่วยหรอกนะ แต่การป่วยของเราที่เป็นวิกฤตมันเป็นโอกาสจริงๆ อยากจะพูดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่าไม่ต้องรอวันที่จากกันไป แล้วค่อยมาคิดได้”นุ่นกล่าวสรุป

 

ตัดเต้าขวาทิ้ง!! ‘นุ่น’ พลิกวิกฤตมะเร็งเป็นโอกาส
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ