ของวง Animal As Leader พิเศษหน่อยได้ นูโน เบตเทนคอร์ท (Nuno Bettencourt) โดดขึ้นมาร่วมแจมด้วย แล้วไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว ก็เลยได้โซโล่เดียวกันต่อแบบไม่ยั้งกับเพลง Get The Funk Out , Midnight Express ก่อนจะพักเบรคกับเพลงนุ่มๆของวง Extream ซึ่งจะเป็นเพลงอะไรไปไม่ได้นอกจากเพลงดังที่ชื่อว่า More Than Words ที่งานนี้ทำเอาผู้ชมต่างส่งเสียงร้องตามดังกระหึ่มมากๆ
จากนั้นก็ถึงคิว สตีฟ วาย (Steve Vai) ชื่อนี้ไม่ต้องสาธยายให้มากความ ออกมาพร้อมกับกีต้าร์ Ibanez (ไอบาเน็ส) คู่ใจ โชว์เทคนิคการละเล่นที่หวานจนหลอมละลายไปตามๆกันไปกับเพลง Bad Horsie , Racing The World ,Gravity Stom และเพื่อแฟนเพลงชาวไทยโดยเฉพาะ สตีฟ วาย ยังแถมเพลง for the love of god ที่ไม่มีอยู่ใน Song List ให้อีกหนึ่งเพลงด้วย ...และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงซึ่งจู่ๆบนเวทีก็เต็มไปด้วยสโม๊ค พร้อมทั้งแสงสีบนเวทีก็ร้อนแรงแดงไปทั่วเป็นการต้อนรับการมาของเจ้าพ่อสาย Neo Classic อิงเว มาล์มสทีน (Yngwie Malmsteen) ที่พ่อคุณมีนิ้วมือรวดเร็วดุจพายุ ซึ่งงานนี้อยากบอกว่า ตลอดการโชว์อย่าว่าแต่มองตามเลย แค่ฟังอย่างเดียวยังแทบจะไม่ทันเลยจ้า และเพื่อให้สมกับการรอคอย อิงเว มาล์มสทีน ก็ขอจัดเต็มๆกว่า 10 เพลงทั้ง Spellbound , Valhalla , 1000 Cuts , Arpeggios From Hell , Badinerie Double B , Far Beyond The Sun , Trilogy , Black Star เต็มอิ่มกันไป
หลังจากโซโล่เดียวกันจนครบแล้วในช่วงท้ายของคอนเสิร์ต เหล่าสุดยอดฝีมือกีต้าร์ทั้ง 5 คน ก็ขึ้นมารวมตัวกันอีกรอบร่วมกันโชว์เพลง Frankenstein และHighway Star บทเพลงฮิตสุดคลาสสิคจากวง Deep Purple ที่ในเพลงนี้พวกเขาสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชม ด้วยการแสดงลีลาลูกล่อลูกชนในสำเนียงกีต้าร์ที่แต่ละคนจะมีความแตกต่างกันมากงัดออกมาโชว์ทิ้งท้ายกัน นับเป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตอย่างสมบูรณ์ตลอดการแสดง 3 ชั่วโมงกว่าที่ผู้ชมต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าเต็มอิ่มเกินคำบรรยายจริงๆ งานนี้ต่างยกนิ้วกดLike รัวๆให้กับ ไอเอ็มซี ไลฟ์ กรุ๊ป (IMC Live GROUP) ผู้จัดที่ทำให้สมหวังซะที หลังจากที่ต่างรอคอยกันมานาน...