วง “ซาวด์ครีม” เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่จาก “แกรมมี่” 

    เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ ที่ค่าย “แกรมมี่ฯ” กำลังปั้นขึ้นมา สำหรับวง “ซาวด์ ครีม (Sound Cream)” ที่มีสมาชิกประกอบด้วย “มีมี่” อนัญญา ศิลปนะรุจิ “ลูกแก้ว” ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์ “ลิตา” รินทร์ลภัส ไพศาลเปรมสกุล และ “อลิส” อริสา คุราตะ โดยปล่อยเพลงแรกคือเพลง “ลองจีบดูก่อนก็ได้” เพลงน่ารักๆ จังหวะตื๊ดๆ ชวนให้ขยับเต้น ร้องตาม วันนี้ 4 สาวจะมาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของวงซาวด์ครีมให้ได้รู้กัน

    

 

    เริ่มจากการมารวมตัวกันได้ยังไง “มีมี่่” เล่าก่อนว่า “พวกเราเกิดจากการออดิชั่นค่อยๆ เข้ามา ตอนแรกที่เข้ามามีหนู ลิตา และลูกแก้ว ก่อนที่เราจะไปเจอลิต้า ซึ่งตอนนั้นอยู่อีกค่ายในเครือแกรมมี่  นั่นคือค่าย “GID” คืออยู่ในส่วนของจี-จูเนียร์ ซึ่งตอนนั้นเราขาดคนอยู่คนหนึ่ง เลยลองชวนอลิส เพราะตอนนั้นทางค่ายมีความตั้งใจจะทำวงเกิร์ลกรุ๊ป กว่าที่จะมาเป็นซาวด์ครีมแบบครบวงได้มันค่อนข้างยาก ในเวลานั้นพวกเราเป็นเด็กฝึกหัดของแกรมมี่ฯ อยู่มาประมาณ 4-5 ปี และกว่าจะมาลงตัวที่ลูกแก้วกับอลิส ก็ใช้เวลาอยู่นาน ปรับเปลี่ยนสมาชิกอยู่นาน จนเมื่อ 3 ปีก่อนก็ลงตัว” มีมี่เล่า
    จากนั้นลูกแก้วเล่าถึงโจทย์ของการมารวมตัวกันของ 4 สาวต่างแบบต่างสไตล์ว่า การทำงานไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมีผลงานเพลงออกมาให้แฟนๆ ต้องใช้ความอดทนกันมากๆ 
    “ด้วยสไตล์ของพวกเรา ไม่ได้เป็นเด็กสาว แบ๊วๆ เราค่อนข้างแข็งแรง และมีความสตรองอยู่ในแต่ละคน จนเป็นที่มาของชื่อวงซาวด์ครีม ซึ่งคนรู้ว่า ซาวด์ครีมเป็นชื่อขนม และเป็นรสชาติที่ใครๆ ก็กินได้ กินแล้วไม่เบื่อ เพราะมันไม่ได้เลี่ยนมาก แต่ด้วยรสชาติที่ละมุน เพราะว่าซาวด์ครีมก็ไม่ได้เป็นสายหวานจนเลี่ยน แต่เรามีความซุกซน แก่นๆ ในแบบที่แต่ละคน ทำให้ทั้ง 4 คน มีความแตกต่างกันออกไป แต่ก็มารวมกันให้เกิดความละมุนได้ จนที่มาของชื่อซาวด์ครีม โดยเรามีความเล่นคำ มาจากคำว่าซาวด์ที่เราเล่นคำมาจากที่อืื่นเหมือนกัน” ลูกแก้วเผย

 

 

    เมื่อให้พูดถึงเพลง “ลองจีบดูก่อนก็ได้” ทั้ง 4 สาวเผยว่า ก่อนทำเพลงนี้มีการพูดคุยกับทีมเพลงอยู่นานสองนาน โดยเพลงนี้มีที่มาจากการที่ทั้ง 4 สาวเล่าถึงเรื่องความรักและตัวตนของพวเขา ก่อนที่ลิตาจะเสริมขึ้นมา “เพลงนี้เริ่มจากการที่เราเอาประสบการณ์ของแต่ละคนแชร์จนเกิดเป็นเพลงนี้ เพลงที่เรารู้สึกว่ามันเหมาะกับเรามากๆ จริงๆ เพลงที่เราทำงานอะไรเสร็จมาตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้ว ก่อนที่จะได้มาทำงานจริงจังในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งถือว่านานมาก”
    ลิตาเล่าต่อว่า “พวกเราอยู่ด้วยกันมานาน ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ช่วงแรกๆ ก็มีปัญหากันบ้าง เพราะว่าเราก็ถูกเลี้ยงดูกันมาไม่เหมือนกัน จนวันหนึ่งที่เราผ่านช่วงที่มีปัญหากันมาได้ มันทำให้เราเข้าใจกันและอยู่ด้วยกันมาได้จนถึงตอนนี้ ถามว่าที่ผ่านมามีเหนื่อยมีท้อไหม มันก็มี เพราะว่าเราเองถือเป็นเด็กพเนจรคนหนึ่ง เพราะว่าอยู่มาหลายค่ายมาก ก่อนที่จะมาลงตัวที่แกรนด์ มิวสิค มันมีอยู่แล้วที่เรามีความรู้สึกถอดใจ แต่เราไม่เคยหมดใจ ทำให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง พวกเราผ่านช่วงเวลาที่ร้องไห้ด้วยกันมาแล้ว ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นมากกว่าเพืื่อนสนิท เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เพราะเรามีทัศนคติและมุมมองที่คล้ายๆ กัน” ลิตาเผย
    ในตอนท้าย “อลิส” บอกความรู้สึกว่า วันที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมามันเป็นความรู้สึกที่เหมือนไม่น่าเชื่อ เพราะว่าที่ผ่านมามีแต่คำว่าจะออกแล้ว จะทำแล้วนะ มาโดยตลอด
    “ตอนที่ได้เห็นเพลงของตัวเองในทีวีก็จะงงหน่อยว่า ใช่เพลงเราจริงไหม ถามตัวเองตลอดว่า นั่นเพลงหนูจริงเหรอ มีช่วงเวลาที่ก่อนเพลงปล่อยออกมา มันเหมือนการเคานท์ดาวน์ เพราะตื่นเต้นมาก เพลงนี้เกิดมาจากความฝันของพวกเรา  ถามว่าเราคาดหวังไหม เราคาดหวังให้แฟนเพลงชอบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรารู้สึกมากกว่าคือ อยากให้คนลองฟังเพลงของเรา ชอบหรือไม่ชอบไม่เป็นไร ขอให้ลองฟังกันก่อน” อลิสกล่าว