บันเทิง

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ท็อป” เทวินทร์ สุรเชิดเกียรติ กลั้นสะอื้น เล่าวินาทีสูญเสีย เสียง “พ่อ” ร้องขอให้ช่วย ยังดังก้องอยู่ในใจ

         นักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง “ท็อป” เทวินทร์  ที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์สูญเสีย “คุณพ่อ” ไปแบบกระทันหัน ด้วยอาการวูบดับคาพวงมาลัย ขณะขับรถอยู่บนทางด่วน ย่านบางพลี สาเหตุจากหัวใจวายเฉียบพลัน เป็นเหตุการณ์ที่นักแสดงหนุ่มยังคงเสียใจ ล่าสุดเจอตัวนักแสดงหนุ่มในงาน บวงสรวงละครเรื่อง “ละครคน” และ “หลงไฟ” ของช่อง GMM 25 สอบถามได้รับคำตอบว่า

 

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

 

         "วันที่ 20 เม.ย. นี้ ครบหนึ่งเดือนที่คุณพ่อเสีย มันเร็วมาก สำหรับครอบครัว คือผมมานั่งนึกดู รู้สึกว่ามันจะหนึ่งเดือนแล้วที่พ่อผมเสีย ตอนนี้สภาพครอบครัวก็ต้องปรับตัว คือปกติคุณแม่จะไปทานข้าวกับคุณพ่อทุกวัน เพราะคุณพ่อกลับบ้านทุกวัน ตอนนี้คุณแม่ก็ยังนั่งเหม่ออยู่ ย้อนกลับไปวันที่เกิดเหตุการณ์ วันนั้นเป็นวันปกติ ผมไปถ่ายละคร ซึ่งวันนั้นมีถ่ายแค่ซีนเดียว แล้วผมมีงานอีกงานหนึ่งต่อ ตอนกำลังจะไปงานต่อ คุณพ่อโทรมาหาผมว่า ถามว่าถึงงานหรือยังลูก ไปงานต่อทันไหม 

 

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

 

         ผมก็บอกว่าผมไปทัน งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะ เพราะป๊าก็จะกลับบ้านแล้ว หลังจากเสร็จงานผมก็ไปกินข้าว นั่งกินปกติ แล้วทีนี้คุณพ่อก็โทรมาว่าอยู่ไหน มาช่วยป๊าหน่อย ป๊าหายใจไม่ออก!! พ่อโทรมาด้วยเสียงที่แบบไม่ไหวแล้ว เขาพยายามจะหายใจ แต่หายใจไม่ได้แล้ว หลังจากนั้น ผมก็ถามว่าพ่ออยู่ไหน เป็นอะไรทำไมหายใจไม่ออก เขาก็บอกว่าเขากลัว เขาอยากกลับบ้าน ผมก็บอกว่ารอแป๊บหนึ่ง ตอนนี้อยู่ตรงไหน คือเขาก็ยังมีสตินะ เขาจอดรถแล้ว จอดตรงป้ายบอกทาง ซึ่งมันเขียนว่า “บางพลี-สำโรง”  พ่อก็บอกบางพลีนะลูก ผมก็โอเคกำลังไปนะป๊า แล้วผมก็โทรประสานทางสายด่วนให้ไปช่วยก่อน ผมก็ขับรถไป ในใจก็คิดว่าพ่อยังอยู่ พ่อไม่เป็นไรหรอก เพราะก่อนหน้านั้น พ่อไม่ได้เป็นอะไรเลย ปกติอายุ 60 ยังแข็งแรง เราขับไปใกล้ถึงแล้วโทรหาพ่ออีกทีหนึ่ง ท่านก็รับสายแต่เสียงคือพูดไม่ได้แล้ว (เสียงสั่น น้ำตาไหล) เสียงพ่อพูดแบบ เอ่อๆ พยายามสื่อสารกับเรา แต่ไม่สามารถพูดได้แล้ว ก็ขับรถไปในใจก็ยังคิดอยู่ว่าพ่อไม่เป็นไรๆ พ่อไม่ตาย พ่อต้องอยู่ แล้วก็มีอีกสายโทรเข้ามาบอกว่าคุณพ่อไม่อยู่แล้วนะ ท่านไปแล้ว ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าผมขับรถไปถึงพ่อได้ยังไง สติผมหลุดไปแล้ว  ถึงยังไง ถึงตอนไหนก็ไม่รู้ จำได้ว่าเห็นไฟกระพริบๆ แล้วก็จอด จังหวะที่ลงไปเห็นคุณพ่อ ณ ตอนนั้น ผมก็ใจสลาย ใจสลายจริงๆ พยายามปลุกท่านก็ไม่ตื่น อย่างที่บอกคุณพ่อผมกลับบ้านทุกวัน(เสียงสั่น) มีวันนั้นวันเดียวที่คุณพ่อกลับไม่ถึงบ้าน" ท็อปเล่าทั้งน้ำตา

 

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

 

         ตอนที่ท็อปไปถึง มันช้าไปนานแค่ไหน

         “ณ จุดๆ นั้น ถ้าคุณพ่อผมหัวใจวาย มีเวลาประมาณ 15 นาที แต่เวลาวันนั้น มันเป็นเวลาเร่งด่วน รถติดมาก กว่าผมจะแหวกไปหาคุณพ่อไปได้ เกือบ 2 ชม. ผมคอยโบกรถ แล้วขอให้เขาหลบตลอด ก็ต้องขอบใจเพื่อนร่วมทาง พอผมโบกมือ แล้วเขาก็หลบๆ ให้ ผมไปจากเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระยะทาง 40 กว่ากิโล ไปถึงก็ไม่ทันแล้ว (ร้องไห้) ตอนนั้นมันไม่รู้จะรู้สึกยังไง คือเห็นคุณพ่อไม่มีลมหายใจแล้ว ก่อนหน้านั้น แค่ 2 ชั่วโมง เรายังโทรคุยกันอยู่เลย ไม่คิดว่าพ่อจะเป็นแบบนั้นได้ แต่คือท่านมีอาการก่อนหน้านั้นประมาณ 2 วัน แม่มาบอกผมว่า “ป๊านอนไม่ได้เลยนะ แน่นอกทั้งคืนเลย" แต่พ่อก็คิดว่าเดี๋ยวก็หาย คือท่านดื้อ ไม่ยอมไปหาหมอ เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอาการของโรคหัวใจ คือผมสื่อสารกับคุณแม่ผิดด้วยแหละ ผมก็คิดว่าเป็นโรคกระเพาะ เพราะคุณพ่อบอกแน่นบริเวณท้อง ซึ่งคุณพ่อมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน” 

 

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

 

         “ทุกวันนี้ก่อนที่ผมจะนอน เสียงคุณพ่อยังเข้าหูผมเป็นประจำ เสียงครั้งสุดท้ายที่ท่านโทรมาหาผม บอกให้ไปช่วยท่านหน่อย หายใจไม่ได้ หายใจไม่ออก มีอยู่คำหนึ่งที่สะกิดใจผมมาก ท่านบอกว่าอยากกลับมา (ร้องไห้) สภาพจิตใจคุณแม่ ก็หนัก เพราะปกติคุณพ่อจะขับรถมารับคุณแม่ไปกินข้าว ทุกวันนี้แม่ผมจะนั่งชิงช้าตัวเดิม เก้าอี้ตัวเดิม แล้วก็มองไปนอกบ้าน (ร้องไห้) 

         ส่วนผมสภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว ล่าสุดยังฝันเห็นคุณพ่ออยู่เลย ผมไปไหว้พระวัดหนึ่งมา อธิษฐานว่าช่วยผมเจอคุณพ่ออีกครั้งได้ไหม อยากเจอ อยากคุย อีกวันหนึ่งก็ฝันเห็นคุณพ่อ ในฝันผมลงไปทำงาน คุณพ่อนั่งสูบบุหรี่อยู่ท่าเดิม เราก็ถามว่ายังไม่เลิกสูบบุหรี่อีกเหรอ ผมถามเขาอีกว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกสบายดีไม่ต้องห่วง ผมก็บอกว่าทุกคนคิดถึงนะ เขาก็บอกว่าเขาคิดถึงเหมือนกัน พ่อผมเป็นคนน่ารัก ผมถึงคุยกับท่านทุกเรื่อง ผมยังเสียใจถึงทุกวันนี้ ที่ผมยังทำได้ไม่สุด เขายังเป็นห่วงชีวิตผมอยู่เยอะ เพราะผมมีเรื่องส่วนตัวที่เป็นปัญหาเยอะ ท่านห่วงเรื่องงาน และเรื่องชีวิต เพราะตอนเด็กๆ ผมค่อนข้างเกเรเยอะ แต่เพราะคุณพ่อเป็นคนปั่น พยายามช่วยให้ลูกไปในทางที่ดี เขาบอกว่า ถ้าเขาทำงานประจำเสร็จ อีกไม่กี่ปีเขาจะกลับมาขับรถให้ผม เพราะเขาอยากพักผ่อน (น้ำตาคลอ)"

 

‘ท็อป’ กลั้นสะอื้น ยังจำเสียง ‘พ่อ’ ตอนร้องขอให้ช่วย! (คลิป)

 

         อยากฝากบอกอะไรกับคนอื่นๆ บ้าง 

         “เมื่อก่อนเราบอกคนอื่น เวลาที่เขาสูญเสียว่าคุณพ่อคุณแม่ไปสบายแล้วนะ ตอนที่เราบอกเขา เราไม่รู้จักคำคำนั้นจริง แต่พอวันที่พ่อเราเสีย เราต้องคอยปลอบตัวเองว่าพ่อไปแล้วนะ ในช่วงขณะหนึ่ง เวลาที่ผมบอกใครหลายๆ คน หรือพวกดาราศิลปินที่บอกว่า ให้พวกคุณรีบกลับไปหา “พ่อแม่” ในวันที่คุณพอมีเวลา เพราะคุณพ่อ คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ มันคือเรื่องจริง แต่ตอนนั้นที่ผมพูด ผมยังไม่รู้สึกแบบนั้นเลย เพราะเรารู้สึกว่าเรายังมีเวลาทั้งชีวิต ซึ่งพอได้มาเจอกับตัวเอง เวลานั้นมันไม่มีแล้ว เวลาที่เราบอกรักเขา แต่ไม่มีอะไรตอบกลับมา เขาได้แค่นอนนิ่งๆ และก็หลับตา  ถ้าพ่อได้ฟังอยู่ ผมอยากบอกพ่อว่า ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด พ่อไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงา ผมจะกลับบ้านให้ไวขึ้น เมื่อก่อนเวลาป๊าโทรมา ผมไม่เคยรับสาย แต่ทุกวันนี้อยากรับโทรศัพท์เขามาก แต่ไม่มีใครโทรมาแล้ว ใครที่มีเวลายังทำได้ ก็รีบก็ทำเถอะ”ท็อปเล่าทั้งน้ำตา 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ