
เรียนรู้การใช้ชีวิตไม่คิดกดดันตัวเอง ของ“มิกค์ ทองระย้า”
วินาทีนี้คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ชื่อของนักแสดงหนุ่มลูกครึ่ง “มิกค์ ทองระย้า” คือพระเอกแถวหน้าของวิกหมอชิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
@ อัพเดทผลงานละครของพระเอกสุดฮอต
@@ พูดถึงเรื่อง “นักบุญทรงกลด” กันหน่อย
เรื่องนี้ผมรับบทเป็นนักบุญทรงกลดเลยนะ เป็นคนสบายๆ คือเหมือนกับว่าเขาผ่านศึกมาเยอะมาก ขนาดเจอเสียงระเบิดยังแค่หันไปมอง ไม่ได้กลัวอะไร แล้วเป็นคนที่เฮฮา ชิลๆ ถ้าอยู่กับนางเอกก็จะเป็นคนที่ขี้แกล้งเขาด้วย
@@ กับ “กรีน” อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เคยร่วมงานกันมาก่อนหรือเปล่า
เรื่องที่ 2 นะ เรื่องแรกก็เรื่อง “หอบรักมาห่มป่า” เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ด้วยความที่เคยทำงานด้วยกันมาแล้ว ทำให้เราสนิทกันในระดับหนึ่งอยู่แล้วล่ะ พอมาเจอกันในเรื่องนี้เลยทำงานสนุก พี่กรีนเป็นคนที่เล่นละครเก่ง และเป็นคนที่ละเอียด เขารับส่งสิ่งที่เราสื่อออกไปได้เร็ว
@@ เห็นเรตติ้งแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
เรตติ้งดีมากเลยนะ ผมหายเหนื่อยนะ แล้วก็เกินคาดมากนะ ผมขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การตอบรับดีมากขนาดนี้นะ ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้เป็นแนวแอ็กชั่น คอมเมดี้ ในเรื่องนี้จะเป็นแนวแบบว่าผมบู๊ๆ กันอยู่ ยิงปืนกันสนั่นเลยนะ แล้วพี่กรีน (อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) นางเอกของเรื่องอยู่ด้านหลัง ก็จะมาพูดว่าฉันขาพลิก เธออุ้มฉันหน่อยได้ไหม ผมจะก็จะตอบไปว่ามันใช่เวลาไหม มันจะมีจังหวะคอมเมดี้ของแต่ละคน ม่ีแทรกเข้าไปนะ ผมว่าละครแนวนีี้ก็เป็นโทนใหม่นะ นักบุญทรงกลดตั้งแต่เรื่องของการแต่งกาย การถ่ายทำ สถานที่ถ่ายทำ มุมกล้อง มันแตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว
@@ ยังเป็นพระเอกที่แบกความหวังเรื่องของเรตติ้งได้อยู่
ผมว่าเป็นเรื่องของโอกาสมากกว่านะ อย่างที่ผมบอกว่า บางครั้งคนดูเขาอยากดูอะไรที่แปลกใหม่ อย่างตอนแรก ก่อนที่ละครจะออกอากาศ คนมาถามว่าทำไมผมต้องแต่งตัวแบบนั้น ทำไมต้องแนวนั้น แนวที่คนไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย วิธีการถ่ายทำ มุมกล้องต่างๆ มันดูสวยดีนะ พอได้ดูปั๊บก็ชมว่าสนุกดี ละครเรื่องนี้ไม่ได้เครียดมาก แล้วก็ไม่ได้ไร้สาระนะ อยู่ระดับกลางๆ
@@ วันพุธ-วันพฤหัสบดีที่ออกอากาศชนกับรายการฮิตอีกช่อง
ก็ยอมรับว่าหนักนะ ตอนแรกที่ดูว่าละครเราชน เดอะ แมสก์ ซิงเกอร์ หน้ากากนักร้อง ใจผมเต้นตุบๆ เลยนะ อย่างที่เราก็ทราบกันอยู่แล้วว่าฟีดแบ็กรายการของเขาก็ดี แต่พอละครของเรา เมื่อเห็นฟีดแบ็กของตัวเองก็โอเคอยู่เหมือนกัน คนดูน่าจะคนละกลุ่มกัน ผมเชื่อว่าละครก็ยังมีกลุ่มคนที่ยังชอบดูละครอยู่นะ
@@ ด้วยโทนละครที่ออกแนวใหม่ แรกๆ มีีความกังวลใจมากน้อยขนาดไหนว่าคนดูจะเข้าใจในสิ่งที่กำลังถ่ายทอดออกไป
ผมว่าตัวผมสบายๆ มากกว่านะ อย่างเรื่องฉากบู๊ หรือฉากต่างๆ ฟีดแบ็กที่ออกมา ผมว่าคนดูชอบด้วยซ้ำ เหมือนกับว่ากำลังบู๊ๆ แล้วมีตลกเข้าแทรกพอดีแบบนี้มากกว่านะ ผมว่าเรื่องนี้ดูเพลินๆ มากกว่านะ เหมือนว่าเรากำลังกินอาหาร แล้วมันนัวแล้วให้รสชาติถึงความอร่อยดี
@@ อัพเดทผลงานละคร พูดถึงเรื่อง “มัสยา”
ส่วนโทนละครเรื่องนี้ เป็นพีเรียดหน่อยๆ จะเป็นยุคขากระบอก แล้วเป็นเรื่องราวของครอบครัวรัตนมหาศาล แล้วคุณย่า (“ตุ๊ก” ดวงตา ตุงคะมณี) จะเป็นคนที่คอยคุมทุกคน ในเรื่องนี้ผมรับเป็น ร.ท.ลักษณ์ รัตนมหาศาล หรือเรียกสั้นว่าๆ ลักษณ์ เขาเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้นะ เหมือนว่าถ้าอยู่กับคุณย่าก็จะเป็นหนุ่มขี้อ้อน เป็นหลานรักของบ้านรัตนมหาศาล แต่ถ้าอยู่กับมัสยา (มุกดา นรินทร์รักษ์) จะเป็นพี่ชายที่สุขุม คอยดูแลน้องสาว แต่ว่าในเรื่องผมต้องหลงรักมัสยาไปแล้ว ทำให้เราต้องขัดใจคุณย่า ท่านก็ปรี๊ดๆ ตลอด อีกอย่างเราสองคนในเรื่องมีศักดิ์เป็นพี่น้องกัน เพราะฉะนั้นก็จะมาเปิดเผยความรู้สึกมากไม่ได้ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ขึ้นมา
@@ ถือว่าเรื่องมัสยามาพักบู๊ได้ไหม
ก็ได้นะ เพราะว่าเรื่องนี้จะออกแนวดราม่า ไม่ได้บู๊อย่างเรื่องที่ผ่านๆ มา ผมว่ามันเป็นเรื่องของโอกาสมากว่านะ ไม่ได้อยากจะมาพักบู๊อะไรหรอกนะ อยู่ที่ว่าทางช่องจะส่งงานมาให้มากกว่า
@@ การร่วมงานกับมุกดาล่ะ
อย่างแรกกับน้องมุกดา น้องเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานนะ พัฒนาได้เร็ว แรกๆ ก็อาจจะมีเกร็ง และเคอะเขินกันบ้าง แต่ผมเป็นสายเข้าหา ผมจะแกล้ง ผมจะชวนคุยสารพัดของผมไป ทำให้สนิทกันไวขึ้น น้องเองก็จะได้สบายๆ ขึ้นด้วย เวลาเข้าฉากกันจะได้ผ่อนคลาย ตอนนี้ก็สนิทกันมากแล้วด้วยนะ
@@ เจอนางเอกตัวเล็กอีกรอบ
หลังจากน้องพิม (พิมประภา ตั้งประภาพร) ก็มาเจอมุกดา สองคนเอาเข้าเอวผมได้เลย (หัวเราะ) ผมว่ามันก็ดูน่ารักดีนะ แบบว่าผมตัวใหญ่ๆ แล้วประกบคู่กับนางเอกตัวเล็กๆ เวลาเข้าฉากเรื่องนี้ ผมจะมีฉากที่ต้องอุ้มเขาเยอะนะ
@@ กับละครชุดเรื่อง “ภารกิจรัก” ล่ะ
ในเรื่องนี้ ผมรับบทเป็นทหารอากาศ เรื่องนี้คาแรกตอร์แตกต่างจากทุกเรื่อง เพราะว่าเขาผ่านการฝึกมาอย่างหนักหน่วงมาก เป็นคนที่นิ่งและจริงจังกับการทำงาน เป็นคนที่สุขุมมากนะ แต่ว่าในมุมมองของผม ในละครตัวนี้มีความแบดบอยนิดๆ จะเป็นคนแบบว่า (ยิ้ม) คือมั่นใจว่าตัวเองหล่ออะนะ ถ้าพูดง่ายๆ แต่ว่าเขาไม่ได้แสดงออกขนาดนั้น แล้วเรื่องนี้ผมก็ต้องเรียนในเรื่องการจับปืนใหม่หมดเลย แต่ละหน่วยก็จับปืนไม่เหมือนกันด้วย เราต้องจับให้ตรงตามหลักสูตรเป๊ะๆ เลย เรื่องนีี้ผมได้เล่นกับ เซฟ (เซฟฟานี่ อาวะนิค) แฟนๆ ละครก็ดีใจกันใหญ่เลยนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้แฟนๆ เรียกร้องอยากให้มาเล่นละครด้วยกันอีก
@@ เห็นว่าในเรื่องนี้ได้ทำงานกับลูกชายของธงชัย ประสงค์สันติ ด้วย
ใช่ คุณไทยมากำกับให้ คุณไทยเก่งมาก เขารู้จักกล้อง ที่ใช้ถ่ายทำทุกตัว เขาดูหนังมาเยอะมาก ทำให้ภาพในหัวของเขาเยอะ ผมว่าละครเรื่องนีี้จะดีมาก เราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ในวงการละครเลยนะ
@ พระเอกคิวทองละครหนา
@@ ถามถึงความพึงพอใจกับละครที่แน่นเอี้ยดขนาดนี้
ผมโอเคนะ เรื่อยๆ ผมยังมีแรงทำไหวอยู่ แต่ว่าผมขอทีละ 2 เรื่องพอดีกว่า เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยรับ ทะเลไฟ กาลครั้งหนึ่งฯ แล้วเพชรตัดเพชร โอ้ว ไม่ไหว หนักมากด้วย ตอนนั้นทะเลไฟนอกจากถ่ายเพิ่มแล้ว ยังถ่ายไปออนไปอีกด้วย ยอมรับว่าค่อนข้างหนักจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ผมว่าสองเรื่องกำลังดีนะ ถ้าหนักมากมันไม่ดีกับตัวเราด้วย หน้าโทรม ถ้าย้อนกลับไปดูเรื่องกาลครั้งหนึ่งญ หน้าผมโทรมมาก ผมดูตัวเองยังรู้สึกเลยว่า โทรมได้ขนาดนี้เลยเหรอ คือมันทำให้ทุกอย่างไม่ดีไปหมด หนึ่งคือผมอยากดูแลตัวเองออกมาให้ดีก่อน งานจะได้ออกมาดูดีไปด้วย
@@ ความพึงพอใจกับผลงานที่ออกมา
ผมพอใจนะ ผมเป็นคนที่ไม่กดดันตัวเอง ผมไม่คอยคิดว่าทุกอย่างเราต้องได้ เราต้องเป๊ะนะ ถ้ารู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเหนื่อยเกินไป ผมจะเบาจุดนั้นลง ไม่อยากกดดัน ผมจะมองกลับมาว่า ทำไมเราต้องเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ ผมเป็นคนที่ตั้งใจนะ ทว่าหากมันเหนื่อยจะไม่ดีกับตัวเรา และคนรอบข้าง อีกอย่างผมเป็นคนที่ไม่ได้วางจุดโฟกัสไว้สูงมาก ถ้าเราวางไว้สูงมาก แล้วไปไม่ถึงเราก็จะเสียใจ อย่างวางไว้แค่นี้แล้วไปถึงผมก็จะก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ มันเป็นกำลังใจที่เราจะรู้สึกว่า เราก็มาถึงได้นะ ผมใช้ชีวิตแบบว่าสบายๆ เลย อันไหนเหนื่อยก็พัก
@@ ทำงานหนักๆ เคยขอช่องหยุดพักบ้างไหม
ผมมีนะ ผมพักไปแล้วเกือบ 2 เดือน เห็นแบบนี้ ผมว่ามันแป๊บเดี๋ยวเอง ผมก็ไปเที่ยวเลย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไปเที่ยวแบบว่าเหมือนอั้นมานาน ชีวิตช่วงนั้นผมว่ามันก็ดีนะ เพราะว่าผมรู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลาย มันมีความสุขว่าอยากทำงานแล้วล่ะ พอแล้ว หยุดนานๆ เราก็จะรู้สึกว่า เฮ้ย วันนี้จะไปไหนดีล่ะ ก็คิดอยากทำงานแล้ว
@@ล่าสุดเห็นว่าเรียนปริญญาตรีจบแล้ว ทั้งทำงานและเรียนไปด้วยยากลำบากขนาดไหน
มันต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจมากเลย ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมต้องอ่านหนังสือเยอะมาก เพื่อที่จะไปสอบ ยิ่งในช่วงที่สอบก็จะหนักมาก เพราะทั้งท่องบท และอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ อ่านถึงตีสามแล้วค่อยนอน ถามว่าจะเรียนต่อไหม ผมอยากเรียนนะ แต่อยากเรียนในสายที่เราทำอยู่มากกว่านะ คือเราจะได้มีความรู้ใหม่ๆ มาช่วยเราทำงานตรงนี้ด้วย อาจจะเรียนเบื้องหลังมา ช่วยเราในเรื่องของมุมกล้อง แต่ถ้าจะมองในเรื่องการบริหาร ผมอยากจะไปเรียนที่เขาเปิดสอนเป็นคอร์สๆมากกว่า ผมว่าเหมาะกับผม และมองว่าตัวเองก็จะไปเจอนักบริหารคนอื่นๆด้วย
@@ ชีวิตตอนนี้อยากทำอะไรอีก
ไม่อยากนะ (หัวเราะ) เพราะว่าตอนนี้ผมเองก็มีงานเข้ามาเยอะ ส่วนธุรกิจร้านอาหารกำลังดีเลยนะ ไม่เปิดเพิ่มนะ เพราะว่ากลัวว่าจะเหนื่อยเกินไป (หัวเราะ) เรื่องอาหารมีรายละเอียดเยอะมากจริงๆ โชคดีว่าผมมีหุ้นส่วน เขาพอมีเวลาอยู่บ้าง สนิทกัน เนื่องจากเราเองก็ไม่มีเวลา แล้วช่วงนี้มัสยาเร่งถ่ายด้วย ผมไม่ได้เข้าร้าน
@@ โหมงานหนักขนาดนี้ได้เจอคุณแม่บ้างไหม
ไม่ค่อยได้เจอเลย แต่ผมก็จะโทรหาท่านวันละรอบสองรอบ ถามไถ่ว่าทำอะไรอยู่ และบอกว่าผมทำอะไรอยู่ คุณแม่ผมเข้าใจผมมากเลย ด้วยเวลาที่เราทำงานแล้วเราก็เหนื่อย ท่านจะให้กำลังใจ และคอยบอกให้ดูแลตัวเอง บอกว่าสู้ๆ ท่านอยู่บ้านที่สระบุรี ท่านไม่เหงาเพราะว่ามีหลานๆ อยู่ด้วย
@@ อัพเดทหัวใจ
@เห็นว่าไปเที่ยวไหนต่อไหนเจอกับ “ฐิสา” วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร บ่อยๆช่วงที่ผ่านมา
ไม่มีอะไรนะ ส่วนที่ว่าได้เจอกัน เป็นเรื่องของโอกาสจริงๆ แบบว่ารูุ้ว่าเขาจะไป แล้วบังเอิญว่าเราก็จะไปเหมือนกันแบบนี้ หรือมันจะบุพเพก็ได้นะ (หัวเราะ) ผมคิดของผมเองไม่ได้ถามใครเลย (หัวเราะ) ล้อเล่น ผมกับฐิสาเราสองคนเป็นเพื่อนทีี่ดีต่อกัน
@ กับสาวๆล่ะ
ผมก็ยังเรียนรู้อยู่ มีคนเข้ามา แล้วคุยกันใช่บ้างไม่ใช่บ้าง แต่เราต้องไม่กระโตกกระตากนะ แล้วเป็นเพื่อนๆ กันไป ถ้าเมื่อไหร่เห็นผมควงสาว ขอให้เข้ามาทักกันเลยดีกว่า(หัวเราะ) ผมขอแค่ความเข้าใจ
@มุมมองความรัก
โอ้ว.. ผมเพิ่ง 24 เอง ด้วยความที่ผมมาทำงานในวงการค่อนข้างเร็วด้วย ถ้าผมจะมีแฟนสักคนก็ต้องจริงจังนะ คุยกันแล้วโอเค เข้าใจกัน แล้วต่างฝ่ายต่างรับสิ่งที่อีกคนเป็นได้ แค่นั้น ถ้ารับกันได้ ทุกอย่างก็จบ
ยังคงรักษาเอกลักษณ์ตอบตรงและสร้างความสดใสในการสัมภาษณ์ได้เสมอ
เขาคือ มิกค์ ทองระย้า
ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก
เกิดวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2535
จบการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ปัจจุบันจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะสื่อสารมวลชน
ผลงานละครในอดีต ทะเลไฟ กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ
ผลงานปัจจุบัน นักบุญทรงกลด
ผลงานต่อไป มัสยา ภารกิจรัก
เรื่อง ภัทรวรรณ สุนทรธนานุกูล
ภาพ วริศรา วุฒิกุล