นุจรีฟิเจอริ่งวงอโยธยา โปรเจกท์สุดห้าว“พี่ร็อกน้องแหล่”

      นุจรี ศรีราชา ลูกทุ่งสาวนักแหล่ ดึงร็อกรุ่นใหญ่ กบ ไมโคร สู่ปรากฏการณ์ลูกทุ่ง&ร็อก ฟิเจอริ่งข้ามสายพันธุ์! พี่ร็อกน้องแหล่

กบ ไมโคร หรือ ไกรภพ จันทร์ดี กล่าวถึงการทำงานชุดใหม่ที่แหวกแนวจากที่เคยทำว่า

“เป็นแนวคิดของน้องนุจรีครับ บอกว่ามีเพลงที่พี่ชายแต่งมาเป็นเพลงคู่ผู้ชายผู้หญิง เขาก็เปิดให้ฟัง ตอนฟังทีแรกมันเหมือนเป็นเพลงร็อกเพื่อชีวิตแล้วก็มีเสียงนุจรีแหล่โผล่มา ผมก็เลยมาคุยกับเพื่อนๆ วงอโยธยาว่า เราลองเอาเพลงนี้มาทำกันดู อย่างน้อยที่สุดในชีวิตผมที่เล่นดนตรีร็อกมาตลอดชีวิตก็ได้ไปทำงานลูกทุ่งบ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่เคยมาร้องแบบนี้เลย ก็บอกนุจรีว่าเดี๋ยวเรามาลองร้องร่วมกันดู เราเริ่มต้นจากเดโมมาอัดเสียงร้องกันดู พอเสร็จรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการผสมสานระหว่างดนตรีร็อกแอนด์แหล่ เป็นความสุขของคนดนตรีที่ได้ทำอะไรที่มันแตกต่างเอาสองขั้วมาผสมกัน และก็เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ฟีเจอริ่ง กับนักร้องแหล่“

     นักร้องนักดนตรีที่เรียกกันว่า เป็นมือปืนในห้องบันทึกเสียง ที่อยู่เบื้องหลังเสียงกีตาร์เพลงดังให้แก่นักร้องต่างๆ มากมาย กล่าวถึงจุดเด่นของงานชุดนี้ว่า

“ภาคดนตรีจะเป็นการผสมดนตรีร็อกกับไทยเดิมเข้าไป มีการซ้อนดนตรีซ้อนไลน์กลองยาวไว้ในเพลงด้วย ซึ่งมีความสุขกับดนตรีที่ไม่ค่อยได้ยินจากที่ไหน มันน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว เพลงร็อกกับเพลงแหล่ลักษณะนี้ไม่เคยได้เกิดขึ้น เนื้อหาเพลงผมฟังแล้วเห็นภาพคล้ายๆ กับครอบครัวที่ผู้ชายก็สู้ยิบตา สู้ไปบ่นไป ส่วนผู้หญิงก็เป็นฝ่ายกำลังใจสู้เคียงข้างไปด้วยกัน ชีวิตทุกวันมันก็แบบนี้แหละ โดยเฉพาะคนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ ถึงเกิดเพลงชาร์จแบต ชาร์จใจ”

นักร้องที่มีผลงานเพลง “รักปอนปอน” ที่เป็นที่รู้จักกัน จากอัลบั้ม "ร็อก เล็ก เล็ก” วงไมโครกล่าวทิ้งท้ายว่า

“ครั้งนี้ผมกลับมาออกอัลบั้มในนาม ไกรภพ จันทร์ดี และวงอโยธยา ซึ่งจะไม่ได้เล่นแค่ดนตรีร็อก จะเล่นเพื่อชีวิต เล่นเพลงบอสซ่า ด้วยความที่ 4 คนของอโยธยามีโปรดิวเซอร์ที่เชี่ยวชาญ คร่ำหวอดอยู่ในการทำเพลงมี สิทธวีร์ พิพัฒน์ชุติพร "อ้วน" ธนารักษ์ พงษสังข์กวาง ตรัยรัตน์ โพธิ์ทอง ก็เลยไม่ได้เอาตัวผมเป็นตัวตั้งอย่าง "รักปอนปอน” ตัวอโยธยาเลยเป็นอะไรก็ได้แม้กระทั่ง 3 ช่า เพื่อชีวิต ฮาร์ดร็อก อยู่ดีๆ นุจรีก็เข้ามาแทรก เราทำเพลงกันครบ 8 เพลง แล้วน้องโผล่มา ก็เลยเติมเพลง “ชาร์จแบต ชาร์จใจ” มันมีเรื่องความเป็นไทยเข้ามาผสมด้วย เลยลงตัวกัน เราไม่ได้ทำรองรับตลาด เราทำรองรับความสามารถในวงเรามากกว่า ผมไม่อยากเป็นคนที่ยึดเอาทุกอย่างมาทำคนเดียว มันเป็นส่วนผสมประสบการณ์ชีวิตของโปรดิวเซอร์ทั้ง 4 คน ตอนที่ผมร้องเพลงนี้กับน้อง ผมกลัว น้องเขาร้องเก่งมาก การร้องแหล่ความสามารถสเกลไปกว่าลูกทุ่งอีกระดับหนึ่ง คนที่แหล่ได้ถ้าเทียบกับผมไปไม่ถึงนุจรี ผมต้องร้องแบบดิบๆ กระแทกๆ แล้วให้นุจรีแหล่เลย โชว์ความเป็นตัวตนของแต่ละคนออกมา ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เล่นอย่างที่ตัวเองเป็น ร้องอย่างที่ตัวเองเป็นเลย”

ด้านนุจรีกล่าวว่า “ในวงการก็ยังไม่มีการผสมผสานแนวเพลงกันแบบนี้ ก็เลยนำเสนอพี่กบ ทุกคนในวงอโยธยาเรื่องความสามารถมันสุดยอดอยู่แล้ว พี่ๆ เขาก็เป็นระดับตำนาน มันผสมผสานกันลงตัวสำหรับโปรเจกท์ "พี่ร็อกน้องแหล่” เนื้อเพลงนี้พี่ทวิน เคล้าเครือ แต่ง กว่าจะทำดนตรีให้ผสมผสานกันลงตัวแบบนี้ เรื่องดนตรีร็อกที่มีดนตรีไทยผสม การร้องของนุจรีกับพี่กบ ตอนแรกก็มีอาการงงๆ เหมือนกัน”