แค่ต้นปีวงการวิทยุทรุด “เอไทม์” คืน 2 คลื่นหลัก “89 เอฟเอ็ม” และ “94 เอฟเอ็ม”
ก่อนหน้านี้มีการปรับเปลี่ยนคลื่น “ชิล 89 เอฟเอ็ม” เป็น “ชิล 104.5 เอฟเอ็ม” ไม่ทันไร ก็มีข่าวว่า “เอไทม์ มีเดีย” ที่มีเจ้าแม่แห่งวงการคลื่นวิทยุอย่าง “ฉอด” สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้กุมบังเหียน โละคลื่น “94 อีเอฟเอ็ม” ทิ้ง พอมีข่าวลือออกมาแบบนี้ ล่าสุดได้มีโอกาสเจอและพูดคุยกับ “ฉอด” สายทิพย์ บอส์ใหญ่ จึงอธิบายถึงเรื่องราวดังกล่าว
“20 ปีแล้วที่เรารู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไป ความเป็นโลกยุคดิจิตัลมันก้าวเข้ามา เรื่องออนไลน์มันกล่าวเข้ามา ในตอนนั้นเราทำวิทยุไปพร้อมกับออนไลน์ มีการสร้างแอพลิเคชั่น มีการออกอากาศออนไลน์เรียลไทม์ มาถึงตรงนี้คิดว่าน่าจะถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะก้าวไปสู่การเป็นวิทยุออนไลน์เต็มตัว ซึ่งเราจะเป็นคลื่นแรกที่การทำวิทยุออนไลน์แบบนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไปเราจะมีคลื่นวิทยุที่ออนแอร์ด้วยกัน 2 คลื่นก็คือกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็มกับเราย้ายอีเอฟเอ็มจาก 94 มาเป็น 104.5 และเปลี่ยนจากคลื่นชิล เอฟเอ็ม มาเป็นชิล ออนไลน์ คลื่นวิทยุของเอไทม์จะกลายเป็นคลื่นวิทยุ 2 คลื่น และออนไลน์ 1 คลื่น ที่เลือกให้ชิล มาเป็นวิทยุออนไลน์ เพราะเราดูจากสถิติที่ผ่านมา ว่าคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ฟังคลื่นชิล จะเป็นแบบกิน เที่ยว ช้อป ฟังเพลง ทำให้รู้สึกว่ามันเหมาะกับการที่มาเป็นออนไลน์ โดยคลื่น 104.5 มีเวลาที่ออนแอร์ยาวกว่าคลื่นอื่นๆ เราเลยเลือกเก็บ 104.5 ไว้ แล้วคืนคลื่น 94 ไป” บอสส์เอไทม์แจง
ถามต่อกับคำว่า “คลื่นหายไปอีกแล้ว” ส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือของเอไทม์หรือไม่
“ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่า เราเป็นคนที่เลือกจะคืนคลื่นเองนะ ไม่ได้ถูกเรียกคืนนะ ต้องบอกก่อนว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปแล้ว สมัยก่อนความตื่นเต้นของวงการวิทยุคือ การวิ่งไปประมูลคลื่นแล้วแย่งกัน แต่สมัยนี้ผู้ผลิตไม่เยอะ ไม่ตื่นเต้นแล้ว เพราะไม่มีใครมาแย่งชิงกันเหมือนสมัยก่อน แต่ ณ ตอนนี้สิ่งที่เอไทม์เป็นในตอนนี้ มันเป็นเรื่องจากการที่เรารู้สึกว่ามันต้องไปสู่โลกยุคใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับการลดคลื่น คืนคลื่น เพราะมันมีคลื่นเท่าเดิม แต่แค่ว่ามันถึงเวลาแล้ว อย่างที่บอกว่าเราทำงานออนไลน์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ก่อนคนอื่นมาตั้งนานแล้ว โดยความเข้าใจ ว่ามันต้องไปสู่โลกยุคนี้แน่นอน แต่ว่ามันแค่บ่มเพาะแล้วก็รอเวลา จริงๆ แล้วในส่วนของคลื่นมันหมดสัญญาตอนสิ้นปี ถ้าเราต่อสัญญา ต้องต่อไปอีก 2 ปี คือถ้าเราจะทำอะไร ต้องรอไปอีก 2 ปี มันช้าไป จึงตัดสินใจคงต้องเป็นช่วงเวลานี้ที่ต้องคืนคลื่นไป ส่วนขั้นตอนที่ว่าชิลเปลี่ยนมาเป็น 104.5 เอฟเอ็มไม่เท่าไหร่ ก็ย้ายอีเอฟเอ็มมาแทน แล้วเอาชิลไปเป็นออนไลน์ คือต้องบอกก่อนว่า จริงๆ เรามีคุยไว้แล้ว แต่เรื่องของการพูดคุยกันกับทางเจ้าของสัมปทานที่ยืดเวลา 94 เอฟเอ็มให้เราต่อจากสัญญามา ทำให้มันเกิดขั้นตอนหลายสเต๊ป ในตอนนั้นเราตัดสินใจแต่แรกแล้วว่าเราจะคืน คลื่น 89 และ 94 เอฟเอ็ม แต่ด้วยทุกอย่างมันไม่พอดีกัน มันเลยต้องมีช่วงเวลาของมัน” ผู้บริหารชื่อดังเผย
ถามว่าในฐานะของคนทำคลื่นวิทยุมา 25 ปี คิดว่าคลื่นวิทยุจะจบลงตอนนี้ไหม
“ถ้าถามส่วนตัว เชื่อว่า 3 ปี 5 ปี คลื่นวิทยุก็ยังอยู่ แต่ในส่วนของออนไลน์เราแค่ให้ความสะดวกกับคนฟังว่าเขาต้องการฟังแบบไหน สนุกกับวิถีแบบไหนมากกว่า ไม่ได้หมายความว่าคลื่นวิทยุมันจะหายไป หรือเลิกไปเลย ในวันนี้เรายังมีการพูดกันถึงเรื่องวิทยุกันอยู่ มันยังไม่ถึงขนาดที่ว่า ในวันนี้เราไม่ต้องมีคลื่นวิทยุก็ได้ เพราะยังมีคนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากที่ยังบริโภคคลื่นวิทยุอยู่ ด้วยวิถีชีวิตของแต่ละคน” ฉอดกล่าว
“ฉอด” สายทิพย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง