‘บุ๋ม’ดราม่าน้ำตาแตก!! แลกขึ้นคอนเสิร์ตรวมหน้ากาก

            หลังจากจบการประกาศผล ถอด "หน้ากากมังกร" ในรายการ "The Mask Singer หน้ากากนักร้อง" ออกมาแล้วว่าเป็น "บุ๋ม" ปนัดดา ทำเอาคนดูเซอร์ไพรส์กันหนักมาก เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่า บุ๋ม จะร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ และหลังจบรายการพิธีกรสาว ได้มีการไลฟ์สด เพื่อพูดคุยกับแฟนๆ ในแฟนเพจ “ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” พร้อมกับกับคำพูดตัดพ้อเล็กๆ ทั้งน้ำตาว่า เธอจะไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตรยวมหน้ากากในวันที่ 2 เมษายนนี้ 

            “รู้ว่าเขาจะมีคอนเสิร์ตกัน แต่ไม่มีบุ๋ม ไม่มีมังกร อาจจะเป็นเพราะเราไม่ใช่นักร้อง เราก็เข้าใจ ร้องเพลงในนี้ ก็ได้เนอะ เขาอาจจะดูกระแสก็ได้มั้งคะ ..เขาโทรมาแคนเซิลคิว บุ๋มไม่ได้ไปร้องเพลง ..บุ๋มว่าบุ๋มก็เต็มที่กับพวกเขา ไม่รู้อ่ะ หน้ากากพี่หอยได้ไป ทุกคนได้ไป เขาไปบอกคนอื่นว่าบุ๋มไม่มีคิว บุ๋มยกเลิกงานต่างจังหวัดออกไปแล้วด้วย เสียใจ แต่ก็.. เราไม่ใช่นักร้องอ่ะ เห็นมั้ย เขาก็ยังมองภาพเราแค่นี้ ไม่ให้โอกาส แต่ก็เอาเหอะ มันเป็นสิทธิ์ของเขา” งานนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” ได้ต่อสายตรง ถึง “หน้ากากมังกร” ได้รับคำตอบล่าสุดกับประเด็นดราม่านี้ว่า 

 

          "คลิปนั้นที่เราร้องไห้ต้องบอกก่อนว่า วันนั้นเป็นวันที่ประกาศถอดหน้ากากของเราพอดี แล้วเรามารู้ว่า เราไม่ได้มีชื่อขึ้นคอนเสิร์ตรวมหน้ากากนะ ทำให้เรารูสึกเสียใจ ก็สะอึกไป คือเราทำงานมา เราเข้าใจว่า มันมีงานที่เราอยากได้ แต่ไม่ได้ก็มี เราเข้าใจเรื่องนี้ แต่วันที่ถอดหน้ากากมังกร แล้วประกาศออกมาว่าเป็นบุ๋ม เราก็ไลฟ์สดคุยกับแฟนๆ แล้วมีแฟนๆ ถามเข้ามาว่าเราจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตรวมหน้ากากไหม ซึ่งเราเพิ่งรู้ว่าเรา ไม่ได้มีชื่อขึ้นนะ เราก็ไม่รู้จะบอกแฟนๆ ที่เขารักเรายังไง คือประกาสผลวันพฤหัสบดี (9 มี.ค.) ตอน 20.00 น. ใช่ไหม แต่บุ๋มเพิ่งมารู้จาก "พี่หนึ่ง" (จักรวาล เสาธงยุติธรรม) ประมาณช่วงเช้าของวันนั้นว่า จะมีคอนเสิร์ตรวมหน้ากาก แต่ไม่มีชื่อเราในคอนเสิร์ต เราเลยรู้สึกนิดหนึ่ง เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจทำงานนี้มากๆ เพลงหนึ่งเพลงที่ขึ้นโชว์ “บุ๋ม” ฝึกร้องมาเป็นพันๆ รอบ และบุ๋มก็เคลียร์คิวงานของตัวเองรอเอาไว้ให้หมดแล้ว

          แต่ล่าสุดทีมงานแจ้งมาว่า มีชื่อเราในคอนเสิร์ตแล้วนะ คือต้องบอกอย่างนี้ ในการทำรายการนี้ ทีมงานทุกคนก็ไม่รู้ว่านักร้อง ภายใต้หน้ากากคือใคร แล้วก่อนหน้านี้ ก็ต้องบอกว่าใน 4 คน “หน้ากากมังกร” มีกระแสน้อยที่สุด ถ้านับจากยอดวิวยูทูปหรืออะไรก็แล้วแต่ และหน้ากากในรายการก็เยอะมากๆ และเขาอาจจะต้องการความชัวร์ คือต้องเอาคนที่มั่นใจว่าร้องเพลงได้แน่ๆ ขึ้นคอนเสิร์ตแล้วเอาคนดูอยู่ไว้ก่อน แต่ปรากฏว่าพอถอดหน้ากากมังกรออกมา กระแสหน้ากากมังกรดีมากทวิตเตอร์ติดอันดับ 1 คนดูเซอร์ไพรส์มากที่เป็นบุ๋ม และเขาเข้าใจถึงตัวตนของเรามากขึ้นว่า ที่ผ่านมาทำไมเราต้องดูแข็ง ดูร้าย ดูแรง เพราะเรามีเหตุผล แต่เราก็มีความฝันที่เราอยากทำคือการร้องเพลง แล้วคนก็ได้เห็นมุมนั้นของบุ๋ม เขาก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ไปกับเรา เพราะหลายคนไม่รู้ว่าบุ๋มรักการร้องเพลงมาก แต่เราไม่เคยได้มีโอกาสทำตรงนี้ิเลย เพราะเราต้องทำอย่างอื่น เพื่อความฝันของคนที่เรารักมาตลอด  

          (สรุปว่าคอนเสิร์ตรวมหน้ากาก วันที่ 2 เมษายน บุ๋มได้ขึ้นแน่นอน) เท่าที่ทราบตอนนี้นะ มีชื่อได้ขึ้น แต่ต้องรอการคอนเฟิร์มจากทีมงานอย่างเป็นทางการ รอเขาประกาศออกมาก่อน จริงๆ บุ๋มต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่อยากเห็นบุ๋มขึ้นไปยืนอยู่ตรงนั้น แล้วอาจจะเข้าไปคอมเม้นท์ไปบอกในแฟนเพจรายการ หรือทุกช่องทางที่เขาทำได้ว่าเขาอยากเห็นบุ๋มขึ้นคอนเสิร์ต ก็ต้องขอบคุณพวกเขาจริงๆ 

          ต้องบอกอย่างนี้ว่า บุ๋ม ทำงานในวงการมา 17 ปี เจอกระแสข่าวมามากมายอย่างที่ทุกคนทราบ แต่บุ๋มไม่เคยเจอรายการอะไรที่กระแสแรงขนาดนี้มาก่อนเลย เพราะบุ๋มก็ออกรายการมามากมาย แต่กระแสของรายการนี้มันเปลี่ยนชีวิตบุ๋มไปเลย (แฟนๆ ได้เห็นอีกมุมหนึ่ง) ใช่ เดี๋ยวนี้เวลาไปไหนมาไหน ไม่มีใครเรียกชื่อ บุ๋ม แล้วนะ เรียกว่า มังกร (หัวเราะ) เรากลายเป็น “แม่มังกร” ไปแล้ว (หัวเราะ) ต้องขอบคุณรายการนี้มากๆ และบุ๋มบอกเลยว่า ทีมงานทำงานเป็นมืออาชีพจริงๆ การอัดรายการทุกครั้ง ทีมงานดูแลทุกหน้ากากให้เป็นความลับมาก และไม่มีใครรู้เลยว่า ใครเป็นใคร แต่การที่บุ๋มมีโอกาสได้เป็น 4 คนสุดท้ายในรายการ บุ๋มได้ยินเสียงจริงของอีก 3 หน้ากากที่เหลือแล้ว เราก็เดาเอง ว่าเขาต้องเป็นนักร้องแน่ๆ แต่ทุกวันนี้บุ๋มยังไม่รู้เลยว่า “ทุเรียน” มันเป็นใคร แต่ที่รู้คือทุกคนเก่งหมด และที่เหลืออีก 3 หน้ากาก ต้องรอลุ้นไปด้วยกัน"บุ๋มกล่าวสรุป