บันเทิง

สืบจิต ไขปริศนา ปี 2 ตอน 15

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

The Mentalist 215 ตอน Red Herring

ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 23.00 น. ทางช่อง NOW26

The Mentalist 215 ตอน Red Herring 


    รีสอร์ทเวสติ้ง นาปา แวลลี่ย์ แคลิฟอร์เนีย ดุสเตอร์เบิร์กกล่าวต้อนรับสู่การแข่งขันเชฟมือทองปีที่ 23 ดุสเตอร์เบิร์กแนะนำเชฟทีละคน เริ่มที่อาหารจานแรก ของเจ็ฟฟรี่ย์ บาร์จ
    เจ็ฟฟรี่ย์ขึ้นมาเอ่ยแนะนำอาหาร ทันใดนั้นก็เขาก็แน่นิ่งล้มลง เสียชิวตทันที
    ทีมลิสบอนมาเพราะเชฟคนหนึ่งโทรหาพ่อที่เป็นที่สว. และสว.โทรหารัฐมนตรี แล้วผู้ช่วยท่านโทรหาลิสบอนสั่งให้มาดูแล โชรายงานว่าเจ็ฟฟรีย์เพิ่งมีเรื่องชกต่อยกับดุสเตอร์เบิร์ก
    ลิสบอนสอบปากคำดุสเตอร์เบิร์ก เขาบอกว่าทะเลาะกันเรื่องเห็ดทรัฟเฟิ่ล
    “เจ็ฟฟรี่ย์สั่งมาและออกเงินเองด้วยครับ สองชั่วโมงก่อนการแข่งเขาหาไม่เจอ เขาขอให้หามาเปลี่ยนต้องเสียอีกเป็นพัน ผมไม่ยอม เขาโวยวายและผลักอกผม เป็นธรรมดาที่ผมต้องป้องกันตัว
    “แน่นอนและอย่างนุ่มนวล”
    ลิสบอนถาม “แล้วเขาล้มหัวฟาดพื้นเหรอคะ”
    ดุสเตอร์เบิร์กว่า “มันเป็นอุบัติเหตุ”
    “ต้องรอดูก่อน”
    แพททริกถาม “เจ็ฟฟรี่ย์ดูเป็นคนเอาเรื่อง หมัดเขาหนักมั้ย”
    “ไม่ ไม่เลย เขา..เขาเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะเสียงดังได้ แต่เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับผม”
    “อัจฉริยะ จริงเหรอ อื้อ” ลิสบอนกระแอม
    ริกส์บีถือออร์เดิร์ฟเดินกินคุยกับโช ขณะที่แพททริกไปหยิบอาหารจานแรกที่เจ็ฟฟรี่ย์เสนอ พอชิมแล้วรู้สึกว่ารสชาติแย่มาก จึงเดินไปหาคุณหมอสไตเนอร์ ที่กำลังตรวจศพเจ็ฟฟรีย์อยู่ แล้วใช้มือสไตเนอร์จับปากดู ปรากฏว่าที่ลิ้นแข็งเปลี่ยนสี เขารีบเรียกลิสบอนมาดู
    สไตเนอร์สงสัย “เอ่อ ทำไมถึงคิดว่าต้องดูในปาก” 
    แพททริกว่า “อาหารรสชาติห่วยแปลว่าต่อมรับรสแย่”
    ลิสบอนสั่งดุสเตอร์เบิร์ดรวมคนแบ่งกันสอบปากคำ โชถามว่าตายเพราะอะไร แพททริกว่าวางยา ริกส์บีที่กินอาหารอยู่ถึงกับสำลัก
    ไม่นานก็ทราบผลว่ายาพิษเป็นไรซิน โชว่าทำได้ง่ายแค่บดเมล็ดละหุ่ง ทำให้มีผู้ต้องสงสัยหลายคน ริกส์บีว่าไรซินใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะออกฤทธิ์ โชว่าภรรยาผู้ตายโทรมา ลิสบอนว่าเธอกับแพททริกจะไปคุยกับภรรยา 

สืบจิต ไขปริศนา ปี 2 ตอน 15
    โชสอบปากคำเชฟทุกคน อาร์ลิสว่เจ็ฟฟรี่ย์เป็นเพื่อนรัก จูเลียว่าถึงบอกพ่อให้ตามพวกโชมา อยากรู้ว่าใครทำ
    โชถามต่อ “ดีแล้วที่คุณโทรหาเราเขาโดนวางยา คุณรู้ได้ยังไงครับ”
    “เปล่าค่ะ ก็แค่เห็นมันแปลกๆ”
    “พวกคุณเข้าแข่งขันเพื่อเงินรางวัลก้อนโต ถ้าขู่แข่งตายก็ช่วยได้”
    จูเลียย้อน “ช่วยได้เหรอ”
    อาร์ลิสช่วยพูด “พวกเรากิน ทำงานด้วยกัน สนิทกัน”
    ฮานนาห์แทรกว่าถ้าเป็นเพื่อนรักกันจริง ทำไมคิดจะขโมยตำแหน่งล่ะ อาร์ลิสว่าแค่ถามดู โชหันไปถามฮานนาห์ว่ารู้จักยังไงกับเจ็ฟฟรี่ย์ ฮานนาห์ว่าเเอกลียดเข้ากระดูกดำ ทั้งหลงตัวเอง จอมบงการ เก่งแค่ครึ่งของที่โม้ จูเลียค้านจนจะทะเลาะกัน โชเปลี่ยนเรื่องถามถึงเห็ดที่หายไป ลูโด้ว่าคนขโมยเห็ดเป็นฆาตกรด้วยเหรอ อาร์ลิสว่าลูโด้กับเจ็ฟฟรี่ย์ไม่กินเส้นกัน โชหาเห็ดเจอ ลูโด้ว่าจับเขาไปได้เลย แต่เขาไม่ได้ขโมยเห็ด
    ด้านลิสบอนกับแพททริกคุยกับแอ๊บบิเกล เธอว่าแยกกันอยู่หลายเดือนแล้ว ลิสบอนถามว่าแยกกันเพราะอะไร เธอว่าเรื่องดื่มเหล้า ระหว่างเควินน้องชายเจ็ฟฟรี่ย์เข้ามาแทรกว่าไม่จริงว่าเธอเกลียดเจ็ฟฟรี่ย์ บอกว่าพี่ชายเขาหาเงินเป็นอัจฉริยะ ส่วนแอ๊บบิเกลใช้เงินอย่างเดียว
    แอ๊บบิเกลพยายามบอกให้เควินพอ แต่เขาไม่ เธอว่าเพราะดื่มเหล้าเหมือนกัน เควินว่าเจ็ฟฟรี่ย์เลิกเหล้ามา 2 อาทิตย์แล้ว แอ๊บบิเกลว่าเจ็ฟฟรี่ย์ก็บอกเธออย่างนั้น ลิสบอนจับได้ว่าเมื่อกี้บอกไม่ได้คุย เธอยอมรับว่าเขาโทรมา แพททริกถามว่ามีอะไรปิดบังอีก
    “เมื่อคืนเขาโทรหาฉันตอนเที่ยงคืน ฉันวางสาย”
    “เขาพูดว่าไง”
    “เขาว่า... เขาบอกเสียใจ”
    ห้องสวีทผู้ตาย รีสอร์ทเวสติ้ง ริกส์บีตรวจหาไรซินแต่ไม่พบ แพททริกยังรื้อค้น แล้วก็ไปเจอที่พักน้ำชักโครกห้องน้ำ เขาหยิบขวดเหล้าออกมาให้ริกส์บีตรวจ ก็พบสารไรซิน
    แพททริกไปบอกพวกเชฟเรื่องพบไรซินในเหล้า แล้วเขาก็จี้ไปที่ลูโด้ว่าเป็นเขา ลูโด้โวยวายว่าไม่ได้ทำ แล้วแพททริกก็บอกริกส์บีว่าฮานนาห์คือคนที่ต้องคุย เพราะพอเขากล่าวหาลูโด้เธอทำท่าโล่งอกสุดๆ
    ฮานนาห์ถูกโชซักถาม ยังเรื่องที่เธอซื้อเหล้าจินยี่ห้อเดียวกับที่พบในห้องผู้ตาย
    “ฮานนาห์ เรามีหลักฐานจะพอจะตั้งข้อหาคุณ คุณต้องบอกเรา ว่าเรื่องมันเป็นยังไง”
    ฮานนาห์ถอนใจ “ฉันอาย28 มีร้านของตัวเอง ฉันไม่มีเส้นสาย เรื่องทำร้านอาหาร ไม่เคยออกตำราอาหาร เวสติ้งเป็นใบเบิกทาง แค่โค่นเจ็ฟฟรี่ย์ให้ได้ ทุกคนรู้ดี ฉันเลยคิดว่า..จะทำให้เขาเมาทำไมไม่ได้ เพิ่มโอกาสให้ตัวเอง ใช่ฉันเป็นคนซื้อเหล้าจิน แต่ฉันไม่รู้ว่ามีสารไรซินได้ยังไง ก็แค่อยากให้เขาเมา..แค่นั้น..ไม่ได้วางยา”
    ลิสบอนถอนใจ “หลักฐานอ่อนคุมตัวเธอไม่ได้ คุณมีอะไร” 
    แวน เพลท์ว่า “บันทึกโทรศัพท์ ยืนยันว่าเขาโทรหาเมีย”
    “คุยกันนานมั้ย” 
    “ประมาณ5วินาที เธอคงวางสาย แต่โทรครั้งที่2ตอนตี2 หนนี้คุยเป็นชั่วโมง”
    “เขาโทรหาใคร” 
    “ร้านอาหารตัวเอง”
    ลิสบอนกับแพททริกไปที่ร้านอาหาร เจอแอ๊บบิเกลคุยเรื่องเงินกับอไลซ่าอยู่ แพททริกถามว่ามีปัญหาเรื่องเงินเหรอ แอ๊บบิเกลว่าหนี้ท่วมหัว อไลซ่าเสริมว่าเป็นเรื่องอาหาร แอ๊บบิเกลเลยแนะนำ
    “นี่อไลซ่า กรีน รองเชฟใหญ่ของเจฟฟรี่ย์ เธอช่วยทำให้งานร้านอาหารไปต่อได้ค่ะ ฉันเป็นเจ้าของร้านที่ใกล้เจ๊ง”
    อไลซ่าหัวเราะน้อยๆ “โทษทีค่ะ เอ่อ..ใครๆ ก็พูดว่าที่นี่ใกล้เจ๊ง แต่เจ็ฟฟรี่ย์คงพูดว่า ใช่ แจะเจ๊งอย่างมีสไตล์”
    แพททริกมองพิจารณา “คุณเป็นคนที่ มีแต่คนอยากได้ตัว ต้องเก่งมากแน่ๆ”
    “งั้นเหรอ ฉันไม่รู้ตัวนะเนี่ย”
    “ถ่อมตัวรึเปล่า”
    “เมื่อคืนเจ็ฟฟรี่ย์โทรมาที่ร้านตอนตี2 รู้มั้ยเขาคุยกับใคร”
    อไลซ่าว่า “ฉันค่ะ คือเอ่อเขากำลังคิดจะเปลี่ยนเมนูแข่งขันเลยโทรมาปรึกษาฉันค่ะ”
    “รอตอนเช้าไม่ได้เหรอ” 
    “โอ้เอ่อ เจ็ฟก็เป็นแบบนี้ คิดอะไรได้ก็ต้องเดี๋ยวนั้น” 
    “คุณคงเบื่อแย่ที่ต้องคุยเรื่องงานกลางดึกแบบนี้” แพททริกถาม
    “ไม่เลยค่ะ ถ้าอยากทำอะไรที่ยิ่งใหญ่..มันเป็นงานค่ะ”
    แอ๊บบิเกลกระแอม “คุณควรรีบเอาเงินไปเข้าก่อนที่เช็คจะเด้ง”
    ลิสบอนกับแพททริกก็ขอตัวกลับ พอออกมาจากร้านลิสบอนก็พบว่าแพททริกจิกกุญแจรถไปแล้ว เธอจำต้องให้เขาขับ แต่พอขึ้นรถก็เห็นมีคนกระชากเงินจากอไลซ่า แล้ววิ่งมาทางรถที่ทั้งสองนั่งพอดี แพททริกเปิดประตูชนคนร้ายล้มลงไปนอน ลิสบอนลงไปดูเปิดหน้า ปรากฏว่าคือเควิน

สืบจิต ไขปริศนา ปี 2 ตอน 15
    เควินว่าทำไปเพราะอยากได้เงินแล้วขอข้อต่อรอง มีข้อมูลสำคัญช่วยไขคดีเจ็ฟฟรี่ย์ ลิสบอนว่าเขาทุเรศ แล้วไม่ให้ข้อต่อรอง เควินยอมจำนน บอกว่าชอน ฮอร์ลิค เจ็ฟฟรี่ย์ติดเงินเขาอยู่ เพราะเอาเงินมาลงทุนที่ร้าน
    แวน เพลท์หาข้อมูล ชอน ฮอร์ลิคว่ามิจฉาชีพ ปลอมแปลง กรรโชกทรัพย์ ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่เคยเอาผิดเขาได้ ฉลาดมาก ลิสบอกให้เธอไปกับริกส์บี และให้โชสืบการเงินของร้าน แพททริกขอไปกับโชด้วย
    โชดูการเงิน อไลซ่าจัดโต๊ะ แพททริกชิมอาหารไปคุยกับอไลซ่าไป ชมว่าอาหารที่อร่อยมาก
    “หวังว่าคุณจะรักษาคุณภาพกับนายคนใหม่ แอ๊บบิเกลจะห่วงเรื่องเงินมากกว่าอาหาร”
    “ไม่มีปัญหาแน่ ฉันรับรอง” อไลซ่าหันไปชิมอาหารจากเชฟอีกคนแล้วบ่นว่าให้ไปทำใหม่ 
    “ดูแล้วคุณเป็นคนมีพรสวรรค์มาก คุณน่าจะออกไปสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองตั้งนานแล้ว”
    “เอ่อ ที่จริงฉันออกไปสร้างชื่อให้ตัวเองแล้วเมื่อ..สองสามเดือนก่อน”
    แพททริกว่า “เจ๊งอย่างมีสไตล์”
    “ก็ดีสิ รัฐไม่ยอมออกใบอนุญาตขายสุราให้” อไลซ่าหัวเราะน้อยๆ “ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีทุน โชคยังดีเจ็ฟให้ฉันกลับมาทำ”
    “ทำไมไม่เป็นแฟนเขาซะเลย ก็เขาแยกกันอยู่กับเมียแล้ว”
    อไลซ่าหัวเราะน้อยๆ “คือฉัน..เป็นพวกรออะไรไม่ได้ ขอตัวค่ะต้องไปเตรียมงานก่อน”
    “ขอบคุณนะครับ”
    “อือฮึ ไม่เห็นมีการกู้ยืมเงินเลย เป็นเรื่องดี เจ็ฟฟรี่ย์ไม่ได้เงินเดือนด้วยซ้ำ”
    “ไม่ได้เลยเหรอ อื้อ ตอนขากลับต้องแวะที่นึงซะแล้ว”
    แวน เพลท์กับริกส์บีพบฮอร์ลิค เขายอมรับว่าพูดกับเจ็ฟฟรี่ย์ไม่ค่อยดี แล้วบอกว่าเขาไม่ฆ่าคนที่มีปัญญาใช้หนี้ แล้วยังบอกว่าเจ็ฟฟรี่ย์ไปพักที่โรงแรมริทช์โดยจ่ายเงินสด ทั้งสองเช็คไปที่โรงแรม ลิสบอนคิดว่าต้องไปกับคู่ขา แล้วจ่ายเงินสด
    แพททริกเข้าไปชิมอาหารในครัว คุยกับพวกเชฟ จูเลียชวนชิมอาหารกลางวันของเธอ เขาว่าหอมจัง ใส่อะไร 
    จูเลียว่า “พริกแดงซาวีน่า ค่อนข้างเผ็ดร้อน”
    อาร์ลิสแทรกว่า “ค่อนข้างเหรอ มันพริกที่เผ็ดที่สุดเชื่อผม อย่ากินเชียวนะ”
    “มันเพิ่มรสชาติกับทุกอย่าง เนื้อ ผลไม้ ซุป แต่คนพวกนี้ไม่ค่อยรู้ เด็กชะมัด”
    “งั้นขอผมชิมหน่อยก็แล้วกัน”
    ดุสเตอร์เบิร์กแทรก “คุณเจนครับ เชฟของเรางานยุ่งมากๆ ช่วยมาวันอื่นได้มั้ยครับ”
    “คุณนี่ใจร้ายแถมแล้งน้ำใจอีกต่างหาก จัดการแข่งขันต่อทั้งที่มีคนตายเนี่ยนะ”
    “การแข่งขันนี้คือเครื่องการันตีชีวิตของเชพทุกคน และไม่ว่าจะมีคนตายหรือไม่ คนอยู่ก็ต้องกินอาหารกันทั้งนั้น”
    “และคุณก็อยากได้เงิน” 
    ดุสเตอร์เบิร์กตัดบท “คุณต้องไปได้แล้ว”
    “ก็ได้ ผมมีข้อมูลที่ต้องการพอแล้ว ขอบคุณครับ”
    ลูโด้ว่า “เขาโกหก ยังไม่ถามแม้แต่คำถามเดียว"
    “ทำไมต้องถาม แค่ดูพวกคุณทำอาหารก็ได้ข้อมูลที่อยากได้แล้วอย่างเช่นคุณเนี่ยน..ใส่มะนาวในอาหารมากไป ทาร์ด รสชาติจี๊ดจ๊าดเป็นการแปลงความก้าวร้าวที่มีต่อบุคคลสำคัญในชีวิต ดูแล้วคุณเป็นลูกคนโปรดของพ่อ งั้นผมเดาว่าเป็นแม่ ไม่ใช่ขอแก้ใหม่ คงเป็นแม่เลี้ยง ลูโด้ คุณเป็นลูกที่เขาขอมาเลี้ยงใช่มั้ย”
    ลูโด้ปฏิเสธ “ไม่..ไม่ใช่เลย”
    “แค่ลองเดา งั้นต่อไป คุณเป็นกิ๊กกับเจ็ฟฟรี่ย์ใช่มั้ย ตอบด้วย” แพททริกมองจูเลีย
    จูเลียอึ้ง “อะไรนะ”
    ดุสเตอร์เบิร์กว่า “คุณเดาจากอาหารเนี่ยนะ”
    “พวกเขาทำอาหารด้วยกันทุกวันแต่จังหวะในครัวยังไม่ได้ ยังเดินชนกันบ้างขวางทางกันบ้าง คุณไม่ค่อยใส่ใจเธอนะอาร์ลิส มิน่าเธอถึงมีกิ๊ก”
    อาร์ลิสว่า “เหลวไหลสิ้นดี”
    “งั้นเหรอ ทำไมภรรยาคุณถึงให้พ่อเธอสั่งทีมตำรวจมือดีที่สุดมาทำคดีนี้ มองดูเธอสิ เธอไม่ปฏิเสธ..ไม่ปฏิเสธเลยซักนิด” จูเลียยังอึ้ง
    อาร์ลิสจ้องจูเลีย “จริงเหรอ” 
    จูเลียถูกพาตัวไปสอบปากคำ เธอว่า
    “เราเริ่มคบกันได้5เดือนแล้วค่ะ หลังจากที่เขาแยกกันอยู่กับภรรยา”
    แพททริกว่า “แต่เขาขอเลิก”
    “ใช่ค่ะ”
    ลิสบอนถาม “เมื่อไร คืนก่อนที่เขาตาย” 
    “ฉันไปหาเขาที่ห้อง เขาเมามาก ฉันนึกว่าเขาเลิกแล้ว แต่คงไม่ใช่คืนนั้น เขารับความเครียดไม่ไหว”
    “คงทำให้คุณโกรธสินะ” 
    “ไม่ค่ะ ฉันยอมรับได้ ฉันรักเขา แต่เขาเมามาก เลยปล่อยเขาไว้”
    ลิสบอนว่า “ฉลาดแล้วค่ะ”
    “ฉันขอน้ำไปแก้วนึงนะคะ” จูเลียว่า
    “อีกแป๊บเดี๋ยวก็คงมา”
    “อื้อ คุณมองฉันเป็นคุณหนู เอาแต่ใจตัวเอง พ่อฉันเป็นสว.ก็เลยไม่จำเป็นต้องทนพวกคุณ”
    “ฉันแค่อยากหาว่าใครฆ่าเจ็ฟฟรี่ย์ บาร์จเท่านั้น 
    “ฉันไม่ได้ฆ่าเขา”
    “ฉันไม่เชื่อคุณ จูเลีย..ตอนนี้ยัง”
    จูเลียถอนใจ “แต่ตอนนี้..ฉันอยากดื่มน้ำ”
    แพททริกจะลุกไปเอาให้ จูเลียเริ่มตาลายเพราะโดนวางยาแล้วเธอก็ล้มลงเลย แพททริกรีบโทรเรียกเจ้าหน้าที่ ลิสบอนพยายามช่วยเธอ แต่ไม่ทัน
    ลิสบอนได้รับโทรศัพท์เธอเครียด แล้วออกมาบอกว่าท่านรัฐมนตรีสั่งให้ปิดคดีให้ได้เร็วที่สุด ผลชันสูตรจูเลียบอกว่าเป็นสารไรซิน เหมือนเจ็ฟฟรี่ ทั้งคู่คงโดนวางยาที่โรงแรม 
    โชกับริกส์บีไปหาอาร์ลิส เพราะทั้งภรรยาและชู้เสียชีวิต เขาจึงน่าสงสัยสุด แต่เขาก็นิ่งมาก ก่อนจะบอกว่า เจ็ฟฟรี่ย์ทะเลาะกับแอ๊บบิเกลที่ตลาด ดูท่าจะเรื่องใหญ่ 
    ลิสบอนไปสอบปากคำแอ๊บบิเกล แพททริกดูรูปเธอแล้วบอกว่าเธอเปลี่ยนไป เกี่ยวกับการแต่งตัว แต่แอ๊บบิเกลว่าก็สามีเพิ่งตาย
    “แต่คุณก็มีเวลาแต่งหน้า ฉะนั้นคุณก็ต้องสนใจรูปร่างด้วย” แอ๊บบิเกลถอนใจ 
    ลิสบอนสงสัย “แล้วมันเกี่ยวอะไร”
    “น้ำหนักขึ้นห้าหกปอนด์ใส่ชุดรัดรูปไม่ได้ก็เลยแต่งแบบนี้..ท้องใช่มั้ย ยินดีด้วยครับ ไม่น่าเกิน3เดือน ลูกของเจ็ฟ..ใช่มั้ย”
    แอ๊บบิเกลถอนใจ “สองสามเดือนก่อน เขาแวะมาเก็บของที่บ้าน มันก็เลยเกิดขึ้นสองสัปดาห์ต่อมาฉันเลยตรวจว่าท้องมั้ย”
    แพททริกต่อ “พอเขารู้ว่าจะเป็นพ่อแล้วยังไงครับ โอ้ เข้าใจ”
    “สาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกัน”
    “ก็ไม่รู้จะบอกคุณยังไงดี คือว่าฉัน...สับสนค่ะ..พ่อแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องนี้” แอ๊บบิเกลถอนใจ 
    “ช่วยอะไรเราอย่างแอ๊บบิเกล เราต้องค้นบ้านคุณ แต่ถ้าอนุญาตเราจะได้ไม่เสียเวลาค่ะ”
    เมื่อไปค้นบ้านโชเจอเมล็ดละหุ่งใช้ทำสารไรซิน แอ๊บบิเกลมาให้ปากคำพร้อมเฮ็นริคทนาย แอ๊บบิเกลได้แต่บอกว่าเธอไม่ได้ทำ ทนายคอยปรามไม่ให้พูด ก่อนขอตัวพาเธอกลับไป
    แพททริกโทรตามลิสบอนมา บอกว่ามีงานเลี้ยงเป็นเกียรติกับเจฟฟรี่ย์และจูเลีย ลิสบอนหงุดหงิดที่เขาชวนมางานนี้ แต่แพททริกบอกว่าเราต้องกิน
    แพททริกแอบเข้าไปในครัวอีกครั้ง แล้วแกล้งทำไฟไหม้จนวุ่นวาย ส่วนตัวเขาก็รีบเอาพริกแดงซาวีน่า หยิบมาจากตู้ของจูเลีย ใส่ในหมอซุป
    ที่โต๊ะอาหาร ดุสเตอร์เบิร์กกล่าว
    “เอาล่ะเชิญทุกท่านครับ ยกแก้ว ดื่มให้เจ็ฟฟรี่ย์..และจูเลีย..เพื่อน และผู้ร่วมงานที่ยิ่งใหญ่ในโลกของอาหาร คนที่..พวกเราจะไม่มีวันลืม”
    “เชิญดื่ม”
    ฮานนาห์ว่า “จานแรก ซุปเมล่อนพรุสชิอัตโต้ ดีพาร์ม่าสะระแหน่..กับโหระพา”
    ลูโด้แนะนำต่อ “เป็นแนวใหม่จานถนัดของจูเลียเลยล่ะ ลองชิมดูครับ”
    แพททริกว่า “ขอบคุณครับ เชิญครับ อย่าให้ต่อมรับรสของพวกเราทุกคนทำให้ไม่กล้า”
    ดุสเตอร์เบิร์กสำลักความเผ็ด “โอ้เชฟ ทำไมถึงเผ็ดอย่างนี้ เผ็ดนิดหน่อยพอไหว แต่นี่มันเผ็ดเกินไป”
    ฮานนาห์ว่า “ตอนชิมไม่เผ็ดขนาดนี้”
    “โอ้คงเพราะผมเอง โทษที ตอนไฟไหม้ หยิบพริกแดงซาวีน่า มาจากตู้ของจูเลีย นึกว่าจะเข้าท่า ผมก็ชอบความเผ็ดนะ ก็เลยใส่ไปซะเยอะ ผมคงหนักมือไปหน่อย..ผม ต้องขอโทษด้วยครับ”
    อไลซ่าได้ยินถึงกับทำท่าจะอ้วก แพททริกถาม “เป็นอะไรเหรอครับ”
    “เปล่าค่ะเอ่อ... รู้สึกไม่ค่อยดีค่ะ”
    ลิสบอนถาม “มีปัญหาอะไรคะ”
    “กินพริกเผ็ดๆ ทีไรไม่ค่อยดีเท่าไร” 
    “เป็นเพราะพริกเหรอคะ ถ้าคุณไม่ยอมพูดเราจะไปที่สถานีดีกว่า” ลิสบอนว่า
    “เอาตัวไว้ได้นานแค่ไหน”
    “48 ชั่วโมง”
    อไลซ่าจะขอตัว แต่แพททริกว่าไม่ได้ ดุสเตอร์เบิร์กแปลกใจถามว่าเป็นอะไรไป
    อไลซ่าว่า “เราทุกคน..ต้องรีบไปโรงพยาบาล..เดี๋ยวนี้เลย” 
    ลิสบอนถาม “ไปทำไม”
    “ไอ้พริกนั่น... ฉันว่ามันมีพิษ ฉันเห็นลูโด้ใส่อะไรลงไป”
    ลูโด้ปฏิเสธ “ไม่ใช่ผมซักหน่อย จะบ้าเหรอ”
    แพททริกว่า “คุณอาจจะเป็นตะคริวก็ได้มั้ง”
    “ยอมรับก็ได้ ฉันวางยาในพริกของจูเลีย”
    ลิสบอนเสริม “กับเหล้าของเจ็ฟฟรี่ย์ด้วยใช่มั้ย”
    “ใช่ ใช่ รีบพาฉันไปโรงพยาบาลเร็ว”
    แพททริกว่า “ไม่เอา โรงพยาบาลมีเชื้อโรคเพียบ คุณไม่ควรไปหรอก”
    “คุณจะบ้ารึไง”
    “ใจเย็นๆ เรารู้ว่าในพริกมีสารไรซิน แค่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนใส่เท่านั้น” ลิสบอนถาม
    ดุสเตอร์เบิร์กยังงง “ผมยังไม่เข้าใจ เราโดนพิษกันรึเปล่า”
    แพททริกว่า “ไม่เลย ผมสลับพริกแล้ว ฉลาดมั้ยล่ะ”
    อไลซ่าถอนใจ แล้วเธอก็ถูกนำตัวไปสอบปากคำ
    “เรารู้ว่าร้านอาหารของคุณไม่ได้เจ๊ง เจ็ฟฟรี่ย์กับจูเลียเป็นคนทำลายมัน”
    ลิสบอนต่อ “เราสาวไปถึงพ่อของจูเลีย เขาคือคนที่ทำให้คุณไม่ได้ใบอนุญาตขายสุรา”
    “เจ็ฟฟรี่ย์เป็นคนขี้เมา เขาอยากให้คุณทำงานให้เขา เขาเลยขอร้องกิ๊กให้พ่อของเธอช่วยเรื่องนี้คืนนั้นเขาไม่ได้โทรมาคุยเรื่องสูตรอาหารใช่มั้ย เขาโทรมาขอโทษ”
    แพททริกถามต่อ “เป็นคนทำให้คุณไม่ได้ใบอนุญาต ทำลายโอกาสที่คุณจะได้เปิดร้านอาหารเอง เขายอมรับว่าทำอะไรกับคุณ คุณก็เลย..ตัดสินใจแก้แค้นเขา”
    ลิสบอนต่อ “คุณเอาเมล็ดละหุ่งมาผสมกับสารไรซินแล้วไปหาเขาที่รีสอร์ท”
    “ใช่ เชอะ ฉันไปหาเขาที่ห้อง เขามันงี่เง่าเอง คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ เหรอ คิดว่าปรับความเข้าใจแล้วกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมรึไง...เหลวไหลสิ้นดี”
    “จากนั้นคุณก็เข้าไปในครัวหาพริกของจูเลียแล้วใส่ยาลงไปด้วย”
    “มีครั้งนึงฉันล้างกุ้งให้เจ็ฟฟรี่ย์ กุ้ง40ปอนด์ได้มันยังเป็นน้ำแข็งอยู่ครึ่งนึง แต่มันเป็นงานมันเย็นจัดจนมือฉันชาไปหมด พอมารู้ตัวอีกที..ฉันเฉือนโดนนิ้วตัวเองไปแล้วเนื้อหลุดไปเลย แต่ฉันไม่ว่าอะไร เพราะเจ็ฟฟรี่ย์เป็นคนมีวิสัยทัศน์ฉันก็เคยมี เขาบอก”ไปเลยเพื่อนรัก” “คุณสมควรมีร้านของตัวเอง”แต่เขาโกหก เขากับ..นังแฟนเศรษฐีตัวแสบ ฉันจะปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงเขาบอกว่าขอโทษ เขาขอโทษ ขอโทษงั้นเหรอ มีประโยชน์ยังไง”
    ปิดคดีเสร็จ แอ๊บบิเกลเข้ามาขอคุยกับลิสบอน
    “คุณใส่ร้ายฉัน คุณเอาเม็ดละหุ่งไปไว้บ้านฉัน”
    “คุณค่ะ..ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเม็ดละหุ่งนั่นเป็นการจัดฉากค่ะ”
    “คุณเจนเป็นคนทำฉันน่าจะรู้ตั้งแต่แรก ฉันควรหยุดเขา แต่ก็ไม่ได้หยุดเรื่องนั้นฉันขอโทษจริงๆ” 
    แอ๊บบิเกลถาม “ทำไม”
    “เขาคิดว่าถ้าจับฆาตกรให้ได้ต้องมีใครเป็นผู้ต้องสงสัยก่อน ซึ่งเขาก็คิดถูกฉันรู้ว่าคุณต้องโกรธ” 
    แอ๊บบิเกลถอนใจ “ฉันพยายามไม่โกรธ ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม”
    “ขอโทษนะคะ”
    “แต่ก็ขอบคุณ..ที่คุณพูดกับฉันตรงๆ ฝากบอกคุณเจนด้วยว่า เขาใจร้ายขาดความรับผิดชอบ”
    “จะบอกให้ค่ะ คุณบาร์จคะใช้ชีวิตอยู่กับขี้เมาเป็นเรื่องยาก พวกเขาไม่เคยปรับปรุงตัวเองด้วยซ้ำแต่สามีคุณเข้ารับการบำบัดเมื่อ2อาทิตย์ก่อนหลังจากที่คุณบอกเขาเรื่องลูกฉันคิดว่าเขาอยากอยู่กับคุณและลูก เขาถึงได้ไปขอเลิกกับจูเลียเผื่อจะช่วยคุณได้บ้างถ้าเขาปรับปรุงตัว”
    “ขอบคุณค่ะ” 
    ลิสบอนเดินมาหาแพททริก


The End 15


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ