สาวก PPAP กรี๊ดสลบ!  'พิโก ทาโร่' เยือนไทย

         หลังจากปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง PPAP (Pen-Pineapple-Apple- Pen) เพลงสั้น 45 วินาที พร้อมท่าเต้นที่โด่งดังไปทั่วโลก ล่าสุด พิโก ทาโร่ (Pico Taro) ก็ลัดฟ้ามาเยือนเมืองไทยเพื่อร่วมงาน “Japan Expo Thailand 2017” เพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 130 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น จัดโดยบริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ จำกัด(G-Yu Creative) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (โซนด้านนอกและด้านในทุกโซน)โดยวันนี้ “คม ชัด ลึก” มีโอกาสนำบทสัมภาษณ์ของ พิโก ทาโร่ ที่ ห้องสัมมนา M3 ชั้น 23 มาให้แฟนๆ ได้รู้จักเขาคนนี้มากยิ่งขึ้น

@ คุณชอบอาหารไทยอะไรบ้าง มีเมนูอะไรที่ชอบเป็นพิเศษไหม

         ตั้งแต่มาเมืองไทย ผมยังไม่ได้มีโอกาสกินอาหารไทยเลย อยากกินผัดกะเพรา ผัดไทย ต้มยำกุ้งก็ได้ อยากกินตอนนี้เลย (ยิ้ม) เพราะสิ่งแรกที่กินในเมืองไทย คือขนมปังฝรั่งเศสที่โรงแรม นอกจากนี้ก็อยากไปดูมวยไทย ที่ชกกันสดๆ เพราะโปรดิวเซอร์ของผม เขาเคยไปแล้วเล่าให้ฟัง ก็เลยอยากไปดูบ้าง

@ ปีนี้ได้มาร่วมงานเจแปนเอ็กซ์โป ไทยแลนด์ ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นอีกด้วย รู้สึกอย่างไรบ้าง

         แอบตกใจว่า 130 แล้วเหรอ ญี่ปุ่นกับไทย เป็นอะไรที่ใกล้ชิดมาก ผมรู้สึกว่าที่เมืองไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นเยอะมาก และอาหารไทยก็เป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเรื่องวัฒนธรรมสักเท่าไหร่ ผมรู้จักแค่โทนี่ จา ที่เหลือเป็นมวยไทยและนักมวยไทยอย่าง ดีเซลน้อย บัวขาว ตอนเดินทางมาถึงเมืองไทย ผมเห็นโฆษณาบัวขาวที่สุวรรณภูมิ ก็รู้สึกดี ที่มีการแลกเปลี่ยนนอกจากอาหารที่เป็นป๊อปคัลเจอร์

@ เพลง PPAP โด่งดังจนกลายเป็นคลิปไวรัล ที่ระบาดไปทั่วโลก และมียอดวิวกว่า 100 ล้านวิวเพลงนี้ คุณใช้เวลาในการแต่งเพลงนี้นานแค่ไหน ทำไมถึงนึกถึงสิ่งใกล้ตัวอย่าง ปากกา แอปเปิ้ล สับปะรด เอามาเป็นแรงบันดาลใจเพลงนี้ได้

         โปรดิวเซอร์ของผมเป็นคนส่งทำนองเพลงมาให้ก่อนระหว่างที่ฟังทำนอง ตอนนั้นในมือผมมีปากกาก็เลยจับปากกาขึ้นมา และมีแอปเปิ้ลวางอยู่ที่โต๊ะ ก็เอาปากกาเสียบแอปเปิ้ลก็ได้คำว่า Apple-Pen นอกจากนี้ก็ลองเอาปากกาเสียบสับปะรดบนโต๊ะก็เลยได้คำว่า Pineapple-Pen หลังจากนั้นก็เอาคำ Apple-Pen-Pineapple-Pen มาต่อกันก็เลยได้เนื้อเพลงนี้ขึ้น พอเอามาร้องเข้าทำนองแล้วลองเต้นดูซึ่งมันก็เต้นได้ คืออยากบอกว่าผมใช้เวลาในการแต่งเพลงยาวกว่าร้องเพลงนิดเดียว

@ เพลงง่ายขนาดนี้ ไม่ทราบว่าเพลงนี้มีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่า

         ไม่มีความหมายแฝง ไม่มีความหมายอะไรเลย แม้เพลงนี้จะไม่มีความหมาย แต่ผมก็อยากลองร้องดู ไม่คิดหรือว่ามันก็สนุกดีนะ ร้องไปก็รู้สึกสนุกกับการเต้น กับการผสมคำแค่นั้นเอง คือถ้าคิดเยอะไป เดี๋ยวคนต่างประเทศจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าใครอยากคิดลึกกับเพลงนี้ก็ตามสบาย

@ เริ่มแต่งเพลงตั้งแต่ตอนไหน

         ตอนนี้ผมอายุ 53 แล้ว ผมแต่งเพลงตั้งแต่อายุ 25 ก่อนหน้านี้ ผมเคยเป็นพนักงานเคเบิ้ล งานประจำที่ลำบากมาก ผมชอบร้องเพลงมาแต่ไหนแต่ไร ผมเล่นกีตาร์ไม่เป็น เปียโนก็เล่นไม่เป็น ตอนแรกผมไปร้องเพลงตามสวนสาธารณะแถวบ้าน เคยโดนตำรวจจับเพราะหนวกหู ก็เลยไปหาสถานที่ที่สามารถเล่นดนตรีได้ ไลฟ์เฮ้าส์บ้าง จนกระทั่ง 5 ปีที่แล้ว ได้มาเจอกับโปรดิวเซอร์

@ ท่าเต้น PPAP ดูสนุกสนานเป็นเอกลักษณ์มาก คุณได้ไอเดียท่านี้มาจากไหน

         เนื้อเพลงมันก็มีแค่นั้น นอกจากท่าเสียบแอปเปิ้ล ผมก็คิดนะว่าเพลงนี้มันเหมาะกับท่าทางแบบไหน จนท้ายสุดก็ได้ท่าทางอย่างที่ทุกเห็น ซึ่งมันมาจากฟิลลิ่งล้วนๆ ผมว่ามันไม่ได้เป็นท่าเต้นนะขอเรียกว่าเผลอเต้นดีกว่า

@ เพลงนี้มีการนำมาคัฟเวอร์เยอะมากในต่างประเทศ รู้สึกอย่างไร และชอบเวอร์ชั่นไหนบ้าง

         ถ้าเป็นที่เมืองไทยผมชอบเวอร์ชั่น บี้ เดอะสการ์ เขาเต้นเก่ง เวอร์ชั่นนั้นชอบมาก นอกจากนี้ก็ชอบเวอร์ชั่นเยอรมนีเป็นเมทัลเวอร์ชั่นอันนั้นสนุกดี นอกจากนี้ก็มีเวอร์ชั่นอินเดีย สนุกที่สุดคือเห็นเด็กข้างๆ เล่นอะไรก็ไม่รู้ แต่ผมดูปุ๊บก็หัวเราะทันทีหัวเราะจนอยากร่วมงานด้วย รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นนักคัฟเวอร์ชื่อดังของอินเดียด้วยนะ ก็อยากเจอตัวจริงอยากคุยด้วย

@ รู้สึกอย่างไรที่ จัสติน บีเบอร์ ยังโพสต์คลิปของคุณในทวิตเตอร์ของเขา บอกว่าเป็นคลิปโปรดของเขา และทราบมาว่าคุณได้ร่วมงานกับ จัสติน บีเบอร์ ด้วย รู้สึกอย่างไรบ้าง

         ผมรู้สึกว่าที่ผมดังทั่วโลกได้ในวันนี้อาจจะเป็นเพราะจัสติน บีเบอร์ ก็ได้นะ ถ้าผมเป็นผู้หญิงสวยๆ ผมก็อยากแต่งงานกับเขา รู้สึกตื่นเต้นมากตอนได้เจอตัวจริงและได้ร่วมงานกับเขาเป็นอะไรที่เริดมาก จัสตินเป็นคนชอบไฮทัชเจอหน้ากันก็ไฮทัช ก็ผมบอกเขาว่าผมอยากเจอเขา ซึ่งเขาก็บอกว่าอยากเจอผมเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกที่ประทับใจมาก เขาเป็นคนที่ติดดินมากไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนดังระดับโลก

@ ตั้งแต่เปิดตัวเพลง PPAP มาก็มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก มีเหตุการณ์ที่รู้สึกคาดไม่ถึงที่เกี่ยวกับเพลงเพลงนี้บ้างไหม

         ก็น่าจะเป็นเรื่องจัสติน บีเบอร์ นอกจากนี้ผมแอบได้ยินว่าหลานของ ทรัมป์ ก็คัฟเวอร์เพลงของผมคือเพลงอาจจะร้องผิดร้องถูก ท่าเต้นก็มั่วๆ แต่ก็น่ารักมาก อย่างตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อว่าได้มาอยู่เมืองไทย มาเจอกับทุกคนในวันนี้ รู้สึกประทับใจมากที่สื่อมาเยอะขนาดนี้ 

@ การแต่งตัวของคุณมีคอนเซปต์อะไรเป็นพิเศษไหม

         จริงๆ แล้วผมพยายามหาชุดที่ไม่มีในรันเวย์นะ ทั้งชุดนี้ราคาไม่ถึง 2 หมื่นเยน จริงๆ มีคนทักว่าผมเหมือนคนไทย อยากถามว่าคนไทยแต่งตัวกันแบบนี้เหรอ ผมว่าคนที่บอกผมต้องโกหกผมแน่ๆ

@ ดังขนาดนี้กดดันไหมในการทำเพลง

         ตอนแต่งก็ไม่คิดว่ามันจะดัง มันเป็นเพลงที่ออกมาเอง ที่ผ่านมาผมไม่ได้คิดทำเพลงดัง ไม่ได้คิดทำเพลงฮิต ก็เลยไม่กดดันอะไรเลย ผมขอแค่ได้แต่งเพลงที่สนุกๆ ทุกคนฟังแล้วสามารถยิ้มได้ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว

@ แนวคิดของเพลงใหม่ล่าสุด “I Like OJ” มาจากไหน

         เพลงนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ คือผมแค่อยากจะบอกว่าผมชอบน้ำส้มแค่นั้นเอง จะให้ผมดื่มนม หรือน้ำมะม่วงมันก็ไม่ใช่ เพราะผมชอบน้ำส้ม พอได้น้ำส้มก็แฮปปี้ 

@ สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยบ้าง และมีช่องทางไหนที่สามารถติดตามคุณทางโลกออนไลน์ได้บ้าง

         แม้เพลงของผมจะสั้น แต่ผมมั่นใจว่ามันสามารถให้ความสุขกับทุกคนได้ ผมเชื่อว่าโลกตอนนี้มีสงครามและความไม่สงบอยู่หลายที่ แต่ถ้าฟังเพลงของผมแค่นาทีเดียวแล้ว ทำให้ทุกคนมีความสุข ผมก็แฮปปี้มากแล้ว เพราะฉะนั้นฟังเพลงผมอย่าคิดเยอะ ถ้าใครอยากเจอกันในออนไลน์ก็เจอกันที่ยูทูบแชนแนลที่คนทั้งโลกโซเชียลกันได้ นอกจากนี้ก็มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อาจจะติดต่อยากนิดหน่อยแต่ก็ลองติดตามดูกันได้ ส่วนผลงานหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสด หรืองานในโลกออนไลน์ก็อยากให้ทุกคนติดตามผมงานผมกันด้วยนะครับ