บันเทิง

พูดคุยกับผู้กำกับ 'อัสการ์ ฟาร์ฮาดี'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พูดคุยกับผู้กำกับ "อัสการ์ ฟาร์ฮาดี" ผู้กำกับหนัง “The Salesman”

         ภาพยนตร์เรื่อง The Salesman ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชม ระดับดีเยี่ยมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก นอกจากเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม หนังยังสามารถคว้า 2 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการคาดหวังค่อนข้างสูง หนังบอกเล่าเรื่องราวของ 2 สามีภรรยา อีหมัด และ ราน่า มีเหตุให้ต้องย้ายไปอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ใหม่ หลังจากห้องเก่าของทั้งคู่เสียหายจากภัยธรรมชาติ ทว่าการย้ายบ้านครั้งนี้กลับกลายเป็นชนวนเหตุให้ชีวิตของทั้งคู่ต้องพลิกผัน ซึ่ง อัสการ์ ฟาร์ฮาดี ผู้กำกับได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า 

พูดคุยกับผู้กำกับ 'อัสการ์ ฟาร์ฮาดี'

@ อยากทราบว่าทำไมคุณถึงกลับมาเตหะรานเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้

         ตอนผมทำ The Past ที่ฝรั่งเศสเสร็จ ผมก็เริ่มทำหนังอีกเรื่อง ซึ่งดำเนินเหตุการณ์ในประเทศสเปนต่อเลย เราเลือกสถานที่ถ่ายทำ เขียนบทโดยปราศจากบทสนทนา พูดคุยกับโปรดิวเซอร์และนักแสดงหลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะรวบรวมทีมงานทั้งหมดได้ มันต้องใช้เวลานานเป็นปี ผมเลยมีเวลากลับไปทำหนังที่อิหร่าน ผมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ด้วย ที่ต้องทำหนัง 2 เรื่องพร้อมๆ กันตอนอยู่เมืองนอก แต่ตอนนี้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ผมกำลังจะกลับไปทำหนังเรื่องนั้นที่สเปนแล้ว

@ โปรเจกท์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

         ผมมักจะจดบันทึกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ เมื่อได้โอกาสกลับมาทำหนังที่อิหร่าน ผมจึงกลับไปค้นสิ่งที่ผมบันทึกไว้มาตลอดหลายปีและนำมาใช้ นอกจากนั้น ผมต้องการสร้างหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับละครเวทีด้วย ผมเคยทำละครเวที ตอนยังหนุ่มและมันมีความหมายต่อผมมากๆ เรื่องราวในหนังเรื่องนี้เหมาะสมกับความเป็นละครเวทีอย่างยิ่ง ผมจึงค่อยๆ พัฒนาแต่ละฉากและตัวละครขึ้นมา

พูดคุยกับผู้กำกับ 'อัสการ์ ฟาร์ฮาดี'

@ คุณนิยามเรื่องราวใน The Salesman ไว้ว่าอย่างไร มันว่าด้วยการแก้แค้น หรือการเสียศักดิ์ศรีกันแน่

         ผมมีปัญหาเหมือนกันหากต้องนิยามเรื่องราวใน The Salesman หรือแม้กระทั่งการบอกว่าหนังเรื่องนี้ มีความหมายต่อผมมากเพียงใด ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมุมมอง ระบบคิดและทัศนคติส่วนตัวของคนดู ถ้าคุณมองหนังเรื่องนี้ ในด้านปัญหาสังคม คุณจะพบองค์ประกอบแบบนั้นอยู่ในหนังเยอะมาก แต่ในขณะเดียวกัน คนอื่นก็อาจจะมองประเด็นเรื่องคุณธรรมหรือมองมุมอื่นไปเลยก็ได้ ผมบอกได้เพียงแค่ว่า หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นความซับซ้อนของความสัมพันธ์ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความซับซ้อนของคำว่า ‘ครอบครัว’

@ ในฉากแรกๆ ของหนัง อีหมัด และ ราน่า ดูเหมือนเป็นคู่รักธรรมดาๆ คู่หนึ่ง พวกเขาเป็นภาพแทนของชนชั้นกลางชาวอิหร่านหรือเปล่า

         ทั้งคู่ คือสามีภรรยาชนชั้นกลางชาวอิหร่าน ผมไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเปรียบเหมือนภาพแทนของชนชั้นกลางส่วนใหญ่ไหม คาแรกเตอร์ของทั้ง 2 ตัวละครถูกสร้างขึ้นมาอย่างเรียบง่าย เพื่อคนดูจะได้ไม่รู้สึกว่าพวกเขาแตกต่างจากคู่รักคู่อื่นๆ พวกเขาคือคู่รักธรรมดาที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มีมิติ แต่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติที่ทำให้ตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ปรากฏกายออกมา

พูดคุยกับผู้กำกับ 'อัสการ์ ฟาร์ฮาดี'

@ คุณแสดงภาพเมืองเตหะรานมีความสับสนอลหม่าน ผ่านมุมมองของตัวละครที่มองออกมาจากอพาร์ตเมนต์ของพวกเขา นั่นคือมุมมองส่วนตัวของคุณที่มีต่อเมืองที่คุณอาศัยและทำงานอยู่รึเปล่า

         กรุงเตหะรานทุกวันนี้มีความคล้ายคลึงกับมหานครนิวยอร์คมากๆ อย่างที่ อาร์เธอร์ มิลเลอร์ บรรยายไว้ช่วงต้นของบทละคร มันคือเมืองที่รูปลักษณ์เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด สิ่งเก่าแก่ที่เคยมีถูกทำลาย ธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยตึกราวบ้านช่อง นี่คือบรรยากาศที่เซลส์แมนอาศัยอยู่ ในหนังกับในละคร มีความคล้ายคลึงกัน เตหะรานกำลังเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นเมืองที่บ้าระห่ำ ไร้ขื่อไร้แป และไร้เหตุผล ในเมื่อหนังเรื่องนี้พูดถึงครอบครัว บ้านจึงกลายเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญมาก หนังเรื่องก่อนๆ ของผมเคยพูดถึงประเด็นแบบนี้ไว้แล้ว และครั้งนี้ก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นอีกเช่นกัน

         หนังฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ