ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ขอบคุณคนชอบหนัง "มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ" จนรายได้ทะลุ 100 ล้าน แง้มเคล็ดลับที่ทำให้หล่อขึ้น ความรักถ้าเจอจะเดินเข้าไปบอกว่า จอง!
ขึ้นแท่นเป็นเจ้าพ่อหนังไปแล้ว ที่ไม่ว่าจะเล่นหนังเรื่องอะไร มักจะประสบความสำเร็จ กระแสตอบรับดี สำหรับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ล่าสุดภาพยนตร์ "มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ" ฉลองรายได้พุ่งทะลุ 100 ล้าน อีกเรื่อง ได้เจอซันนี่ในงานปาร์ตี้ ค่าย “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ฉลอง “มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับ 100 ล้าน” ณ ร้าน 66 สเตชั่น จึงต้องถามความรู้สึก ซันนี่เผยว่า
"ขอบคุณคนดูที่มาดูกันเยอะๆมากกว่า ขอบคุณที่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังมีฉายอยู่นะ ไปดูกันได้ ผมเล่นหนังมาประมาณ 9 เรื่อง เพิ่งแตะร้อยล้านเรื่องที่ 2 เอง โดยมากจะ 70-80 ล้าน จริงๆตอนนี้หนังเต็มโรงเลยนะ เกือบ 40 เรื่อง ผมเองไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ที่ภาพยนตร์ เข้าอาทิตย์ละ 8-9 เรื่อง แต่ว่าแค่คนชอบภาพยนตร์ เราก็รู้สึกดีแล้ว ไม่เกี่ยวว่าเขาจะดูกันเยอะแค่ไหน เวลามีคนแท็กมา แล้วบอกว่าชอบภาพยนตร์ ไปดูมานะ เราก็รู้สึกดีใจ ตอนที่เล่นไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รายได้เท่าไหร่ เราเล่นเพราะอยากเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้มาก แล้วรู้สึกว่า เราตั้งใจทำเต็มที่แค่นั้นเอง มันประสบความสำเร็จของมันเองอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่เราทำมันเสร็จ ก่อนที่จะฉาย แล้วมีคนดูด้วยซ้ำ โปรเจกท์ต่อจากนี้ มีการพูดคุยกันไว้ แต่ยังไม่เปิดกล้อง ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรต่อ เพราะชีวิตมันเซอร์ไพรส์
ส่วนซีรีส์ “เทวดาตกสวรรค์” ถ่ายทำเสร็จแล้ว รอออนแอร์ (ดูรับงานหลากหลายมากขึ้น) ไม่หรอก เราไม่ได้จะรับมากขึ้น เรายังมีความรู้สึกเดิมว่า เรามั่นใจว่าเราชอบอันนี้ แล้วเราจะทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง แล้วมาหลังๆมันมีที่ชอบมากขึ้น เพราะว่าในวงการมีคนทำอะไรมากขึ้น สมัยก่อนหนังมีน้อยมาก สมัยที่ผมเล่น “เพื่อนสนิท” หนังมีไม่กี่เรื่องเองที่เป็นหนังไทย แต่ตอนนี้หนังไทยเต็มเลย พอมีหนังมากขึ้น ผมรู้สึกแค่ว่า มีคนรักหนัง แค่มีคนอยากทำภาพยนตร์อะไรออกมาที่ไม่ได้คำนึงว่าจะต้องได้รายได้เท่าไหร่ หรือว่าทำตามกระแส ขอให้เขาตั้งใจทำหนัง ตั้งใจที่จะเล่า เป็นภาพยนตร์ที่ดี แค่นี้ผมว่าก็พัฒนาวงการแล้ว" ซันนี่ตอบ
ถามต่อว่าหลายคนชมว่าหล่อขึ้น พระเอกหนุ่มเผยว่า
"แม่ผมชมอยู่ทุกวัน ตั้งแต่ผมเด็กแล้ว (ยิ้ม) ผมก็ออกกำลังกายอย่างเดียวเลยตอนนี้ เมื่อก่อนไม่เคยออกกำลังกายเลย ไปเตะบอลกับเพื่อนธรรมดา
แต่เดี๋ยวนี้ไปเข้าฟิตเนส เรารู้สึกว่า เรากินทุกวัน ดังนั้น เราต้องออกกำลังกายด้วย ไม่ใช่ว่ากินไปเฉยๆ แล้วไม่ออกกำลังกายเลย คือใน 365 วัน ขอแค่ 65 วัน ออกกำลังกาย ได้ไอเดียมาจากครูฟิตเนส พอได้ไปออกกำลังกาย เราก็รู้สึกว่า ร่างกายเราดีขึ้น
(เรื่องหัวใจ) จริงๆคนก็ถามบ่อย แต่ก็ต้องรอให้เจอตัวก่อน เดี๋ยวเจอตัวผมจะเดินไปบอกเลยว่า จอง ซึ่งครอบครัวผม แปลกมาก ครอบครัวผมไม่เคยสนใจอะไรเลยในชีวิตผมสักอย่าง
เรียนหนังสือจะไปเรียนต่ออะไร จะทำงานอะไร จะแต่งงาน หรือจะมีลูก ไม่เคยถาม คือปกติถ้าเป็นเพื่อนผม คุณแม่ หรือข้างบ้านจะถามแล้ว ว่าลูกเรียนจบหรือยังอะไรแบบนี้ บ้านผมไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เลย ก็เลยคิดว่า เขาไม่รักเราหรือเปล่า" ซันนี่กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง