"เอสเธอร์" เครียดเจอแจกสตรอว์เบอร์รี่!!

          หลังจากปล่อยให้"เคน"ภูภูมิ ออกมาชี้แจ้งถึงดราม่ามาแล้วรอบหนึ่ง ล่าสุดถึงเวลาของ เอสเธอร์ ในงาน Beautylabo Whip Hair Color ที่ลานกิจกรรมศูนย์การค้าเซ็นทรัลคอร์ท  จึงต้องถามไถ่ ได้ความว่า

"เริ่มแรกทางออแกไนเซอร์ติดต่องานมา หลังจากนั้น ก็โทรมาแคนเซิลกับคุณแม่ เราก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ แต่ว่าพอสุดท้ายด้วยภาพข่าวที่มันออกมา เหมือนกับว่าเราเบี้ยวงานไม่ไปตามงาน กลายเป็นเราเสียหาย เราไม่ได้เบี้ยวงาน เราไม่ได้แคนเซิลแค่นี้เอง ถ้าแบบนี้ก็กลายเป็นเราไม่มีความรับผิดชอบในการทำงาน (แล้วได้ถามถึงสาเหตุไหมถึงการแคนเซิล) ก็ตามที่ออแกไนเซอร์ชี้แจงเลย หนูต้องขอขอบคุณมากๆ คือด้วยการที่เราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ด้วยข่าวค่อนข้างจะแรงและคนตัดสินไปแล้ว ทำให้หลังจากวันงานปุ๊บทางออแกไนเซอร์ก็คุยกับคุณแม่ว่าจะออกมาขอโทษด้วยตัวเอง เขาก็ออกมาชี้แจงที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เราต้องขอขอบคุณ ณ จุดๆนี้ เราไม่ได้แคนเซิลงาน แต่ออแกไนเซอร์เป็นคนแคนเซิลงาน ส่วนเหตุผลตามที่ออแกไนเซอร์บอกเลย ตามเหตุผลที่เขาเขียนขึ้นไป เขาคุยกับคุณแม่ (แม่ได้บอกไหมว่าสาเหตุที่แคนเซิลงานมาจากฌอห์ณไม่ขอร่วมงาน)ไม่ได้บอกนะ แค่บอกว่าแคนเซิล หลังจากนั้นหนูก็รู้จากออแกไนเซอร์(ความรู้สึกเมื่อรู้ความจริงว่าฌอห์นไม่อยากร่วมงาน) หนูก็ (ทำหน้าอึ้ง) เหรอ (อึ้ง) ตัวเราไม่ได้คิดอะไรเลย คอนเฟิร์มทุกอย่างแล้ว ในใบรายชื่อก็มีชื่อหนูด้วย พอออกมา หนูก็งง (แอบมีเสียความรู้สึก) อุ้ย!!เสียความรู้สึกนิดหนึ่ง ก็ต้องมีบ้าง พอทราบเหตุผลแล้ว ไม่เป็นไร ถือว่าไม่เป็นไร ณ ตอนนั้นเราก็งง  เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต (ก่อนหน้านี้เคยได้คุยกับฌอห์ณไหม)ไม่ได้คุยนานมาก หลังจากถ่ายเงาอโศก
ตอนถ่ายละครเงาอโศกก็ถ่ายปกติ คุยกันแค่ครั้งสุดท้ายคือละครออนแอร์วันแรกพี่เขาทักไลน์มาบอกว่า เป็นยังไงบ้างได้ดูละครไหม เราก็ตอบตามปกติว่าดู พี่ดูเปล่า แค่นั้น หลังจากนั้นเราก็ไม่คุยกันอีกเลย กับเหตุการณ์ที่เกิดเราเครียดมากเลย เรารู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจ

        นอกจากนี้ดาราสาวยังได้บอกด้วยว่า "อย่าเลือกทีมกันเลย แค่มีคนมาชี้แจงว่าเราไม่ได้แคนเซิลงาน หรือเราไม่ได้เป็นคนเบี้ยวงาน แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว ไม่อยากให้คนเข้าใจผิด"เอสเธอร์กล่าว
          ถามว่ามีคนที่ไม่เชื่อ เขาก็แจกสตรอว์เบอร์รี่ให้เรา
" หนูเก็บมาได้เป็นพันไร่แล้ว (หัวเราะ) ยอมรับนะว่าเครียดมาก ทำตัวไม่ถูกเลย ตอนนั้นไม่เข้าโซเชียลเลย ไม่อยากจะรับฟังข่าวอะไร  ด้วยโซเชียลเป็นอะไรที่ค่อนข้างไวมาก คนเราเลือกตัดสินก็แล้วแต่เขาคิด เขาจะพิมพ์อะไรก็แค่กดพิมพ์ไม่กี่คำ โดยที่เราไม่เห็นหน้าเห็นตา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาก็เลือกว่าจะพูดทำให้เราเสียหายขนาดไหนได้( คุณแม่เราก็โดนโจมตีค่อนข้างหนักกว่าเราด้วยซ้ำ)สงสารแม่หนูเขาแก่แล้ว อายุ 50ปีแล้ว ถามว่าจะมีไปคุยกับพี่ฌอห์ณ ส่วนตัวหนูไหม หนูไม่โทรไปเคลียร์ เพราะด้วยงานเราดิวแค่กับออแกไนเซอร์ไม่ได้เกี่ยวกับตัวพี่ฌอห์ณเลย ไม่จำเป็นต้องโทรไป"เอสเธอร์บอก

          ถามถึงเรื่องเอกกี้ เขาก็ออกมาโพสต์ปกป้องฌอห์ณ
"อันนี้ไม่รู้เลย หนูไม่ได้เจอพี่เอกกี้ และวันนั้นหนูก็ไม่ได้ไปทำงาน เลยไม่รู้ในส่วนของตรงนั้นเลย (แบบนี้จะร่วมงานกับเอกกี้ และฌอห์ณได้อีกไหม)สำหรับตัวหนูอย่างที่บอกตอนแรกไม่มีปัญหา แต่ถ้าตอนนี้เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้แล้วคงไม่มีใครกล้าจ้างมารวมกันแล้วแหละ(เห็นบอกว่าจะมีละครคู่กันอีก)อันนี้ต้องชี้แจงเลยว่าไม่มีเลย ผู้ใหญ่ก็ไม่มีติดต่อมา ด้วยปีนี้หนูแพลนไว้หมดแล้ว ละครที่จะถ่ายก็มีแพลนไว้แล้ว ซึ่งอันนี้หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะละครคู่กันไม่มี ผลงานคู่กันก็ไม่มี"เอสเธอร์กล่าว

 

          ถามถึงเรื่องที่ เคน ภูภูมิ ถ่ายรูปนั่งตักคุณแม่ทำให้เกิดกระแสดราม่า
          "คนจะว่าอะไรเรา เขาก็ไปขุดเรื่องมาว่าได้อยู่แล้ว แต่อยากจะบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเดือดร้อนแทนหนู (หัวเราะ) เอาจริงๆ แล้วภาพมันน่ารักมากเลยพี่เขานั่งตักแม่ ไม่ได้ไปนั่งตักสาวที่ไหน และด้วยที่คุณแม่เรารักพี่เขาเหมือนลูกชาย แต่หนูว่าคนมันจะเกลียด เขาก็หาเรื่องมาด่าได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามองในทางกลับกันคือแม่หนูแก่แล้ว เขาก็มองหนูว่ายังเป็นเด็กในสายตาตลอด และหนูว่ามันเป็นการแสดงความรักกัน ไม่ได้ไปทำอะไรที่กระทบต่อคนอื่น ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย (ได้อ่านคอมเม้นท์บ้างไหม เพราะก็ค่อนข้างแรงเหมือนกัน)ไม่ได้อ่าน ไม่พร้อมที่จะอ่าน ส่วนตัวคุณแม่เอง ช่วงนั้นก็ไม่เข้าโซเชียลเลย แต่ก็ไม่ได้ลบรูปออก จริงๆ ถ้าตอนที่มันไม่มีปัญหาคนยังเข้ามาชมรูปนี้เลยว่าน่ารักมากเลย แต่พอมีปัญหาคนก็มาด่า(สภาพจิตใจคุณแม่เป็นยังไงบ้าง)ตอนนี้ก็ดีขึ้นนิดหนึ่งแล้วแต่ก็เป็นห่วง เพราะท่านก็อายุเยอะแล้ว ไม่อยากให้มีอะไรเครียด พอเครียดแล้วเดี๋ยวสุขภาพก็จะตามไปด้วย"เอสเธอร์กล่าวสรุป