บันเทิง

‘#ใต้ความโสด’ เปิดประตูบานใหม่ในแบบ ‘คชา’ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"คชา" นนทนันท์ เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ "บันเทิง คมชัดลึก" ถึงเพลงใหม่ "#ใต้ความโสด" 

 

    ย้ายค่ายมาอยู่ใต้ชายคา “แกรมมี่ฯ” เมื่ปลายปีที่แล้ว ล่าสุด “คชา” นนทนันท์ ก็ได้ปล่อยผลงานเพลงใหม่ในชื่อว่า “#ใต้ความโสด” ที่เพลงมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นคาที่หลายๆ คนเห็นมาตลอด 5 ปีอย่างมากมาย แต่การเปลี่ยนครั้งนี้น่าจะเป็นไปในทางที่ดี เพราะว่าปล่อยเพลงมาไม่นาน กระแสตอบรับเพลงพุ่งถึง 1 ล้านวิวภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ อีกทั้งยังทะยานขึ้นอันดับ 1 ไอจูนส์ประเทศไทยตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ปล่อยเพลง และเพราะความแรงนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” เลยถือโอกาสไปพูดคุยกับคชาถึงเพลงนี้
    “ที่มาของเพลงใต้ความโสด เอาจริงๆ ก่อนที่จะได้เพลงนี้มา สิ่งที่คิดไว้อย่างแรกเลยคือเราอยากเปลี่ยน เรามีตัวอย่างจากเพลงอัลบั้มที่แล้วมา เนื้อเพลงของเราอัลบั้มที่แล้วเป็นแบบไหนทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว คิดอย่างแรกเลยคือเราจะต้องไม่ทำให้เหมือนตรงนั้น อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดูนั่นคือจุดเริ่มต้น พอขั้นต่อมาปั๊บ โอเคเรารู้แล้วว่าเราจะทำอะไรใหม่ๆ โจทย์ต่อมาคือจะทำเพลงช้าหรือเพลงเร็วก่อน ทุกครั้งเราจะเปิดจากเพลงช้าก่อน แต่เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะทำอะไรใหม่ๆเราต้องเปลี่ยนเราจึงเลือกเปิดเพลงเร็วก่อน มาถึงขั้นที่ 3 เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะทำเพลงเร็วแล้วเนื้อหาของเพลงเร็วจะเป็นประมาณไหน จนมาเจอแนวเพลงนี้ ซึ่งเมืองไทยก็ไม่ได้มีแนวเพลงนี้เยอะมาก และอีกอย่างหนึ่งด้วยตัวดนตรีที่เป็นร็อคแอนด์โรลล์ มันสามารถเข้าถึงง่าย ในแนวความคิดผมนะ โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเพลงร็อคอยู่แล้วด้วย ถึงผมจะแสดงออกมาแล้วดูไม่เข้าเท่าไหร่ แต่ขอให้ได้ใส่ลงไปบ้างได้มีลงไปบ้าง ในแบบที่เราชอบเพราะอย่างน้อยมันก็มีการใส่ความเป็นตัวเรา ลงในสิ่งที่เราอยากทำ เพราะถ้าฟังเพลงนี้จริงๆ เพลงนี้ก็ไม่ได้เป็นแนวร็อกจ๋าเพราะเรารู้ว่าเราทำแนวร็อกจะไม่ได้อยู่แล้วเราแค่อยากใส่ในความที่เราชอบลงไป” นักร้องหนุ่มเผย

 

 

‘#ใต้ความโสด’ เปิดประตูบานใหม่ในแบบ ‘คชา’ 


    ทำไมถึงเลือกหยิบยกเรื่องนี้มานำเสนอ “เนื้อเรื่องนี้เกิดมาจากผม มาจากสิ่งที่เราเห็น ในโซเชียลในชีวิตประจำวัน คลิปผู้หญิงทั้งหลายออกแนวบ่นๆ แกมๆ อยากหาคู่ ก็เห็นจากเพื่อนๆ ที่รู้สึกว่ามันถึงไว้หาคู่กันแล้ว และมีการคุยเล่นๆ กันว่าสเปกสูงไปหรือเปล่า เหมือนอยากที่จะหาผู้ชายอย่างในซีรีส์ ที่หยิบโจทย์ตรงนี้มาเพราะผมเชื่อว่ามีผู้ชายบางคนที่อาจจะไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มีเสียง ที่จะออกมาพูดว่าสนใจฉันเถอะ เพราะกลัวทำออกไปแล้วมันดูเสร่อ เราก็เคยเจอในชีวิตเหมือนกัน มันเป็นฟิลที่เราพยามพรีเซนต์ตัวเองว่าเราก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราทำไป มันเหมือนเราเป็นตัวประกอบ แต่สิ่งที่เราทำไปมันเหมือนเราเป็นตัวประกอบที่นั่งอยู่มืดมืดในมุมห้อง” คชาเล่าอย่างอารมณ์ดี
    คชาเสริมอีกว่า จริงๆไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ชายอย่างเดียวเหรอ แต่ด้วยเพราะเขาเป็นผู้ชาย ก็เลยนำเสนอในมุมแบบนี้ เพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดกว่า ซึ่งจริงๆ ผู้หญิงก็มีความรู้สึกในมุมแบบนี้เช่นกัน
    “พอได้มาลอง ทำเพลงนี้ ในทุกๆ องค์ประกอบยอมรับเลยว่ามันยาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราเข้าใจมาแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มทำ ซึ่งมันเป็นเรื่องสนุกที่เราได้ทำงานกับคนเก่งๆ ได้เห็นขั้นตอนไปทีละขั้นทีละขั้น ผมโชคดีด้วยที่ผมไม่ได้คิดทำเพลงนี้อยู่คนเดียว มีทีมงานที่ดี มีโปรดิวเซอร์ที่ดี ทุกอย่างรวมกันทำให้เรามองเห็นจุดที่เราจะไปได้เร็วขึ้น ถามว่าเพลงนี้มีความเป็นเรามากที่สุดไหมจริงๆแล้ว 3 เพลงให้หลังที่ทำมาก็มีความเป็นคชาทุกเพลง แต่ด้วยเพลงนี้ ภาษาก็เป็นภาษาของเราเนื้อเรื่องที่นำเสนอก็เป็นเนื้อเรื่องของเรา”

 

‘#ใต้ความโสด’ เปิดประตูบานใหม่ในแบบ ‘คชา’ 

 


    นักร้องหนุ่มยอมรับว่าตื่นเต้นและกังวล เพราะว่าเป็นเพลงแรกภายใต้สังกัดของแกรมมี่และมีการเปลี่ยนแปลงที่เยอะมากขนาดนี้ แต่ไม่ได้กังวลมากนักเพราะกลัวว่าถ้ากังวลมากแล้วจะสติแตก และมันก็จะไม่นำพาอะไรดีๆเข้ามา เลยกังวลแต่พอควร คือแค่ว่ามองบวกมองลบไว้ เพื่อดูลาดราวสถานการณ์ ถามว่ากังวลเรื่องอะไร ก็กังวลในเรื่องว่า คนจะชอบไหม เพลงจะดีไหม กระแสตอบรับจะเป็นยังไง
    “อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่ามันคือการเปลี่ยน โอเคเราเคยใช้เสียงแบบอัลบั้มก่อนก่อนมา 5 ปีแล้วถามตัวผมเอง ว่ายังใช้ได้อยู่ไหมผมใช้ได้นะ แต่เบื่อ เพราะในบางครั้ง มันเหมือนกับการที่เราเสริฟอาหารจานเดิมเดิมๆ ให้แฟนแฟนได้กินมาตลอด 5 ปี มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ท้าทายอะไร มากไปกว่าเดิมซึ่งถ้าเราจะเปลี่ยน ละครทำอะไรใหม่ๆดีกว่า เหมือนการที่เราเอาเรือออกไปเจอคลื่นลมจริงๆ ให้มันท้าทาย ด้วยนิสัยของเรา อยากที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนลุคใหม่ๆ ร้องเพลงสไตล์ใหม่ๆ ซึ่งเพลงนี้ ทำให้เราได้ลองแบบนั้น ถามว่าเรารู้ไหมว่าแฟนเพลงของเราชอบแบบไหนเรารู้แต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องเจอกันคนละครึ่งทาง เพราะเราคงตามใจเขาไม่ได้ทั้งหมดและตามใจเราไม่ได้ทั้งหมดเช่นกัน ทุกอย่างมันต้องเกิดจากการประนีประนอม ซึ่งกระแสตอบรับที่กลับมา ตัวผมเองค่อนข้างพอใจนะ เรามาอยู่ค่ายใหม่ มีเพลงใหม่มีลุคใหม่ซึ่งทั้งหมดมันถูกวางไว้แล้วตั้งแต่แรก ทั้งหมดมันมีการวางแผนไว้ซึ่งเราเองเรารู้สึกดีนะกับการเริ่มต้นใหม่ ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจมันถูกหรือผิดแต่เมื่อผมเลือกแล้วผมก็ตั้งใจที่จะทำมันให้ดีที่สุด” คชากล่าว

 

‘#ใต้ความโสด’ เปิดประตูบานใหม่ในแบบ ‘คชา’ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ