‘ไมค์’กับเส้นทางไกลเกินฝันในย่างก้าวสู่อินเตอร์

 

          ไปโกอินเตอร์โด่งดัง ไกลถึงประเทศจีน สำหรับ “ไมค์” พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย บันเทิง “คม ชัด ลึก” พาไปพูดคุยกับเขาถึงความสำเร็จในวันนี้

00การโกอินเตอร์
000การทำงานที่จีนเป็นอย่างไรบ้าง
          ทั้งเรื่องของงาน โอกาสที่เข้ามาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีงานที่เหมือนกับพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในเชิงของบทที่เราได้รับ หรืออะไรต่างๆ ก็ได้ ขึ้นเป็นตัวพระเอกหลัก ตัวเมนของเรื่อง ส่วนการทำงานค่อนข้างหนัก เพราะว่าระบบจะต่างจากที่ไทย อย่างเช่น การถ่ายละครที่ไทย จะเป็นวันจันทร์-วันพุธ แต่ที่จีนจะเป็นระบบแบบเหมือนเข้าค่าย ก็คือต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด แต่ระยะเวลาจะสั้นกว่า อย่างที่ไทยบางเรื่องใช้เวลาถ่ายทำเป็นปี แต่ที่จีนจะใช้เวลาถ่ายทำ น้อยกว่า มี 1 เดือนครึ่งบ้าง 3 เดือนบ้างแล้วแต่ โดยที่ถ่ายทำทุกวันไม่มีวันหยุด ทำงานเฉลี่ยวันละ 15 ชม. ต่อวัน เราจะหนักกว่านักแสดงคนอื่นๆ เพราะว่าเราเป็นคนไทยที่พูดจีนไม่ได้ และฟังจีนไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นการทำงานของเราต้องคูณ 10 เท่าขึ้นไป เพราะต้องทำการบ้าน ในมุมบทของนักแสดงคนอื่นด้วย เราต้องรู้ว่าเขาพูดจบอะไรตรงไหนยังไง ต้องมีสมาธิ เพราะว่าเรื่องที่ไปเล่นมา ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ดราม่า และบทเยอะกว่าที่ไทยอีก วิธีจำบทของผม คือ จำให้เหมือนเวลาสวดมนต์ และส่วนใหญ่จำเป็นภาพ อย่างเช่น บางคำจะคล้ายกับภาษาไทย ฉีกล้วย ผมก็นึกไปว่าเป็นกล้วย (ยิ้ม) จำเป็นภาพไป เวลาแสดงในบท สมาธิต้องเกินร้อย ด้วยความที่เราต้องโฟกัสหลายอย่าง ทั้งมุมกล้อง นักแสดงคนอื่น อารมณ์บทตัวเอง บทคนอื่น สิ่งรอบข้างที่เราต้องทำ ต้องมีสมาธิสูงในการทำงาน

000ผลงานที่จีน “มายลิตเติ้ลพรินเซส” และ “เดลิเชียส เดสตินี่” ถูกพูดถึงเยอะ แม้แต่ที่ไทยเอง
          ใช่ ผมก็งงเหมือนกัน เข้าไปดูยูทูบยอดวิวเยอะมาก คนดูเป็นร้อยล้าน ผมงงมาก อย่างแฟนๆ ที่ไทยก็น่ารัก บางคนดูทั้งๆ ที่ไม่ได้มีซับไทย ผมดีใจนะ การที่คนจะมาดู โดยที่ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไง แสดงว่าเขาต้องอยากดูจริงๆ ผมเคารพในตรงนี้มาก เพราะผมเป็นคนหนึ่ง ที่ดูโดยที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่ขนาดไม่รู้เรื่อง ก็สนุกดีนะ มันเล่าด้วยภาพ ฟีดแบ็กก็ดีนะ ส่วนเดลิเชียส เดสตินี่ เรื่องนี้มี 45 ตอน หนักที่สุดตั้งแต่ที่เคยแสดงมาเลย บทเยอะที่สุด เหมือนได้ไปอัพเดท ไปพัฒนาการแสดงของตัวเอง ผมรู้สึกได้เลย ไปที่โน่น ผมเป็นกบในกะลา จากแต่ก่อนว่าเราเก่งในด้านนี้ เราถนัดด้านนี้ โปรดักชั่นอะไรของเราดี เจ๋งสุดๆ แต่พอไปเจอที่โน่น ด้วยความที่ประเทศเขาใหญ่ด้วย เรารู้เลยว่าเราเป็นกบในกะลาเนอะ นักแสดงเขาเก่งขั้นเทพกันทุกคนเลย

 

 

000ได้เซ็นสัญญาหรือมีค่ายอะไรที่คอยดูแล
          บริษัท แฮนซัม เป็นเหมือนกับบริษัทนำเข้าดาราไทย ผมเป็นคนแรก ที่ได้เข้าบริษัทนี้ เซ็นไป 3 ปี โดยที่ตอนนั้น ยังไม่มีใครกล้าลุยงาน ผมก็ไปตายเอาดาบหน้าก่อน ไปลุย ไปลองตลาดดู ปรากฏว่ามันเวิร์ก ทางบริษัทเลยมีนโยบายว่า จะเอาดาราไทยเข้าจีน ถามว่าตัดสินใจนานไหมในการเซ็นสัญญา จริงๆ ก่อนหน้านี้ มีเข้ามาหลายบริษัท แล้วผมใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ปี จนรู้สึกว่ามันไม่คืบหน้า  พอดีเจอบริษัทนี้ เขาบอกว่าไม่ต้องเซ็น ให้ลองไปดูก่อนก็ได้ รู้สึกว่าเขาให้ใจกับเรา เรื่องแรกที่ไปเล่น ก็ประสบความสำเร็จ เรื่อง อู๋ชิน เดอะมอนสเตอร์คิลเลอร์ ไปเป็นแขกรับเชิญ มันดังและคนดูเยอะ ถือว่าฟีดแบ็กดีเลยทำงานต่อ แต่ตอนนั้น คือผมยังทำแค่ 50-50 ไทย 50 จีน 50 แต่ตอนนี้เทไปที่จีนแล้ว เรื่องแรกที่ไปถ่ายมันค่อนข้างหนักมาก เพราะยังมีงานที่ไทยอยู่ ต้องบินไปกลับไทย-จีน ทุกอาทิตย์ ช่วงนั้นคือโทรม เพราะบินตลอด โตบนเครื่องบิน พอฟีดแบ็กดี เลยมีงานต่อเนื่อง การทำงานที่โน่นเหมือนเป็นการพูดต่อๆ กัน พอเขาเห็นความตั้งใจของเรา เขาเอาไปพูดต่อๆ กัน ว่าคนนี้ตั้งใจ ทำงานดีอะไรแบบนี้ และมีอู๋ชิน ภาค 2 ที่มีบทบาทมากขึ้น ได้แต่งกายแบบโบราณด้วย เป็นตัวดำเนินเรื่องแล้ว มันสร้างจากนวนิยาย น่าจะมีหลายภาคอยู่

000กฎของการใช้ชีวิตที่นั่นมีอะไรบ้าง
          เวลาพัก ก็พักห้องที่ดีที่สุดของละแวกนั้น เพราะบางทีโลเกชั่นมันเลือกไม่ได้ ก็เอาตามความสะดวกของสถานที่ แต่สิ่งที่เราจะเลือกได้ ก็คือเราต้องได้ห้องสูทอะไรแบบนี้ ก็ต้องมีคนติดตาม 2 คน คนหนึ่งเป็นล่าม คนหนึ่งเป็นคนจีนคอยดูแล เพราะเราต้องคอยโฟกัสเรื่องงาน ไม่ใช่ว่าเราเป็นสตาร์ เราเลยมีสิทธิพิเศษ แต่เราต้องโฟกัสอย่างอื่นในฐานะนักแสดง เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันต้องมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับเรา ไม่ใช่ว่าติดหรู ติดสบาย และเรื่องของบุหรี่ก็เป็นกฎ ในกองเขาเรียกผมว่า “นักฆ่าบุหรี่” เวลาที่ไมค์เดินผ่าน ใครที่สูบบุหรี่จะวิ่งหลบ เพราะผมตั้งกฎไว้ว่า ถ้าใครสูบบุหรี่ในกอง ผมเดินออกจากกองเลยนะ เพราะผมแพ้บุหรี่ และเคยล้มครั้งหนึ่งที่กอง แล้วต้องพ่นยา เพราะเขาอัดบุหรี่กันหนัก เลยต้องตั้งกฎ เพราะมันคือความเสี่ยงต่อนักแสดง ที่อาจจะเกิดอะไรไม่คาดฝันได้ ทุกคนก็จะแซวว่า นักฆ่าบุหรี่ มาแล้ว ต้องรีบดับบุหรี่ทันที และมีการคุมภาพลักษณ์ อยู่ๆ จะไปเดินเล่นสยามแบบบ้านเราไม่ได้ ส่วนการกินก็ค่อนข้างวุ่นวายมาก เราต้องโทรไปจองห้องส่วนตัว ถ้าเกิดว่าไม่มีห้องก็อด

000ความดังของไมค์ที่จีนตอนนี้
          อยู่ที่โน่นเขาจะเรียกผมว่า เนื้อสด คือเด็กหน้าใหม่ ที่กำลังจะมา แฟนๆ ที่โน่นก็ค่อยๆ ขยายขึ้น เวลาไปไหนก็มีแฟนๆ มารุมๆ มีการจ้างการ์ดมา 200 คน แล้วแหวกทางให้ผมเดิน ผมก็แบบขนาดนี้เลยเหรอ อยากจะบอกเขาว่าแบ่งค่าจ้างตรงนั้นเหลือสัก 20 คน แล้วเอาเงินมาให้ผมไหม (หัวเราะ) ต่อจากนี้ อยากจะไปเรียนภาษาจีนจริงจัง เพราะผมทำงานที่จีน 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว เรียกว่าโฟกัสที่จีน จริงๆ ผมก็เป็นลูกครึ่งจีนด้วย พ่อเป็นคนจีน แม่เป็นไทย คนจีนเขาเลยแบบอุ๊ยเป็นคนจีนด้วยอะไรแบบนี้ ก็อยากจะพูดภาษาจีนให้ได้ อยากสื่อสารกับเขารู้เรื่อง อยู่ที่นั่นเครียดกดดันตัวเอง เรื่องภาษายังคงเป็นปัญหาอยู่

 

 

00มุมมองอนาคตต่อจากนี้
000ต่อจากนี้มีคิดไหมว่าอยากจะไปทำงานที่ประเทศอื่นบ้าง
          มีนะ จริงๆ จะมีจัดแฟนมีทที่บราซิล แต่ยังมีปัญหาเรื่องของงบ เรื่องคิว เรื่องคน จริงๆ ญี่ปุ่นในอนาคตอาจจะมีโอกาสได้ไปทำงาน แต่ต้องดูอีกที เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนงานที่ไทยก็มีแฟนๆ ถามหา แต่ผมมองว่าเดี๋ยวนี้โลกมันถึงกันหมด แม้ว่าเราทำงานต่างประเทศ เราก็กลับมาไทยได้ มีการซื้อลิขสิทธิ์มาฉาย หรือดูในยูทูบ ผมก็อยากให้แฟนๆ ที่ไทย ได้เห็นไมค์ไปทำงานต่างประเทศว่ามีความต่างยังไง ละครของเขาก็สนุกนะ ส่วนงานที่ไทยไม่ได้รับเลย มีเสนอมาบ้าง และผมมีธุรกิจส่วนตัวที่กำลังเริ่ม เกี่ยวกับความสวยความงาม ยังอยู่แค่ไลน์ของสกินแคร์ 

000เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งเราจะมีโอกาสโกอินเตอร์แบบนี้
          จริงๆ หมอดู เคยดูดวงผมไว้นะ แล้วผมก็ว่ามันตรงนะ เขาดูไว้ว่าไมค์เหมาะกับงานต่างประเทศ ซึ่งตอนที่ดูไมค์ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะมาได้ถึงตรงนี้ จุดนี้ที่ไปทำงานที่จีน พูดภาษาจีน จริงๆ ผมมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นมากกว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดที่สำเร็จ แต่ความรู้สึกตอนนี้ มันแค่บ่งบอกว่า ตอนนี้ผมกำลังเริ่มต้นไปตรงจุดไหนสักแห่งหนึ่ง ที่ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้โตขึ้นกว่าที่แต่ก่อนเคยเป็น เมื่อก่อนผมจะเหลาะแหละ ดูเรื่อยเปื่อย เหมือนทิ้งร่างตลอดเวลา ตอนนี้จัดสรรชีวิตตัวเองได้มากขึ้น

000ย้อนไปตอนเป็นนักร้องเคยคิดไหมว่าจะมาถึงจุดที่เป็นนักแสดงเต็มตัว
          ไม่เคยคิดเป็นนักแสดงเลย เพราะว่า แต่ก่อนตั้งแต่ตอนเล่นละครกับกอล์ฟ (พิชญะ นิธิไพศาลกุล) ไม่เคยคิดว่าตัวเองแสดงดีเลย เกลียดด้วยซ้ำว่าเรามาทำอะไรเนี่ย ตลกมากเลย ผมว่ามันเป็นเรื่องดวงมากกว่า ผมเชื่อเรื่องดวง เหมือนชีวิตเราถูกกำหนดไว้แล้วว่าเส้นทางมันต้องไปแนวทางนี้ ต่อให้เราพยายามหนีแค่ไหน ก็ยังอยู่


000มาถึงตอนนี้ คิดว่ามาถึงจุดที่พอใจแล้วหรือยัง
          ยังไม่ถึงจุดที่พอใจขนาดนั้น ผมมองว่านี่คือจุดเริ่มต้น เพราะว่าพอไปที่โน่น ผมเหมือนรีเซตตัวเอง ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ ถ้าถึง 100 สำหรับผม คือต้องไปฮอลลีวู้ด แต่ก็ยังเป็นแค่ความฝันที่ผมคิดว่าคนเรามีสิทธิ์ฝัน ไปถึงไม่ถึงอันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง ผมก็คิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ตอนนี้เหมือนกับเรากำลังเล่นเกมอยู่ ที่เราค่อยๆ ไปทีละด่าน ถ้าสมมุติเราเลเวล 5 แต่ไปตีบอสที่เลเวล 30 เราก็ตายกันพอดี ผมเริ่มต้นจากที่จีนที่จะพัฒนาตัวเอง เป็นสนามฝึกตัวของตัวเองได้เลย ที่เราต้องพัฒนาในเรื่องของการแสดง การทำงาน ที่นั่นเขาคือเก่งกันมากจริงๆ ทำงานทุกอย่างรวดเร็ว และงานออกมาดีด้วย ผมยังอยากที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานกับคนที่ผมชอบ อย่าง เจ็ทลี แจ๊กกี้ ชาน  ถ้าไปได้ระดับนั้นเราก็คงจะแฮปปี้ คนเหล่านี้คือไอดอล แต่ผมยังต้องพัฒนาต่อไป การแข่งขันเขาสูงมาก นักแสดงแต่ละคนเรียกว่าต้องขั้นเทพ 

000ทำงานมาตั้งแต่เด็ก วงการบันเทิงได้ให้ข้อคิดอะไรบ้าง
          ถ้าคุณทำงานด้วยความจริงใจ ตั้งใจจริง และมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนแน่นอน แล้วคุณทำ ไม่ยอมแพ้ ผมเชื่อว่าวันหนึ่งต้องไปถึง แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายอยู่แค่เงิน ว่าอยากรวยอยากดัง มันจะทำให้คุณไปได้ไม่ไกลมาก ผมว่ามันต้องทำทุกอย่างด้วยความรักความชอบ มีแรงในการขับเคลื่อน ที่ทำให้คุณอยากจะไปตรงนั้นให้ได้ การที่ผมไปที่จีนและผมทำได้ขนาดนี้ เพราะว่าผมบอกกับตัวเองตลอดว่าผมชอบมัน ผมได้ทำสิ่งที่ผมชอบ และมีความสุขแค่นั้นเอง มองเป้าหมายของผมแล้วเดินไปข้างหน้าแค่นั้นเอง ผมจะเอาแรงบันดาลใจมาจากไอจี ผมจะตามอินสตาแกรมของคนที่แบบเขาจะมีคำเขียนดีๆ ที่ให้กำลังใจเราได้ แล้วทำให้เรารู้สึกฮึกเหิม

 

 

000มุมมองความรักของไมค์ ณ ตอนนี้
          ?ผมมองว่า ถ้าดวงเรามันจะมีความรัก มันจะเข้ามาในเวลาที่ถูกต้อง ที่ใช่ แต่ในตอนนี้สิ่งที่เข้ามาคืองาน ก็ไม่แน่ว่าผมอาจจะเจอตอนทำงาน หรืออาจจะเจอตอนไม่ได้ทำงานแล้วก็ได้ ผมไม่โหยหา ไม่ออกตามหามัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ

000กับ “น้องแม็กซ์เวลล์” ลูกชาย มีโอกาสได้เจอไหม
          ตั้งแต่ทำงานที่จีนไม่ค่อยได้เจอ แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้วิดีโอคอลล์คุยกับลูก แต่แม็กซ์จะไม่ค่อยสนใจกล้องเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะสนใจรอบข้างกับของกินมีอยู่แค่นั้น ก็ยังติดต่อ คิดถึงเสมอ ไม่มีใครไม่คิดถึง เป็นใครใครก็ต้องคิดถึง ผมก็เปิดบัญชีให้เขาไว้ใช้ตอนโตด้วย เวลาเรียนเขาจะได้ไม่มีปัญหา เผื่อในอนาคตเกิดผมล้มละลายทำธุรกิจแล้วไม่เวิร์ก อย่างน้อยๆ มีเงินตรงนี้ให้เขาได้ไปศึกษาต่อ ไปทำอะไรต่อ

.......................................

เขาชื่อ : “ไมค์” พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล
เกิด : 19 ธันวาคม พ.ศ. 2532
การศึกษา : ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ต
ผลงานที่ผ่านมา : รากบุญ, ฟูลเฮ้าส์ วุ่นนักรักเต็มบ้าน, อู๋ซิน เดอะมอนสเตอร์ คิลเลอร์, คิสมี รักล้นใจนายแกล้งจุ๊บ, มาย ลิตเติ้ล พรินเซส,  เดลิเชียส เดสตินี่ ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : อู๋ซิน เดอะมอนสเตอร์คิลเลอร์ 2