บันเทิง

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ท็อป” ณัฐเศรษฐ์ เปิดใจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจขณะที่หลับเพราะมีอาการ sleep apnea (โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น) เป็นมา2ปีแล้ว ลั่นไม่ชินชีวิตโสด

          หลายคนคงอาจจะเคยเห็นพิธีกรหนุ่มมากความสามารถ “ท็อป” ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่ภายนอกอาจจะดูแข็งแรงดี แต่เขาเอง ก็มีโรคประจำตัว ที่ยังต้องรักษาอยู่ตลอดเวลา อาการ sleep apnea (โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น) ล่าสุดได้เจอตัวหนุ่มท็อป งานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน “shirayuki” เลยขอถามไถ่สักหน่อย

 

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

 

          “ก็เป็นโรค sleep apnea เป็นมา 2 ปีแล้ว เคยมีภาพออกมา ตอนนี้ก็ยังใช้เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่ ถ้าต้องเดินทางไกลๆก็พกเครื่องออกซิเจนไปด้วย ทุกวันนี้ต้องมีเครื่องออกซิเจนติดหัวนอนตลอด ถ้าไม่มีเครื่องออกซิเจนมาช่วย ก็ถือว่าอันตราย จะทำให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่วงไปได้ง่าย พยายามมีความสุขกับชีวิต ไม่เครียด ตอนนี้พยายามจะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ไม่จมอยู่กับปัญหามากจนเกินไป ถ้าไม่รักษามันก็จะเกิดอาการ ก็พยายามดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนแล้วก็ใช้อ็อกซิเจน เราต้องคุมดูแลตัวเองทุกอย่าง การกิน การออกกำลังกายด้วย มันยังไม่มีทางแก้ ไม่มีทางรักษา แต่เราป้องกันไม่ให้อาการมันมากขึ้นได้ ถามว่ามีอะไรกังวลกับโรคนี้ ผมกลัวแก่ โรคนี้ถ้าไม่รักษาจะแก่เร็ว เพราะเป็นโรคที่ใช้ร่างกายมาก มันเหมือนเรานอนพักผ่อนแล้ว แต่จริงๆเรายังไม่ได้นอน มันพักผ่อนไม่พอ เหมือนเรานอนไป 6 ชั่วโมงแล้ว แต่เรากลับได้พักผ่อนจริงๆแค่ 3 ชั่วโมงเอง มันหลับไปสนิท แล้วอาการข้างเคียง มันคือจะทำให้แก่เร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมกลัวมาก”ท็อปกล่าว

 

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

 

          ผู้สื่อข่าวถามต่อ ถึงเรื่องชีวิตหนุ่มโสดหมาดๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และได้ติดต่ออดีตคนรักอย่าง “แพม” สิตามนินท์ บ้างหรือไม่ โดยท็อปเปิดใจว่า 

 

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

เพราะอะไร ‘ท็อป’ ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจทุกครั้งที่หลับตา

 

          “ก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ก็ค่อยๆปรับไป แต่เรื่องไปไหนมาไหนด้วยกัน มันจะมีทริปที่เราจะไปด้วยกันกับแก๊งค์ของเรา ก็ต้องมีการเปลี่ยนแผนนิดหนึ่ง มันยังมีอะไรที่มันยังไม่เหมือนเดิม (ยังเศร้า) มันก็เป็นธรรมชาติ ยังมีเป็นช่วงๆที่เรานึกถึง ก็เป็นช่วงเวลา แต่สุดท้ายเราก็จะมองเห็นตัวเอง ว่าเรากำลังรู้สึกอะไรอยู่ กำลังนึกถึงอะไรอยู่ รู้สึกกับมัน จับอารมณ์มันได้ เราก็ปรับตัว ไม่ไปจมปลักกับมัน ปล่อยแล้วเดินต่อ (ยังคุยกับแพมไหม) ก็ยังคุยกันบ้าง ส่วนมากจะเป็นเรื่องธุระ ไม่ได้คุยกันประจำ เหมือนแต่ก่อน เจอกันเราก็ยังถ่ายรูปคู่กันได้ ผมกับแพมเรามองทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้โฟกัสว่าต้องเจอกัน หรือไม่เจอกันเลย เราคบกันมานาน เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ผมพร้อมที่จะช่วยคุณแพมทุกเรื่องอยู่แล้ว 

         ผมเองมั่นใจว่า ถ้าผมมีปัญหาอะไร เขาก็จะช่วยผมเหมือนกัน ถามว่าพอเรายังคุยกันอยู่อย่างนี้ โอกาสที่จะไปเจอใครใหม่มันยากไหม ผมยังไม่ได้คิดเลย เราไม่เอามาเทียบกันกับคุณแพมอยู่แล้ว เรื่องนี้มันพูดยาก คิดว่าคนใหม่เขาก็คงต้องเข้าใจ” ท็อปกล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ