งานแต่งสุดซึ้ง! ‘อั๋น-จ๋า’ สัญญาตั้งใจสร้างครอบครัว (คลิป)

     ถือเป็นอีกหนึ่งงานวิวาห์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับงานวิวาห์ของคู่รักมาราธอนระหว่าง ดร. “อั๋น” ภูวนาท คุนผลิน และ “จ๋า” อลิสา พันธุศักดิ์ ที่ใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานกว่า 9 ปีเต็ม ก่อนจะออกมาประกาศข่าวดีแบบเซอร์ไพรส์แฟนๆ เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา

 

 

     โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 14 มกราคม ทั้งคู่ได้ควงแขนกันเข้าพิธีทางศาสนาคริสต์ ณ โบสถ์วัฒนา ย่านสุขุมวิท ท่ามกลางความยินดีของแขกผู้ใหญ่ของสองครอบครัว รวมถึงเพื่อนสนิทที่เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยาน 

     กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ม.ค.) คู่บ่าวสาวป้ายแดง อั๋น และ จ๋า ได้ถือฤกษ์ดีจัดงานมงคลสมรสด้วยพีธีแบบ “ไทย-จีน” โดยมีการแห่ขันหมากและยกน้ำชาตามประเพณี และก่อนที่จะเข้าสู่งานฉลองมงคลสมรสในตอนเย็น ทั้งคู่ได้ถือโอกาสแถลงข่าวเปิดใจถึงวันสำคัญ ณ ห้องสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ ชั้น2 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ดังนี้

 

 

     โดย "อั๋น" ภูวนาท กล่าวว่า “งานวันเสาร์ (14 ม.ค.) ที่จัดที่โบสถ์วัฒนา เป็นครั้งที่ผมเคยไปงานแต่งงานในโบสถ์อย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็รู้สึกดีมาก ซาบซึ้งใจ เพื่อนๆ มากันเยอะ ดีใจมากจริงๆ ผมร้องไห้ตั้งแต่วินาทีที่บาทหลวงให้กล่าวคำปฏิญาณพร้อมกัน คือพิธีการมันศักดิ์สิทธิ์มาก เพลงในงานก็เพราะ แถมเพื่อนๆ เป็นคนสำคัญยังมาร่วมแสดงความยินดีกับเราอีก ทุกอย่างมันซาบซึ้งไปหมดเลย ผมร้องไห้ตั้งแต่วันซ้อมเลย และเอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ผมที่ร้องนะ ทุกคนที่อยู่ในงานร้องเหมือนกันหมด ร้องกันพังเลย ส่วนเรื่องรองพื้นกันน้ำที่พูดแซวๆ กัน อันนี้ผมต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้ใช้รองพื้นกันน้ำอยู่แล้ว เพราะวันนั้นผมทาแป้งไปเองด้วยซ้ำ ทาออกจากบ้านเลย แค่ไม่ให้มันดูมัน แต่ว่าพองานเริ่มได้สัก 5 นาที แป้งก็ไปหมดแล้ว อย่างที่จ๋าบอก น้ำตาของเราสองคน รวมถึงน้ำตาของแขกทุกคนที่ไหลออกมา มันไม่ได้แปลว่าเรารักกันมากนะ แต่ผมมองว่ามันเป็นพลังงานรวมของความรักที่มารวมมากกว่า มันเหมือนทุกคนถูกรักไปพร้อมๆ กัน”  อั๋นกล่าวอย่างอารมณ์ดี

 

 

 

     ด้าน "จ๋า" เสริมต่อว่า พิธีในโบสถ์ซาบซึ้งอยู่แล้ว เพราะส่วนตัวเป็นคริสเตียน “จ๋าซาบซึ้งอยู่แล้ว เพราะครอบครัวจ๋าเราเป็นคริสเตียนที่เคร่งมาก และตอนที่เข้าไปในโบสถ์คุณแม่ให้พลังจ๋ามากจริงๆ จ๋าร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ออกจากห้องด้วยซ้ำ และอีกเรื่องที่จ๋าตื้นตันก็คือ จ๋ารู้สึกตื้นตันกับความรักของเพื่อนๆ ของแขกทุกๆ คนที่อยู่ภายในงาน รวมถึงความรักของพระเจ้า คำสัญญาในวันนั้นใจความก็คือให้เรารักและซื่อสัตย์ต่อกัน ดูแลเคียงข้างกันตลอดไป” จ๋ากล่าว

     ส่วนพิธีแห่ขันหมาก และยกน้ำชาในวันที่ 16 ม.ค. อั๋น กล่าวว่า "เมื่อเช้าค่อนข้างประคองสติได้ดี มีน้ำตาซึมๆ นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก หลายคนอาจมองว่าทำไมเราถึงจัดพิธีเยอะ ผมมองว่าพิธีแต่ละพิธีต่างก็มีความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกัน จ๋าเขายังบอกเลยว่าทุกพิธีมันมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ และก็มีความหมายของแต่ละพิธีอยู่  ส่วนเรื่องสินสอด เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้เท่าไหร่ เพราะเรามองข้ามเรื่องพวกนี้ไปเลย แต่เราก็จัดแบบเหมาะสมตามสมควร มีแก้วแหวนเงินทอง ตามสิ่งที่มันพึงจะเป็นมงคล อีกอย่างทางฝ่ายคุณจ๋าเขาก็ไม่ได้มีการรีเควสใดๆ ด้วย ส่วนแหวนของเจ้าสาวที่ใส่วันนี้(16 ม.ค.) ก็ 5 กะรัตกว่า แต่ว่าแหวนในโบสถ์จะเป็นอีกวงหนึ่งนะ วงนั้นจะเป็นแหวนที่เราใส่กันประจำทุกวัน ส่วนวงนี้อาจจะใหญ่เกินไปหากต้องใส่ทุกวัน (หัวเราะ) จริงๆ เพชรเม็ดนี้เป็นเพชรที่ผมซื้อเก็บไว้นานมากแล้วนะ ประมาณ 4-5 ปี ถามว่าซื้อไว้ให้เขาเลยไหม ก็ซื้อไว้ให้นั่นแหละ และเคยบอกเขาด้วยว่าจะมอบให้กับเขาด้วย ส่วนตัวเรือนที่ทำขึ้นมาเป็นตัวเรือนแบบเดียวที่คุณพ่ออั๋นมอบให้กับคุณแม่อั๋นในวันแต่งงานเลย เหมือนเป๊ะทุกอย่าง" อั๋นกล่าว

    ในส่วนของ "จ๋า" กล่าวเสริมต่อว่า “สิ่งหนึ่งที่พิธีพุทธและคริสมีคล้ายกันก็คือคำสอน คำสอนเรื่องความรัก ความซื่อสัตย์ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้อภัยกัน  ส่วนแหวน จ๋าก็ชอบ แหวนวงนี้ อั๋นให้อะไรก็ชอบหมด (ยิ้ม)” จ๋ากล่าว

    ส่วนเรื่องวางแผนมีทายาท ทั้งสองคนกล่าวว่า เตรียมมีลูกเลย เพราะอายุเข้าเลข 4 ด้วยกันทั้งคู่แล้ว “คิดว่า คิดว่าอายุเยอะแล้ว แล้วคิดว่าจะรีบมีทายาท เพราะเราอยู่ในวัยที่จริงๆ ต้องพยายามรีบมีแล้ว คิดว่าจะตั้งใจมีเลยเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นเลย พร้อมเลย ถามว่ากังวลมั้ยว่าจะมีธรรมชาติหรือพึ่งแพทย์ จริงๆ ไม่ค่อยกังวล เพราะว่าจ๋าวางแผนทุกเรื่องในชีวิต เคยฝากไข่ไว้ตั้งหลายปีแล้ว ส่วนจะทีลูกกี่คน ไม่รู้จริงๆ ส่วนโมเม้นท์ที่ตื่นมาแล้วเจอกัน จริงๆ แล้วจ๋าเห็นเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อก่อนก็เฟซไทม์กันตลอด เพราะฉะนั้นรู้สึกว่า ความผูกพันของเรามีเยอะมากอยู่แล้ว จนมีความรู้สึกว่า คนนี้แหละที่เราวางใจ นอนหลับอยู่ข้างๆ จ๋าน่าจะเป็นคนโชคดีนะ เพราะว่า ผู้หญิงที่อายุป่านนี้ ผู้ชายคงหาไม่เจอแล้วไง แล้วคงมีหลายเรื่องที่คนอื่นคิดไปเองเกี่ยวกับอั๋น เลยเหลือรอดมาให้จ๋าได้ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นเราโชคดีที่อั๋นเขาเป็นคนน่ารัก และเป็นคนใจดี พิถีพิถันทุกเรื่อง เราจะวางใจในก่รที่จะเป็นคู่ชีวิตเลยคิดว่าเราเป็นคนที่โชคดีมากจริงๆ” จ๋ากล่าว

 

 

 

    ด้าน อั๋น เสริมต่อว่า "คุณจ๋าอยู่ในวัยที่ไข่ใบสุดท้ายกำลังจะมาแล้ว (หัวเราะ) เรื่องลูกไม่รู้ว่าจะรออะไรแล้ว เพราะอายุเราก็แตะเลขสี่แล้วทั้งคู่ ส่วนถ้าเป็นในเรื่องของการฝากไข่คุณจ๋าเก็บไว้เยอะมาก (หัวเราะ) แช่แข็งเอาไว้อย่างมหาศาล ถามว่าตั้งใจจะมีลูกกี่คน ไม่รู้จริงๆ แต่ทั้งหมดทั้งปวง เราบอกกันว่า เราจะไม่เอาตรงนี้มากดดันนะ เราก็คิดว่าคงมีกันไม่ยากมั้ง แต่ถ้ามันจะไม่มี เราคิดว่าเราทั้งสองคนจะไม่ทุกข์ไปกับมัน เราเริ่มต้นจากการที่เรามีความสุขมากอยู่แล้วทั้งสองคน เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เราจะไม่สร้างเงื่อนไขอะไรขึ้นมาว่าต้องเป็นแบบนั้นถึงจะสุขกว่านี้ ถ้าเกิดว่ามีอะไรที่ดีขึ้นกว่านี้ อั๋นจะถือว่าเป็นโบนัสหมดเลย เพราะทุกวันนี้เราเต็มแล้ว ส่วนแพลนฮันนีมูน น่าจะประมาณเดือน มีนาคม จริงๆ เราไปเที่ยวกันบ่อย แต่เขามีบอกว่าอยากไปไหนบ้าง จริงๆ เขาบอกว่าอยากไปนิวยอร์ก แต่จริงๆ เขาไม่ได้อยากจะไปฮันนีมูน เท่ากับเขาอยากไปดูโชว์หรอก เขาจะเอากลับมาทำทิฟฟ่านีโชว์ของเขา (หัวเราะ) เขาไปทีไรก็จะบอกว่า เดี๋ยวจะไปกินร้านอาหารตรงนี้ เดี๋ยวเขาจะทำร้านอาหาร ธุรกิจทั้งนั้น แต่นิวยอร์กเป็นที่ๆ เราก็ชอบ มีมุมโรแมนติกอยู่เยอะ คิดเอาไว้ว่าประมาณนี้ ถ้าถึงเวลาแล้วมันเปลี่ยนก็ค่อยว่ากัน แต่ว่าคงจะไปหลังจากงานมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีนของคุณจ๋า เรื่องเรือนหอก็อยู่บ้านผม ส่วนการจดทะเบียนสมรส ยังไม่ได้จดเลย เพราะว่าช่วงนี้เรายุ่งกับการจัดงานต่างๆ และคุณจ๋าเกี่ยวพันกับธุรกิจค่อนข้างจะเยอะ และมีเรื่องของคุณพ่อที่ยังสะสางไม่เสร็จด้วย" อั๋นกล่าว

    ถามต่อว่า เวลาตื่นมาเจอหน้ากัน รู้สึกยังไงบ้าง อั๋นกล่าวว่า “ก็ถามเขาว่า แต่งหน้านอนมั้ย (หัวเราะ) ไม่หรอกๆ ล้อเล่นๆ เขาเป็นแบบนี้มาตลอด จริงๆ ส่วนชีวิตคู่มันเป็นเรื่องของความลงตัวที่มันเย็นแล้วก็สบายใจในการอยู่ด้วยกัน เรามีการปรับตัวที่ผมรู้สึกว่าเราไม่ต้องฝืนในการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันง่ายไปหมดเลย มันอาจจะเป็นด้วยวัยที่เราสองคนนิ่งพอที่จะมีสติทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าเราจะทะเลาะ หรือมีโกรธกัน เป็นห่วงกันมันจะย้อนกลับมาให้เรามีสติ ก่อนจะพูดทุกอย่างเลย มันไม่มีอะไรที่เราทำไปก่อนคิด มันดีนะ ฟังดูเหมือนเพอร์เฟกท์ไปหมด แต่จริงๆ มันไม่ขนาดนั้น ผมรู้สึกว่ามันง่ายจริงๆ อย่างงานแต่งงานที่มีรายละเอียดเยอะขนาดนี้ แต่เราขัดกันไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ มีทะเลาะกันแค่ว่า แล้วจะให้ใครเลือก ถ้าเขาบอกว่า อั๋นเลือกเลย เราก็จะเลือกแล้วเขาจะวางใจ ถ้าเขาบอกว่างั้นจ๋าเลือกนะ เราก็จะให้เขาเลือกแล้วจบเลย ไม่ต้องตรวจอะไรอีกแล้ว เพราะเรารู้กัน เหมือนรู้เบอร์อ่ะว่ารองพื้นไม่ผิดสีแน่นอน” อั๋นกล่าว

    คำสัญญาที่มีให้กัน “อั๋นว่า เราไม่รู้จะสัญญาอะไร แต่ส่วนใหญ่สิ่งที่คนอยากให้เราสัญญามักจะเป็นสิ่งที่มีแนวโน้มจะผิดสัญญาหรือทำไม่ได้ เราเลยพยายามจะสร้างคำสัญญาขึ้นมา เพราะฉะนั้นเป็นอันว่า เรามีแต่ความตั้งใจดีกว่า อั๋นคิดว่าคำว่าตั้งใจ อาจจะยิ่งใหญ่กว่าคำสัญญาด้วยซ้ำ คนที่คิดคำนี้ก็ดีมาก เรามีแต่ความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดจริงๆ ต่อหน้ากล้องมหาศาลขนาดนี้ เป็นสิ่งที่อั๋นไม่ต้องขอด้วยซ้ำว่าเขาจะทำแบบนั้น แบบนี้ให้เรามั้ย เพราะตั้งแต่วันที่เขาตอบเซย์เยส ที่จะแต่งงานกับเรา อั๋นก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป ไม่ได้หมายความว่า เมื่อก่อนเขาไม่ดีนะ แต่เราเห็นถึงความตั้งใจที่เราไม่ต้องเอ่ยปาก แต่เขาทำให้”

    ส่วนจ๋ากล่าวต่อว่า “เราก็ผ่านชีวิตในเรื่องของการเป็นโสดมานาน (หัวเราะ) ครั้งนี้มันเป็นการที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ตัดสินใจแล้วว่าจะสร้างครอบครัว สิ่งที่เราตั้งใจมากจริงๆ ในเรื่องของการมีความครัวคือการพัฒนาคนด้วย ถ้ามีลูกเราจะพัฒนาให้เป็นคนที่ดีต่อไป หรืออยู่ในสังคมที่ดี เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่จ๋าบอกกับเขา และเราพยายามที่จะทำใหดีต่อไป” จ๋ากล่าวสรุป