‘ท็อป’เปิดปากเสียใจหย่า ‘แพม’แล้ว

         มีกระแสข่าวลือมาพักใหญ่ว่าคู่รักไฮโซ “ท็อป” ณัฐเศรษฐ์ กับ “แพม” สิตามนินท์ หย่าขาดจากกันเรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้แพมออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเป็นความจริง เจอตัว ท็อป ใน “งานตัดสินรอบชิงชนะเลิศ โครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 10” สอบถามได้รับคำตอบดังนี้

          "ไม่มีอะไรจะพูดเลย ก็ตามนั้นเลย ตามที่แพมเลย สาเหตุเป็นเรื่องของทัศนคติ ตามที่ในข่าวที่แพมบอก เรื่องการปรับตัว ผมคิดว่าเราเองทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ และก็ให้เกียรติในการตัดสินใจ เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ แบบที่คุณแพมเขาได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เรื่องของการตกลงกัน เราพูดคุยกันทั้งสองคน (เรื่องของทัศนคติคืออะไร) คือท็อปคิดว่า ตัวท็อปเองโดยส่วนตัวไม่ได้มีอะไรจะพูดมากในเรื่องนี้ ผมคิดว่าอย่างที่คุณแพมได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจ เราก็ให้เกียรติการตัดสินใจ เราเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาในการปรับตัวหน่อย แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่มันเปลี่ยนจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับทั้งสองคน ถามว่าเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างทำงานจนไม่มีเวลาให้กันหรือเปล่า ผมคิดว่ามันมีหลายๆ ส่วน หลายๆ ปัจจัย ชีวิตคู่มีหลากหลายเรื่อง ผมคิดว่า สิ่งใดที่เราสามารถสนับสนุนกันได้ และทำให้อีกฝ่ายหนึ่งแฮปปี้นั่น ถือว่าเป็นสิ่งที่เราควรจะทำ"ท็อปกล่าว

         นอกจากนี้ ท็อปกล่าวยอมรับว่ารู้สึกเสียดาย แต่ไม่ได้เสียดายที่ได้เจอแพม ได้อยู่กับแพม เป็นช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 

         "ผมรู้สึกดีใจและขอบคุณกับช่วงเวลานั้นมากๆ (คนช็อกดูรักกันมาก) ขอบคุณมาก ทุกวันนี้ก็ยังรักกันอยู่ ไม่ได้ตัดขาดกันได้ง่ายๆ ส่วนเรื่องครอบครัวของเราได้มีการคุยกัน ครอบครัวสนับสนุนในทุกการตัดสินใจของเรา และให้เกียรติในการตัดสินใจของพวกเรา ความเศร้า มันก็มีบ้างนะ ต้องยอมรับ มีโมเมนท์ที่เราเห็นนั่น เห็นนี่ มีความคิดอะไรขึ้นมาบ้างเป็นช่วงๆ แต่เราเชื่อว่า สิ่งที่เราได้ตัดสินใจไปแล้วเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเดินหน้าต่อไป เราก็ต้องปรับเปลี่ยน (เซ็นใบหย่าหรือยัง) เรียบร้อยแล้ว ผ่านมาประมาณ 1 เดือนได้แล้ว ก่อนหน้าที่จะเซ็นใบหย่า เราไม่ได้แยกกันอยู่ ถามว่าสาเหตุจริงๆ เพราะเรื่องที่เราไม่มีลูกหรือเปล่า ผมเชื่อว่ามันเป็นไปได้หมด มีหลายๆ ปัจจัย แต่ว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องหลักสำคัญ แต่น่าจะเป็นเรื่องของเราสองคนมากกว่า วินาทีเซ็นใบหย่า ก็ค่อนข้างทำใจลำบากเหมือนกันนะ (นิ่งไป) หนักนะ

         จริงๆ มันเป็นช่วงเวลา ที่ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่า แต่ผมทำงานเยอะ หนักมากในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา และเรื่องของเราเกิดช่วงนี้พอดี ทำให้ผมมีเวลาคิดแต่เรื่องงาน เวลาที่เหลือก็จัดการกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนั้น ถามว่ามีโอกาสได้พูดคุยกับแพมมั้ย มีนะ ก่อนจะมาทำงานวันนี้ ผมเพิ่งเจอคุณแพมมาก่อน ที่จะมาทำงาน เราพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ จะเรียกว่าปกติมั้ย ก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ความรู้สึกที่ได้เจอเขา ก็ดีใจ เรานัดกัน ก่อนหน้านี้เราก็เจอกัน มีเป็นช่วงๆ ที่เราก็เจอกัน จะบอกว่าเหมือนเดิม ก็ไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมาก เพราะเราไม่ได้มีอะไรบาดหมางกัน เรายังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ตรงนี้สำคัญที่ทำให้เรามีกำลังใจอยู่ได้

         ทุกวันนี้ผมยังมองว่าคุณแพมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิตผม ที่อยู่กับผมมาในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (นิ่งคิด) แต่ ณ ทุกวันนี้ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โอกาสกลับมาเหมือนเดิม ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งจะเป็นแบบนี้ เราไม่ได้อยากไปคิด หรือหรือตั้งความหวังกับอะไรแล้ว

         ส่วนกระแสข่าวเรื่องว่า ผมเป็นเกย์หรือเปล่า ผมคิดว่าแล้วแต่คนจะคิด ที่ผ่านมาพอมีข่าว แม้กระทั่งคนใกล้ตัวก็ตีความไปต่างๆ นานาๆ ผมคงไม่ไปพูดหรืออะไร ตัวผมและคุณแพมรู้ดีว่าคืออะไร และมันเป็นเรื่องของเรา 2 คน คุณแพมตอบทุกอย่างไปชัดเจนมากแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าชู้ มีข่าวกับสาวๆ ก็อย่างที่เห็นกัน มันผ่านมานานมากแล้ว แต่มันไม่น่าจะใช่ประเด็นหรือปัจจัยในการตัดสินใจในตอนนี้ หลักๆ อยู่ที่คนสองคนเลย มีเท่านี้" ท็อปกล่าวสรุป