สายใยรักของ ‘ภูริ-น้องริชา’ น่ารักในแบบฉบับพ่อลูก (ชมคลิป)

         กำลังเป็นคุณพ่อมือใหม่ถอดด้าม สำหรับนักแสดงหนุ่ม ภูริ หิรัญพฤกษ์ ที่ตอนนี้มีโซ่ทองคล้องใจอย่าง “น้องริชา” ริชา หิรัญพฤกษ์ ลูกสาววัย 4 เดือนที่กำลังน่ารักน่าชังเลยทีเดียว วันนี้ คมชัดลึก เลยขอนัดแนะคุณพ่อมาดเข้ม พร้อมกับน้องริชา สาวตัวน้อยมาพูดคุยถึงชีวิตของการเป็นคุณพ่อครั้งแรก โดยมีคุณแม่ยังสาว “แอน” อลิชา หิรัญพฤกษ์ มาดูแลลูกสาวคนแรกแบบไม่ห่างเลยทีเดียว ซึ่งจุดนัดพบกันวันนี้ เรานัดกันที่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ย่านถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา

         เมื่อถึงเวลานัดหมาย ภูริ มาพร้อมกับลูกสาว และภรรยา พร้อมกับการแต่งตัวในสไตล์เท่ๆ เสื้อยืดกางเกงยีน กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับแอน โดยมีน้องริชากำลังนอนยิ้มอยู่รถเข็นเด็กอยู่ข้างๆ ทันทีที่หนุ่มภูริ และแอนเห็นทีมงานก็กล่าวคำสวัสดี พร้อมกับยกมือไหว้อย่างเป็นกันเอง ขณะที่กำลังจะเริ่มการสนทนากับคุณพ่อมือใหม่ น้องริชาที่กำลังนอนอยู่ในรถเข็นก็ไร้เสียงร้อง แถมยังนอนหลับตา แอนเลยหันบอกว่า “หลับแล้ว แต่เดี๋ยวเขาก็ตื่น” ฟากภูริก็พูดเสริมต่อว่า “เดี๋ยวค่อยถ่ายรูปกันเนอะ ตอนนี้ริชาหลับแล้วพี่” ภูริพูดเสร็จ พลางหันมาดื่มน้ำที่อยู่ข้างๆ ตัว และเริ่มการสนทนาถึงเรื่องราวชีวิตของคนเป็นพ่อเต็มตัว

         “จริงๆ ผมตื่นเต้นนะ ผมไม่ใช่มนุษย์พ่อ(ยิ้ม) เป็นคนไม่ใช่มนุษย์ครอบครัวเท่าไหร่ ชอบเดินทาง ชอบลุย ชอบแอดเวนเจอร์ ไม่ค่อยอยู่บ้าน พอมีครอบครัว มีลูกปุ๊บตอนแรกก็กังวล ชีวิตเราจะเหมือนเดิมมั้ย ชีวิตจะเปลี่ยนมั้ย ซึ่งจริงๆ มันเปลี่ยนนะ แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดี มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า เพราะว่าทุกครั้งที่เราไปเดินทาง เราจะมีจุดมุ่งหมายในการกลับมา อยากกลับมาบ้าน มาหาลูก อยู่กับครอบครัว ทำให้เรามีความสุขมีความเติมเต็ม”

         ภูริยังเล่าต่ออีกว่า ตอนนี้อยากให้ลูกสาว “น้องริชา” โตขึ้นเร็วๆ จะได้เดินทางไปด้วยกัน เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้โลกไปกับตัวเอง ยอมรับว่าตอนนี้เข้าใจคำว่า “พ่อ” จริงๆ และเข้าใจความรู้สึกพ่อของตัวเองมาก

         “พ่อเราเป็นพ่อ เลยทำให้ผมรักพ่อมากขึ้นเลยนะ เขามาในช่วงที่คุณพ่อผมต้องการอะไรบางอย่างเหมือนกัน คุณพ่อผมเขาอายุเยอะมากๆ แล้ว เขาคงเหงา เพราะผมไม่ค่อยได้อยู่กับท่าน มาตอนนี้ทุกๆ 2-3 วันเขาจะมาหาริชา แล้วเราก็พาริชาไปหาเขา พอเจอกันทำให้ครอบครัวเราแน่นแฟ้นขึ้น คุณพ่อผมเหมือนต้นไม้ที่ได้รับการรดน้ำ แล้วทำให้เบ่งบาน มีความสุข สดชื่น เราเห็นแล้วเราก็มีความสุขนะ การที่เรามีครอบครัว มีลูก ทำให้คุณพ่อเรามีความสุขขึ้นมากๆ เลย ริชาเขาเหมือนมาเติมเต็มให้ครอบครัวเราสมบูรณ์มากขึ้น คือเราเองก็รอมานาน แต่งงานมาหลายปีแล้ว พอรู้ว่ารอบนี้ติด ผมดีใจมากนะ คุณแอนเขาก็ดีใจ”

         นักแสดงหนุ่มยังเล่าให้ฟังต่อว่า พ่อของตัวเองเป็นฮีไร่มาก ยอมรับว่าครอบครัวตัวเองเป็นครอบครัวที่แตกแยกเหมือนกัน เพราะคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน ทำให้ต้องอยู่กับคุณพ่อมาตลอด ช่วงวัยเด็กพ่อจึงทำให้ทุกอย่าง ทั้งพาไปเรียน ไปเที่ยว และจะเป็นคนสอนทุกอย่าง แต่เมื่อช่วงวัย 10 กว่าขวบ คุณพ่อประสบอุบัติเหตุ ต้องนั่งรถเข็นมาตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าคุณพ่อจะกลายเป็นคนเดินไม่ได้ แต่คุณพ่อไม่เคยทำหน้าพ่อบกพร่องเลย ยังทำงาน หาเงิน ส่งให้ลูกเรียน ให้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่เคยรู้สึกลำบากเลย และสอนทุกๆ เรื่อง สอนในเรื่องการใช้ชีวิตด้วย

         “ที่ผมมีทุกวันนี้ได้ ก็เพราะพ่อด้วย พ่อเป็นต้นแบบของเราด้วย คือพอเราโตมีลูก เราก็คิดแบบเดียวกัน คือสิ่งที่เราน่าจะให้ลูกได้ คือเรื่องของความรักแหละ เราให้รักเขาเต็มที่ พยายามใกล้ชิดกับเขาให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าผมจะเลี้ยงลูกไม่เก่ง ความอดทนน้อย สู้คุณแม่เขาไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ผมไม่สปอยลูกอะไรมาก เพราะเราคงไม่มีอะไรให้เขาเยอะอยู่แล้ว เราคงเลี้ยงเขาแบบลุยๆ เลี้ยงเขาแบบที่พ่อแม่เลี้ยงเรา เราอยู่กับดินกับทรายยังไง อยู่กับธรรมชาติยังไง ลุกเราก็อยู่แบบนั้น คือผมกับแอนเราเป็นคนรักธรรมชาติเหมือนกัน เราอยากให้ลูกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเหมือนเรา ตอนนี้เขาก็เริ่มไปเหยียบทรายที่ทะเล เหลือไปปายก็ให้เขาไปเหยียบหญ้า ไปคราวที่แล้ว มันหน้าฝน เลยยังไม่ให้เขาเหยียบ เพราะเขายังเด็ก ให้เดินเล่นไปก่อน ผมว่าเด็กที่อยู่กับธรรมชาติ เขาจะมีความสุข”

         ส่วนหน้าที่ในการเลี้ยงลูกนั้น ภูริเผยว่าเป็นหน้าที่ของ “แอน” อลิชา เป็นหลัก แต่ฝ่ายคุณพ่อจะเป็นตัวเสริม สามารถทำได้ทุกอย่าง เปลี่ยนแพมเพิสได้ แม้ว่าจะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เทคโนโลยีก็สามารถทำให้ได้เห็นหน้าลูกผ่านการเฟซไทม์ได้

         “ตอนนี้ความสุขของผม คือเวลาผมกลับมาบ้าน แล้วเขายิ้มดีใจแล้วก็กรี๊ด เหมือนได้เห็นพ่อ คือเขาเริ่มจำได้แล้ว นี่คือความสุขของผมแล้วนะ ความสุขของพ่อ(ยิ้ม) ริชาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายนะ อารมณ์ดี ยิ้ม หัวเราะ กินง่าย หลับง่ายเป็นเวลา ตั้งแต่ตอนเดือนครึ่ง เขาเริ่มนอนตั้งแต่สองทุ่มถึงตี่ห้า มีเมื่อคืนตื่นมาตอนตีสอง สงสัยตื่นเต้นจะมาถ่ายสกู๊ปกับคมชัดลึก(หัวเราะ) (พ่อที่มีลูกสาว ส่วนใหญ่จะบอกว่าหวงลูกต้องไว้หนวดไว้เครา) ผมไม่ได้หวงอะไรเขามาก อยากให้เขากินเยอะๆ อ้วนมากๆ จะได้อยู่กับผมนานๆ ผมว่าหลักๆ คือสอนให้เขาเป็นคนดี มีเกาะป้องกัน ถ้าเขาเป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรม เขาก็จะเจอคนดีๆ ที่เหมาะกับเขา (ไม่ได้เลี้ยงแบบไข่ในหินใช่มั้ย ห้ามแตะ ห้ามมาจับ) ไม่นะ คือถ้าคนรู้จักผมให้อุ้มนะ แต่คนแปลกหน้า เดินมาจับลูกผม ผมก็งงนะ ผมไม่ได้รังเกียจนะ แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปจับอะไรมาหรือเปล่า กลัวจะมีเชื้อโรคมาหรือเปล่า เพราะปัจจุบันเชื้อโรคเยอะแยะไปหมด เราต้องโพรเทคส์ลูกเราพอสมควร คือบางทีเราคิดนะ ว่าสิ่งที่เราคิดกันอยู่มันถูกหรือผิดที่ให้ลูกเราอยู่ในโซเชียลเยอะๆ ลงรูปลูกเยอะๆ เราไม่อยากให้เขาอยู่ๆ เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ โดยที่เขายังไม่รู้เลยว่านี่ มันคืออะไร ชื่อเสียงเนี่ย มันมายังไง แล้ววันหนึ่งที่เขาไม่ดัง เขาจะรู้สึกยังไง เขาอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ ผมเลยอยากให้ลูกติดดินพอสมควรแล้วค่อยๆ สอนเขาไป เขาจะได้เรียนรู้”

       ทางด้านการวางแผนชีวิตของลูกนั้น ภูริบอกว่า ไม่ได้กำหนดว่าต้องให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้ อยากให้ลูกเลือกเอง เหมือนที่ตัวเองถูกเลี้ยงมา อันดับแรกที่คุณพ่อคุณแม่ให้ตัวเองมานั้นคือเรื่องของความรู้ สองคือเรื่องวุฒิภาวะต่างๆ เรื่องการเข้าสังคม มารยาทต่างๆ รวมไปถึงเรื่องจิตใจที่ต้องปลูกฝังให้ดี

         “ผมว่าเมื่อเขาถึงวัย ถึงเวลาที่เขาจะตัดสินใจเองได้ เราก็คงต้องให้เขาเลือก อะไรที่เขามีความสุขที่สุดก็ให้เขาทำตรงนั้น ถ้าเขามีความสุขกับการทำงานในวงการบันเทิง เราก็โอเค แล้วแต่เขาเลย ถ้าเขาบอกว่าหนูอยากเป็นสถาปนิก เราก็ตามใจเขานะ ผมและคุณแอน มีหน้าที่คอยสนับสนุน(ตอนนี้ถ้ามีงานโฆษณาติดต่อลูกมาจะรับมั้ย)โอ้ย...พร้อมเลย(หัวเราะ)ถ้าได้หลายๆ หลักหน่อยก็โอเค(ยิ้ม)” เรียกว่าตลอดการสนทนานั้น ภูริเผยให้เห็นสีหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม แห่งความสุข  เมื่อได้เล่าถึงการเป็นคุณพ่อ และมีลูกสาวอย่าง “น้องริชา”  

         หลังจากพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย หนูน้อยริชาก็ตื่นพอดี ช่างภาพเลยไม่รีรอขอแชะภาพทันที ขณะที่แอนกำลังอุ้มน้องริชาออกจากรถเข็น ซึ่งน้องริชาก็ยิ่้มอารมณ์ดีอย่างที่คุณพ่อภูริได้กล่าวไว้จริงๆ คราวนี้มาถึงคิวคุณพ่อขออุ้มน้องริชาบ้าง ซึ่งหนูริชาก็ยิ้มหวานให้กล้องทันที แหม...เรียกว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ  

         ระหว่างที่ช่างภาพได้เก็บความน่ารักของคู่พ่อลูก ภูริก็เล่นกับลูกสาว ด้วยการจับน้องริชายกขึ้นเหนือหัว ทำเอาน้องริชาชอบใจ ยิ้มร่าอยู่หลายครั้ง ฝั่งคุณแม่แอนก็ช่วยเรียกน้องริชา เพื่อให้มองกล้อง ซึ่งน้องริชาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หันมามองกล้องให้ช่างภาพกดชัตเตอร์แบบรัวๆ  เป็นอันได้ภาพน่ารักๆ ในแบบฉบับพ่อลูกอันแสนอบอุ่น 

         นี่แหละ ความน่ารักของครอบครัว “หิรัญพฤกษ์” ภูริ-แอน-น้องริชา