บันเทิง

จับมือเปิดใจ ‘ตุ้ย-อสมท’ เคลียร์เหตุปิด ‘ซี้ด’ (ชมคลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ตุ้ย” ธีรภัทร์ สัจจกุล พร้อม ผู้บริหาร อสมท เปิดใจถึงเหตุสั่งปิดซี้ด เอ็มคอท จำกัด


    หลังจากมีข่าวการสั่งปิด บริษัท ซี้ด เอ็มคอท จำกัด ที่ดำนินงานในคลื่น "ซี้ด 97.5 FM" ที่บริหารงานโดย “ตุ้ย” ธีรภัทร์ สัจจกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ล่าสุดด้านผู้บริหารคลื่นพร้อมเปิดใจ ควงคู่กับ พิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการและรักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท มาเปิดใจถึงเหตุการสั่งปิดครั้งนี้ โดยตุ้ยได้เปิดเผยว่า 

 

จับมือเปิดใจ ‘ตุ้ย-อสมท’ เคลียร์เหตุปิด ‘ซี้ด’ (ชมคลิป)


    “คงเป็นประเด็นอย่างที่ทราบกันว่าในส่วนของบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ที่ดำเนินการในส่วนของการผลิตคอนเทนต์คลื่นซี้ด 97.5 ก็คงจะต้องปิดตัวลง ในส่วนของการสานต่อคลื่น 97.5 ณ ตอนนี้ก็คงจะอยู่ในกระบวนการของการออกแบบและปรับเปลี่ยน ในอนาคตคงจะมีรูปแบบที่จะสอดรับกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ฟังผู้ชมมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลง เกิดจากทางส่วนของทีมงานซี้ดเองพยายามที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งฐานหลักของเราเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสื่อ แต่ก็ต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วบางทีมันไม่สอดคล้องกับทำงานที่พวกเราพยายามกัน ที่สุดแล้วพอมันไม่สอดคล้องกันในเชิงธุรกิจก็ไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องของรายรับรายจ่ายที่ขาดทุนนั้น ผมว่าหลักๆ เป็นประเด็นเรื่องของธุรกิจด้วย”
    ในส่วนของดีเจ. และพนักงานคนอื่นๆ ของบริษัทจะจัดการอย่างไร ตุ้ยเผยว่า “ส่วนนี้ก็คงจะมองเป็นในหลายๆ มิติ ถ้ามิติในส่วนของซี้ดก็คงจะต้องหยุดลง เพียงแต่ว่าโอกาสและจังหวะที่มันจะมีการดำเนินงานในอนาคตอย่างไรก็ต้องดูว่าผมสามารถจะนำเสนอโอกาสให้กับน้องๆ ได้ยังไง ตอนนี้คงอยู่ในช่วงเวลาที่ทำการบ้านกันอยู่ จริงๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ต้องบอกว่าในมุมของการสื่อสารก็คงจะต้องสื่อสารกับทีมงานและดีเจ.นั้น ต้องได้รับสัญญาณที่แน่ชัดจากบริษัทแม่คืออสมทก่อน หลังจากที่ทราบแล้วก็ได้มีการสื่อสารกับทีมงานและดีเจ.ไปในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ถามว่าทราบมานานแค่ไหนที่ซี้ดเอ็มคอทจะต้องปิดตัว อันนี้ต้องแยกเป็นประเด็นในมุมของมติก็คงจะเป็นการนำเสนอแนวทางเข้าไปในบอร์ดของอสมท เพียงแต่ว่าในมุมของแนวคิด และหลักการก็มีการประชุมร่วมกันมาตลอดผ่านทางกรรมการของซี้ดเอ็มคอท ผู้ใหญ่ทุกท่านก็ทราบสถานการณ์ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่กะทันหัน สถานการณ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนของผู้บริโภคก็ดี เศรษฐกิจก็ดี ภาวะการแข่งขันก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเรารับรู้กันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และพยายามที่จะหาทางปรับตัว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งในฝั่งของทางวิทยุก็ดี หรือทางสื่อออนไลน์ก็ดี แต่ต้องเรียนตามตรงว่าในมุมของซี้ดเอ็มคอทที่เราดำเนินการในฐานะของซี้ดอย่างเดียว ผมคิดว่าในนาทีนี้มันไม่สอดคล้องกับภาวะของตลาดผู้บริโภค ส่วนในมุมของอสมทที่จะดำเนินการต่อไปมันน่าจะสอดคล้องมากกว่า”

 

จับมือเปิดใจ ‘ตุ้ย-อสมท’ เคลียร์เหตุปิด ‘ซี้ด’ (ชมคลิป)


    ถามต่อว่าในประกาศบอกไว้ว่า ทางคลื่นไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการไม่เพียงพอ ตุ้ยตอบประเด็นนี้ว่า “คำว่าประสิทธิภาพในการทำงานในที่นี้ คือประสิทธิภาพในการปรับตัวดำเนินงาน ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ก็ต้องสอดคล้องกับเงื่อนไงของธุรกิจด้วย ผมคิดว่าในสองประเด็นที่พูดไป เราดำเนินงานกันอย่างเต็มที่แล้ว ใช้คำว่าเราพยายามที่จะปรับปรุงแก้ไข อย่างสุดความสามารถมาโดยตลอด ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้คือปัจจัยทางเทคโนโลยี ตัวนี้คือสิ่งหลักเลย”
    เหมือนคำนี้เป็นข้อความดิสเครดิตของตุ้ยหรือไม่ “ผมรู้สึกว่าในที่สุดแล้ว ผมทำอย่างเต็มที่ ถึงแม้พวกเราจะต้องแพ้เกม ผมก็รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ที่สุดแล้วเราต้องยอมรับในความพ่ายแพ้ และพยายามที่จะเดินต่อไป ในทางที่เราจะปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เราจะเดินต่อไปได้อีก”
ถามต่อว่าจะกลับมาร่วมงานกับ อสมท อีกหรือไม่ ตุ้ยเผยว่า “ยินดี หากว่าจะใช้ความสามารถที่มี สอดคล้องตามนโยบายของ อสมท ได้ (รู้สึกแย่ไหมกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเราเป็นผู้ปลุกปั้นคลื่นซี้ด มาตั้งแต่แรก) ถ้าพูดถึงความรู้สึกส่วนตัว ต้องมีแน่นอนเพราะเรารดน้ำพรวนดินมาตั้งแต่ยังเล็กๆ บังเอิญว่าต้นกล้าต้นนี้ก็เจอ อุปสรรคหลายด้าน เราพยายามจะรักษาไว้อย่างเต็มที่ เรามีความผูกพันทั้งทีมงานและผู้ฟังที่ติดตามกันมาโดยตลอด จนเข้าปีที่ 12 ผมคิดว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกัน จากนี้เราคงต้องเก็บความทรงจำที่ดีๆ ร่วมกันในนามของคลื่น ซี้ดแล้วเดินต่อไปข้างหน้า ” ตุ้ยกล่าว
    ในเมื่อคลื่น ซี้ด ไม่มีแล้วแต่สำหรับ บริษัท ซี้ด เอ็มคอท จะดำเนินต่อไปหรือไม่ ตุ้ยเผยว่า “สำหรับบริษัทคงต้องหยุดดำเนินงานภายในสิ้นปีนี้ ถามว่าในปีต่อไปจะมีโปรเจกท์อะไรต่อไปอีกหรือไม่ ผมคิดว่าคงไม่อยู่เฉยๆ หรอก ผมยังมีไฟอยู่คงต้องหาอะไรทำที่เรายังสนุกได้ ส่วนการร่วมงานกับอสมทในช่วงนี้คงต้องขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาสเท่าที่สามารถจะทำให้สอดคล้องกันได้ (รู้สึกแย่กับการทำงานวิทยุไปเลยหรือไม่) ไม่ถึงขนาดนั้นอย่างที่บอกเราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาในส่วนของการปรับตัวเรา จะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลง มีเดีย แลนด์สเคป มันค่อนข้างยากมาก แล้วยังมีปัจจัยหลายๆ อย่างทั้งเรื่องเศรษฐกิจก็ดี การขับเคลื่อนธุรกิจช่วงนี้ก็ประสบภาวะลำบากกันพอสมควร การที่จะดำเนินงานต่อไปผมคิดว่ามันคงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ ทั้งนี้ในส่วนของการทำงานที่ผ่านมาเรารู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อย คลื่นซี้ดได้ดำเนินงานมาถึง 12 ปี สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนรุ่นใหม่หลายๆ คนได้ ผมขอบคุณทุกๆ การสนับสนุนตลอดมา โดยเฉพาะ อสมท ศิลปิน จากค่ายต่างๆ ที่ให้คอนเทนต์ดีๆ กับเรามาโดยตลอด ทั้งสปอนเซอร์ ท้ายที่สุดคือกลุ่มผู้ฟังที่สนับสนุนเรามาโดยตลอด ขอบคุณทุกๆ ท่าน (อยากฝากอะไรถึงพนักงาน ดีเจ ที่เคยร่วมงานกันมา)ขอบคุณจากหัวใจจริงๆ เราเริ่มทำงานด้วยกันมาจากหัวใจ เราพยายามที่จะสร้างความสุขให้กับผู้ฟังชาว Seed ตลอดมา ขอบคุณที่รัก Seed มาโดยตลอด ขอบคุณที่รักกัน” ตุ้ยกล่าวทิ้งท้าย

 

จับมือเปิดใจ ‘ตุ้ย-อสมท’ เคลียร์เหตุปิด ‘ซี้ด’ (ชมคลิป)


    ทางด้าน พิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการและรักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เผยว่า “อย่างที่ทางตุ้ยได้บอกไป มีเดีย แลนด์สเคป มันเปลี่ยนไป เช่นเดียวกันที่ทางอสมท ได้รับผลกระทบเนื่องจากสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไปโดยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะฉะนั้นทางอสมทเองก็มีการประเมินและพูดคุยกันกับตุ้ยในฐานะผู้บริหารซี้ดเอ็มคอทมาตลอด พอถึงเวลาก็ตัดสินใจว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไป เพราะว่าในส่วนของการทำธุรกิจก็ทราบดีกันอยู่แล้วว่ามันเป็นสัจธรรมที่มีขึ้นก็ต้องมีลง ซึ่งทางอสมทก็ต้องขอบคุณผู้บริหารซี้ดเอ็มคอทที่ดำเนินการกับทางอสมทมาตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้อสมทแม้กระทั่งบริษัทซี้ดเอ็มคอทฯ เองเจริญรุ่งเรืองมาได้ช่วงหนึ่ง
    แต่เมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเปลี่ยนไป ในการทำธุรกิจแน่นอนต้องมีการวัดผลประกอบการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อไม่ได้เป็นไปตามระยะเวลา ตามแผนงาน หรือตามเป้าหมายก็ต้องมีการพูดคุยตกลงกันด้วยดี (ในอนาคต อสมท จะนำคลื่นไปดำเนินการเองใช่ไหม) ใช่ ทางอสมทก็จะเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ว่าตอนนี้ขออุบไว้ก่อน โดยตอนนี้ก็มีการวางแผนว่าจะนำเสนอรูปแบบของคลื่นเป็นลักษณะไหนให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ว่าในส่วนของการร่วมงานกับทางตุ้ยก็คงไม่มีปัญหา เพราะตุ้ยก็เป็นศิลปินที่น่ารัก ช่วยเหลือทางอสมทมาตลอดเวลา (แล้วในแง่ของการดูแลพนักงานหลังจากนี้) ในส่วนของพนักงานแน่นอนว่าอสมทก็ทำตามกฎหมาย มีการให้ค่าชดเชย” พิเศษ จียาศักดิ์ กล่าว
    พูดถึงภาพรวมกิจการของวิทยุของ อสมท โดยรักษาการผอ. กล่าวว่า "จากภาพรวมที่เห็นจากตัวเลขสถานการณ์ก็ตกลงเรื่อยเรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่วิธีดูอย่างเดียวมันมีทั้งสื่ออื่นแม้กระทั่งสื่อสิ่งพิมพ์เอง เจาะเทคโนโลยีเข้ามาแล้วทำให้พฤติกรรมการบริโภคอื่นๆ เปลี่ยนไป พฤติกรรมที่มาแรงมากคือ พฤติกรรมที่ผู้บริโภคมีพฤติกรรมใช้มือถือ และยังมีพฤติกรรมการไลฟ์สดผ่านทาง facebook อันนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคสามารถเป็นสื่อด้วยตัวเองไปในตัว ผมคิดว่าถ้ามันมาแรงขนาดนี้ทุกๆ อุตสาหกรรมก็คงได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน เพราะเชื่อถือโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว มีความสามารถมีความรู้ในการใช้แอพลิเคชั่น ในด้านตัดต่อทำได้ก็สามารถทำได้แล้ว วงการอื่นๆ ที่ถูกผลกระทบไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นวงการเพลง วงการหนัง นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ผลพวงมันกลายเป็นลูกโซ่ไปหมดเลย อยากจะให้โอกาสนี้ในทุกอุตสาหกรรมมีการพูดคุยกันถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปว่าเราจะทำอย่างไรในฐานะที่เราเป็นเจ้าของคอนเทนต์ ผมเชื่อว่าอย่างไรคอนเทนต์ก็ยังเป็นที่สุดอยู่ดี เพียงแต่เราต้องหาทางออกในการที่จะปรับเปลี่ยน ให้ทันกับเศรษฐกิจและภาวะเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างรวดเร็วมาก มีคำพูดหนึ่งที่ว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว แต่เป็นยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า ฉะนั้นอุตสาหกรรมทั้งหมดของเราที่เป็นอุตสาหกรรมคอนเทนต์ต้องมีการรับทราบภาวะเศรษฐกิจ แลกการแข่งขันที่รุนแรง เราต้องพูดคุยและหาทางร่วมกัน ผมว่าเราต้องพูดคุย เพราะทุกอย่างมันกระทบหมดและไม่ใช่ในประเทศไทยเท่านั้นทั่วโลกก็เกิดสภาวะเช่นนี้

 

จับมือเปิดใจ ‘ตุ้ย-อสมท’ เคลียร์เหตุปิด ‘ซี้ด’ (ชมคลิป)


    คลื่นใหม่ที่จะมาแทนคลื่นซี้ด สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายชัดเจนได้หรือไม่ว่าจะเป็นคลื่นของวัยรุ่นอยู่ รักษาการ ผอ. ตอบว่า “อาจจะเป็นกลุ่มคนที่เฉพาะที่ตอบโจทย์ในตลาดได้ดี อาจจะเป็นกลุ่มคนฟังที่สนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะทาง สมมติอาจจะเป็นแจ๊สก็ได้ หรือกลุ่มดนตรีคลาสสิคเพราะกลุ่มนี้ยังมีกลุ่มคนฟังอยู่ เพราะกลุ่มวัยรุ่น เขาฟังเพลง จากวิทยุน้อยลง เพราะเขาไปเลือกฟังในโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้วจะเห็นว่ามันเปลี่ยนไปมากเลยถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างในเชิงธุรกิจ ในเชิงของผู้บริหารในเชิงของการแข่งขัน มันจะไม่ใช่สิ่งที่ชาญฉลาดที่จะยื้อต่อไป ผมว่าทางตุ้ยเข้าใจทำธุรกิจมาต้องเข้าใจต้องแยกออกมาระหว่างเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวและเรื่องของการทำธุรกิจแน่นอนการทำธุรกิจการแข่งขันมันค่อนข้างรุนแรง การถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงไปในอย่างรวดเร็วคงไม่มีเวลามาพูดกัน โดยภาษา อ่อนน้อมอ่อนโยนการใช้ภาษาสุภาพอาจจะไม่ใช่ในเชิงธุรกิจการทำธุรกิจต้องแยกออกมาอีก ผมว่าทุกคนน่าจะเข้าใจ ตุ้ยเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะเข้าใจ มันเหมือนเกมกีฬาที่เราต้องยอมรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้แล้วเราต้องเอาสิ่งนั้นมาปรับปรุงแก้ไข (มั่นใจแค่ไหนกับคลื่นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น) ผมว่าไม่มีใครตอบได้มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ทุกคนเหมือนเดินไปในทางที่มืด เราเองก็มี เทียน อยู่เล่มเดียว ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอะไรในสิ่งที่ต้องทดลอง ประเทศเราก็อยู่ในช่วงนี้ ไทยแลนด์ 4.0 (แผนการพัฒนาปฏิรูปเศรษฐกิจ ของประเทศไทย) ทุกคนก็จะเห็นเหมือนกัน เราจะต้องเตรียมความพร้อม และคนที่เริ่มต้นใหม่เยอะแยะเลย ฉะนั้นมันก็ต้องมีการทดลอง เราทำสื่อเราก็รู้อยู่แล้ว เพลงออกมา 10 เพลงก็ ก็ขายไม่ได้ไป 9 เพลง ภาพยนตร์สิบเรื่องก็ขายไปไม่ได้สัก 9 เรื่อง ในตอนนี้เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นเราตอบไม่ได้ เราทำได้เพียงแค่ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ผ่านมา จับกลุ่มให้ได้ชัดเจนดูให้ชัดเจนขึ้นในทางธุรกิจ(ได้มองใครมาแทนตำแหน่งของตุ้ยหรือยัง) อันนี้เป็นเรื่องของสำนักวิทยุที่กำลังมองหาอยู่ ” รักษาการ ผอ. กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ