เปิดใจ “แอ๊ด คาราบาว” ถึงที่มาของเพลงเพื่อ “พ่อ”

 

 

          ไม่ค่อยจะออกงานสักเท่าไหร่ สำหรับ ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ล่าสุดได้เจอตัวศิลปินแห่งชาติ ในงานแถลงข่าว ภาพยนตร์สารคดี “My King ในหลวงของเรา...ความสุข ความทรงจำ นิรันดร” ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ห้องบอลรูม บีซี วอเตอร์เกทชั้น 6 ประตูน้ำ  สอบถามเกี่ยวกับการแต่งเพลง และร้องเพลงแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้ให้ตำตอบกับบันเทิง “คมชัดลึก” เกี่ยวกับเพลง “พ่อภูมิพล” 

 

 

         "ในความคิดของผม พระเจ้าอยู่หัวของเราพระองค์ท่านไม่เคยหยุดนิ่ง ท่านออกเยี่ยมเยียนพสกนิกร ไม่ว่าจะทุรกันดารขนาดไหน พระองค์ท่านต้องไปให้ถึง ไปบำบัดทุกข์บำรุงสุข นำโครงการต่างๆ ที่พระองค์คิดขึ้นกว่า 4 พันโครงการไปมอบให้ และติดตามดูความเจริญ ติดตามดูว่าชาวบ้านได้ทำไปถึงขนาดไหน หน่วยงานราชการที่ได้รับมอบหมายให้ไปช่วย ได้ทำจริงไหม เมื่อความคิดผมมีเช่นนี้ พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชน คำขึ้นต้นเพลงจึงขึ้นว่า “พ่อท่องไปทุกถิ่น เหยียบพื้นดินทุกตารางนิ้ว” จากยอดดอยจนถึงป่าชายเลน คือทุกๆ ที่ ที่พระองค์เข้าไปถึงจริงๆ ไม่ได้เข้าถึงแบบนักท่องเที่ยวนะ แต่พระองค์ไปทำงาน ไปส่งเสริมอาชีพ หรือแม้แต่การไปสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อน รวมทั้งการคิดค้นพืชพันธุ์ต่างๆ เช่น พันธุ์ปลานิล หรือพันธุ์ของหญ้าแฝก ที่จะเอามาปลูก เพื่อยับยั้งไม่ให้ดินถล่มหรือทรุด ผมเข้าถึงบรรยากาศรวมๆ จนมาสรุปในท่อนที่ 2 พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย นำความโศกเศร้ามาสู่พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ 

 

 

         สิ่งที่ตอกยํ้าในท่อนสุดท้าย คืออยากให้ทุกคนเจริญรอยตามพ่ออยู่หัว ตามสิ่งที่พระองค์วางไว้ให้ ที่สำคัญที่สุด คือความสามัคคี เพราะสิ่งที่พระองค์วางไว้ ข้อแรกคือ ความรู้ที่มาจากการปฎิบัติจริง จากการทดลองด้วยพระองค์เอง 2. ความรู้ที่พระองค์ท่านทำส่งเสริมให้สังคมรัก มีความเมตตา มีความเอื้ออาทรกัน นำไปสู่ความสันติ ความสงบที่แท้จริง มันอาจจะอยู่เหนือระบบระเบียบการเมืองด้วยซำ้ แม้ว่าเรามีประชาธิปไตยเป็นเป้าหมาย แต่ว่าการที่จะไปสู่ประเทศที่มีประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีความรู้ก่อน ถ้าประชาชนยังขาดความรู้อยู่ เราก็ไม่เหมาะกับระบบอย่างนี้ เราต้องเริ่มเตรียมตัวที่ประชาชนก่อน ประเทศที่เขาใช้ประชาธิปไตยแล้วประสบความสำเร็จ เพราะประชาชนเขามีความรู้ เมื่อคนมีความรู้คุยกันก็รู้เรื่อง เข้าใจ การรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมอย่างอเมริกา พอเลือกตั้งแล้วไม่พอใจ พอมีการพูดคุยก็เข้าใจ เพราะประชาชนเขามีความรู้ ส่วนเพลงถวายอาลัยที่ออกมากันนั้น คือศลปิน ก็มีหน้าที่สร้างงานศิลปะตามที่ตัวเองรังสรรค์ได้ตามความรู้สติปัญญา ผมอยู่ในฐานะศิลปินคนหนึ่ง ทุกคนทำเพื่อพระองค์ท่านให้เลือกฟังเอาก็แล้วกัน ชอบใครก็ฟังเอา ผมว่าเพราะทั้งนั้น ของพี่เบิร์ดก็เพราะ ของลูกทุ่งหลายคนก็เพราะ ของผมก็ไปอีกแบบ" แอ๊ดกล่าว

 

         นอกจากนี้ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตคนดัง ยังได้กล่าวถึงเพลง “ยิ้มให้พ่อ” ที่แต่งขึ้น ด้วยว่า “คือการที่เราจะทำให้พ่อมีรอยยิ้ม ถ้าจะให้พ่อมีรอยยิ้มก็คือ ต้องทำตามสิ่งที่พ่อสอน เป็นคนดี ซึ่งเพลงที่เกี่ยวกับในหลวงจะเขียนยากนะ ต้องระวังเรื่องคำราชาศัพท์ ของผมตั้งใจเขียนให้คนเข้าใจง่าย ให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ผมเลยไม่กังวลเรื่องคำสูงๆเท่าไหร่ พระองค์ท่านมีเรื่องให้เราเขียนเยอะ หลายแง่มุม เขียนได้ไม่มีวันหมด เอาเรื่องปลานิลมาเขียนก็ได้ เอาเรื่องความอัฉริยะทางด้านดนตรีของพระองค์ท่านมาเขียนก็ได้ อย่างเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” มีความงดงามมาก พระองค์ท่านเอาความรู้สึกเหมือนคนธรรมดาทั้งที่ท่านเป็นกษัตรย์ แต่คิดเหมือนคนธรรมดา ผมชอบเพลงนี้มาก เหมือนตัวผมเองเป็นนก ที่ออกมาจากรัง แล้วก็บินไปเดียวดายในสังคมที่กว้าง ผมเคยเขียนเพลง “ตุ๊กตา” ลักษณะเดียวกัน” แอ๊ดกล่าว

          ผู้สื่อข่าวคมชัดลึก ถามถึงเพลง “เทียนพุทธธรรม” ท่ี่แอ๊ดเขียนขึ้น เพื่อยกย่อง และยินดีกับพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยฺตฺโต) วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม ที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ใช่หรือไม่ แอ๊ดกล่าวดังนี้ “ผมแต่งให้เจ้าคุณประยุทธ์ ซึ่งตอนนั้นเวลาผมกลับไปสุพรรณบุรี มันมีสถานที่ที่ผมมักจะไปไม่กี่ที่หรอก หนึ่งในนั้น ที่เป็นที่โปรดของผม ก็คือไปเยี่ยมบ้านเดิมของเจ้าคุณประยุทธ์ เป็นบ้านที่ท่านเกิด การไปครั้งนั้น ก็ได้เจอกับกรรมการบอกว่า วันที่ 12 มกราคมท่านจะครบรอบวันเกิด ที่นี่ก็จะจัดงาน ผมเคยเล่นแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้กรรมการก็อยากเชิญไปเล่นอีก และอยากให้ผมช่วยแต่งเพลงให้ด้วย แต่ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เลื่อนเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผมเลยแต่งเพลง “เทียนพุทธธรรม” ออกมา คือแต่งออกมาได้ 2 อาทิตย์ปรากฏว่าท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ ผมได้ไอเดียจากบทความของท่าน ว.วชิรเมธี มาสร้างเป็นบทเพลง และทั้งนี้ผมก็ต้องไปอีกครั้ง เพื่อเขียนเพลงพระพุทธโฆษาจารย์อีกเพลง ซึ่งตอนนี้ ยังไม่ได้ลงมือเขียนกำลังนึกๆ รวบรวมทำการบ้านในหัวอยู่” แอ๊ดอธิบาย

 

         เมื่อถามถึงบทเพลงแต่ละบทเพลงของแอ๊ด คาราบาว ที่ออกมา มีเนื้อหาค่อนข้างตรงชัดเจนเป็นความตั้งใจหรือเป็นแนวถนัด

         “ผมก็อายุมากแล้ว ได้เห็นได้รู้เรื่องราว ลองผิดถูกมาเยอะแล้ว ได้เจอคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งเราไม่มีโอกาสได้สัมผัสพระองค์ท่าน แต่เรามีโอกาสสัมผัสจากพระพุทธศาสนา เลือกศึกษาจากพระที่เป็นพระแท้ๆ เช่น เจ้าคุณประยุทธ์ ท่านว.วชิรเมธี พระพยอม พระพุทธทาส แต่ละท่าน ก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไป บุคคลที่มีปรัชญาแฝงมาด้วย เช่น คำว่า “ธรรมาธิปไตย” ถ้าบ้านเรามีคำนี้ ก่อนที่จะไปถึงคำ “ประชาธิปไตย” มันถึงจะยอดเยี่ยมสำเร็จ” แอ๊ดกล่าวสรุป